จาก เดลินิวส์ออนไลน์
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับที่สามมีปริมาณส่งออก 5 ล้านตัน รองจากประเทศอินเดียที่มีปริมาณการส่งออก 10 ล้านตันตามด้วยเวียดนาม 7 ล้านตันส่วนด้านศักยภาพในการผลิตข้าว ประเทศที่ทำนาแล้วได้ข้าวมากที่สุดในเอเชีย คือ เกาหลีใต้ได้ข้าว 1,150 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนประเทศที่ผลิตข้าวได้มากที่สุดในอาเซียน คือ เวียดนาม ได้ข้าว 862 กิโลกรัมต่อไร่ ต่อด้วยอินโดนีเซีย ฟิลิปินส์ มาเลเซีย และอันดับ 5 คือ ประเทศลาว ผลิตข้าวได้ 589 กิโลกรัมต่อไร่ในขณะที่ไทยตามเป็นอันดับ 6 คือ ได้ข้าว 454 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในกลุ่มเดียวกับกัมพูชามีปริมาณเพียง 443 กิโลกรัมต่อไร่
นายอดิศร พวงชมภู ประธานโครงการทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสนบาท หอการค้าไทยกล่าวว่าจากข้อมูลดังกล่าว ทางหอการค้าไทยจึงนำแนวทางเกษตรทฤษฏีใหม่ประยุกต์มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับ สถานการณ์มากขึ้น หากประเทศไทยยังคงยึดแนวการทำนาในแบบเดิมเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตให้ สูงขึ้นอาจจะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในตลาดโลกตกต่ำลงและ ส่งผลกระทบกับชีวิตของชาวนาไทย 3.7 ล้านครอบครัวในอนาคตอย่างแน่นอน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตและศักยภาพรายได้ให้กับเกษตรกรไทย พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯจึงร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีสรรพสิ่ง เปิดการอบรมวิชาทำนา 1 ไร่ ได้เงิน 1 แสนขึ้นวันที่ 25-27 มกราคม 2556 ที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการต่อเนื่องมาแล้วเป็นปีที่ 3 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับความสนใจในการสมัครเข้ามาอบรมวิชาทำนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีโครงการรับจำนำข้าวเกวียนละ 15,000 บาท ทำให้ชาวนามีรายได้เฉลี่ยไร่ละ 6,800 บาทเท่านั้น ยิ่งทำให้เกษตรกรสนใจนา 1 ไร่ 1 แสนบาทมากขึ้น ในขณะที่แปลงนาใหญ่ภายใต้โครงการแก้จนแก้จริง ที่ตำบลบางตะไนย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่เกิดจากความร่วมมือของ 4 หน่วยงานใหญ่ คือ ธกส. หอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและสปก.มีคนเข้าชมมากกว่า 20,000 คนในเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนั้น แปลงนาที่เป็นต้นแบบของการอบรมที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ก็มีคนเข้าชมมากกว่า 20,000 คน เช่นกัน
การฝึกอบรมหลักสูตรทำนา 1 ไร่ได้เงิน 1 แสนบาท ถือเป็นหลักสูตรเดียวในประเทศไทยที่มีการเรียน การสอนวิธีทำนาส่วนวิธีการมีการทำแปลงนาต้นแบบที่สัมผัสได้จริงซึ่งการฝึก อบรมที่ผ่านมามีบางรุ่นที่ผู้เข้าอบรมไม่มีชาวนาเลยแต่เป็นผู้ที่มีการศึกษา ตั้งแต่ ม.3 ถึงปริญญาโทนั่นแสดงให้เห็นว่าคนทั่วไปที่มีความรู้ การศึกษาเริ่มหันมาสนใจอาชีพชาวนามากขึ้นหลายคนถึงกับทิ้งงานเงินเดือนสูงมา อบรมเนื่องจากเห็นว่าเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตจากการกินอาหารที่ปลูกด้วยเคมี ได้แต่อากาศบริสุทธิ์ ไม่มีวันเกษียณอายุ และที่สำคัญคือ ค่าครองชีพต่ำ รายได้กำหนดให้สูงได้ต่ำได้ แล้วแต่ตัวเองกำหนด
นอกจากนี้ มีนายทหารระดับสูงได้แสดงความสนใจที่ผลักดันโครงการ 1ไร่ได้เงิน 1 แสนบาทอบรมให้กับทหารเกณฑ์ที่กำลังปลดประจำการปีละ 170,000 นาย เพื่อเป็นการสร้างอาชีพให้กับทหารเกณฑ์และสร้างแหล่งอาหารให้กองทัพและสร้าง กองทัพ “ชาวนาอัจฉริยะ” อีกด้วย นอกจากนี้กระทรวงยุติธรรมยังสนใจที่จะเปิดสอนอบรมโครงการทำนา 1 ไร่ได้เงิน 1 แสนบาท ให้กับนักโทษทั่วประเทศหลายแสนคน ให้มีวิชาชีพติดตัวหลังจากพ้นโทษอีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าอบรมได้ที่เว็บไซต์ www.wisdomking.or.th หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-5291972, 02-5292213 ต่อ 103 02-5292212-13 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ปิดรับสมัครวันที่ 20 มกราคม 2556 เพียง 150 ท่านเท่านั้น.
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต