สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พื้นที่ทำนาไทย31จ.เหลือแค่13ล.ไร่

จาก โพสต์ทูเดย์

เกษตรฯ เผยพื้นที่มีศักยภาพปลูกข้าวไทยเพียง 31 จังหวัด กว่า 13 ล้านไร่ ทำนาไม่พอกิน

นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการข้าว กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดทำฐานข้อมูลแผนที่เขตศักยภาพการผลิตข้าวของประเทศแล้วเสร็จ โดยประเมินจากคุณภาพดิน ชนิดของดิน ปริมาณ|น้ำฝน สภาพอากาศที่ทำให้ผลผลิตต่อไร่สูง พบว่ามี 31 จังหวัดที่มีศักยภาพในการปลูกข้าวนาปีของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นข้อมูลสำคัญในการกำหนดพื้นที่โซนนิงเขตปลูกพืชเศรษฐกิจ ตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ ข้อมูลพื้นที่เหมาะสมกับการปลูกพืชเศรษฐกิจของกระทรวงเกษตรฯ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ได้มีการสำรวจในพืช 6 ชนิด คือ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน สรุปว่าพื้นที่ปลูกข้าว 75 ล้านไร่ มีพื้นที่เหมาะสมมากกับการปลูกข้าว ซึ่งได้ผลผลิต 710 กิโลกรัม (กก.) ต่อไร่ ประมาณ 1.6 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 1.1 ล้านตัน

พื้นที่เหมาะสมปานกลาง ผลผลิต 585 กก.ต่อไร่ ประมาณ 44.2 ล้านไร่ ผลผลิต 25.8 ล้านตัน พื้นที่เหมาะสมเล็กน้อย ผลผลิต 532 กก.ต่อไร่ ประมาณ 14 ล้านไร่ ผลผลิต 7.8 ล้านตัน และพื้นที่ไม่เหมาะสม ผลผลิต 329 กก.ต่อไร่ ประมาณ 13.2 ล้านไร่ ผลผลิต 4.3 ล้านตัน

สำหรับพื้นที่ 13 ล้านไร่ที่ไม่เหมาะกับการปลูกข้าวส่วนมากเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัด 56 จังหวัดที่มีสถาบันเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ พัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง รวมทั้งสถานภาพปัจจุบันของโครงการ เพื่อขับเคลื่อนแนวทางการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และให้ร่วมกันป้องกันการทุจริตในโครงการ ซึ่งขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เตรียมการที่จะเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ภายหลัง ที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ร้องให้เข้ามาตรวจสอบโครงการ

“ได้ย้ำให้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบปัญหาเร่งด่วนของการดำเนินโครงการ เช่น การสวมสิทธิ โกดังสำหรับเก็บรักษาสต๊อกยางที่มีไม่เพียงพอ และชี้แจงให้เกษตรกรเข้าใจว่าการดำเนินการโครงการจะไม่มีการเรียกเก็บเงิน ใดๆ จากสถาบันเกษตรกรหรือชาวสวนยางทั้งสิ้น หากพบว่ามีการทุจริต ให้ส่งหลักฐานต่างๆ มาที่กระทรวงเกษตรฯ ทันที” นายยุทธพงศ์ กล่าว

สำหรับแผนการรับซื้อยางจากสถาบันเกษตรกร ตามหลักเกณฑ์ใหม่ ซึ่งต้องเป็นรายย่อยที่กรีดยางได้วันละ 2 กก.ต่อไร่ ไม่เกิน 17 วันต่อเดือน และมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ไร่ต่อราย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2556 โดยปริมาณรับซื้อรวม 1.7 ล้านตัน มูลค่าการรับซื้อยางกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวคาดว่าปริมาณยางอาจจะไม่ถึง 3 แสนตัน โดยลดจำนวนวันรับซื้อลงเหลือ 17 วันต่อเดือน จากเดิมที่รับซื้อทุกวัน


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view