จาก เดลินิวส์ออนไลน์
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ ผู้อำนวยการบริหารโครงการ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา กรมชลประทานจัดประชุมปฐมนิเทศโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่จังหวัดนครปฐม สุพรรณบุรี และชัยนาท มีประชาชนและผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็น และเสนอแนะแนวทางที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่าง หลากหลาย ซึ่งกรม ชลประทานจะนำมาใช้ประกอบและปรับปรุงการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องและสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงตามความต้องการของประชาชนใน พื้นที่มากที่สุด
สำหรับโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมการบริหารจัดการน้ำใน พื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก มีขอบเขตและแนวทางการศึกษาครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ 1. การศึกษาจัดทำแผนรวมการบริหารจัดการน้ำพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก 2. การศึกษาความเหมาะสม 3. การศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 4. การศึกษาผลกระทบทางสังคม และ 5. การดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ มวลชนสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชา ชน คาดว่า ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในตุลาคม 2556
ทั้งนี้กรมชลประทานมุ่งเน้นการศึกษาในเชิงวิชาการอย่างรอบด้าน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างเป็นระบบ ผลการศึกษาจึงสามารถบูรณาการสู่การปฏิบัติร่วมกันได้ทุกหน่วยงาน และเป็นข้อมูลสนับสนุนการทำงานภายใต้แผนแม่บทสำหรับการบริหารจัดการน้ำอย่าง ยั่งยืน ของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เพื่อเป็นการวางระบบการจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศไทย
โดยจะผันน้ำส่วนเกินลงสู่อ่าวไทยไปฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ร่วมกับการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำทางตอนล่างของลุ่มน้ำ เช่น การขุดลอกและปรับปรุงลำน้ำช่วงที่แคบ การขุดลอกคลองระบายน้ำสายใหม่
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ได้มีการศึกษาโครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาไว้แล้ว เหลือเฉพาะฝั่งตะวันตก กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมการ บริหารจัดการน้ำพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจะศึกษาครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี นนทบุรี สมุทรสาคร กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และกรุงเทพมหานคร.
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
