จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ดร.บุญมี ศิริ จากภาควิชาพืชศาสตร์และทรัพยากรการเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) บอกทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า เทคโนโลยีการพอกเมล็ดพันธุ์นั้น ช่วยให้เมล็ดพันธุ์มีขนาดเมล็ดสม่ำเสมอและได้ขนาดที่ต้องการ เหมาะแก่เมล็ดพันธุ์ขนาดเล็กมากๆ (ใกล้เคียงเศษผง) เช่น เมล็ดพันธุ์ยาสูบ เมล็ดพันธุ์เมืองหนาว เป็นต้น โดยจะพอกด้วยดิน ปูนหรือแคลเซียม แล้วผสมสารบางอย่างที่มีคุณสมบัติเหมือนกาว ทำให้เมล็ดพันธุ์มีขนาดใหญ่ขึ้น ในการพอกเมล็ดยังเพิ่มสารอาหารหรือปุ๋ยเพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่ดี กว่าเดิม และยังเคลือบสารป้องกันโรคและแมลงได้ดีกว่าการเคลือบเมล็ดพันธุ์โดยตรง เนื่องจากจากเมล็ดพันธุ์มีโปรตีนเคลือบทำให้สารเคลือบเกาะผิวได้ยากกว่า เมล็ดพันธุ์ที่พอกให้ขนาดโตขึ้น และยังเพิ่มมูลค่าให้แก่เมล็ดพันธุ์ที่มีรูปร่างไม่สวยงามและเกษตรกรปฏิเสธ การรับซื้อ แม้ว่าเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นจะให้ลักษณะพันธุ์ได้ครบถ้วนไม่ต่างจากเมล็ด พันธุ์ที่มีรูปร่างสวยงามก็ตาม ดร.บุญมีตัวอย่างประโยชน์ของการพอกเมล็ดพันธุ์ว่า ในกรณีของเมล็ดพันธุ์ยาสูบที่เล็กมากๆ นั้น เกษตรกรจะปลูกโดยผสมกับขี้เถ้าแกลบ ก่อนหว่านลงแปลง หรือผสมในบัวรดน้ำแล้วราดไปบนแปลง ซึ่งมีโอกาสที่เมล็ดพันธุ์จะยังคงเกาะกัน และงอกขึ้นมาเบียดกัน แย่งสารอาหารกันและไม่แข็งแรง จึงถูกโรคทำลายได้ง่าย แต่เมื่อพอกให้เมล็ดโตขึ้นแลว้สามารถนำไปเพาะในถาดเพาะก่อนนำไปปลูกได้ โดยเมล็ดพันธุ์ยาสูบที่พอกเมล็ดแล้วจะมีราคาที่กิโลกรัมละ 180,000 บาท แต่ราคาของเมล็ดที่ไม่พอกอยู่ที่กิโลกรัมละ 50,000 บาท สำหรับเมืองไทยเทคโนโลยีการพอกเมล็ดยังเป็นเรื่องใหม่ และนอกจาก มข.แล้ว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เป็นอีกสถาบันที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีการพอกเมล็ด ซึ่ง ดร.บุญมีกล่าวว่า การพอกเมล็ดพันธุ์ให้ขึ้นรูปตามต้องการไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อว่าในอนาคตจะมีเทคโนโลยีการพอกเมล็ดพันธุ์มากขึ้น นอกจากการพอกเมล็ดพันธุ์แล้ว ดร.บุญมียังพัฒนาเทคโนโลยีการเคลือบเมล็ดพันธุ์ ทั้งพัฒนาสารเคลือบเพื่อป้องกันโรคและแมลง และเครื่องเคลือบ โดยปกติเกษตรกรจะนำเมล็ดพันธุ์ลงไปคลุกกับสารเคมีป้องกันโรคและแมลง แต่วิธีดังกล่าวทำให้สารเคลือบติดไม่สม่ำเสมอ และเกษตรกรต้องสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง ขณะเดียวกันเครื่องเคลือบจากต่างประเทศยังมีราคาแพงตั้งแต่ 1.5 ล้านบาท ทำให้เกษตรกรรายเล็กไม่มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยี จากข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีเคลือบเมล็ดพันธุ์ ดร.บุญมีจึงได้รับทุนวิจัยจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเคลือบเมล็ดพันธุ์ และทำสำเร็จแล้ว โดยเขาได้พัฒนาเครื่องเคลือบที่มีราคาถูกกว่าต่างประเทศ 5 เท่า แต่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน และพัฒนาสารเคลือบซึ่งเป็นตัวอย่างที่จะเชื่อมสารเคมีให้ติดเมล็ดพันธุ์ อย่างสม่ำเสมอและได้จดสิทธิบัตรแล้ว ทั้งนี้ ดร.บุญมีได้จัดเทคโนโลยีการพอกเมล็ดพันธุ์ รวมทั้งเทคโนโลยีการเคลือบเมล็ดพันธุ์ ภายในงานการประชุมคลัสเตอร์เมล็ดพันธุ์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ระหว่างวันที่ 4-5 ก.พ.56 และมีตัวแทนทั้งจากภาครัฐ เอกชน และเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 200 คน |
||||
|
||||
|
||||
|
||||
|
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต