จากประชาชาติธุรกิจ
ร้านกาแฟวันนี้ด้วยจำนวนผู้เล่นที่มหาศาลในตลาด ขณะเดียวกันในความเป็นกาแฟที่อาจฉีกกันยากมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้หนีกันไม่พ้นที่แต่ละค่ายจะต้องสร้างรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะกับ ร้านกาแฟ "พรีเมี่ยม" ที่เปิดให้บริการตามศูนย์การค้า หรือไพรมแอเรียต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ
หาก สำรวจแนวรบของร้านกาแฟวันนี้ นอกจากแข่งขันเรื่องรสชาติกาแฟ บรรยากาศของร้าน การบริการ รวมถึงลูกเล่นใหม่ ๆ ที่งัดออกมาดึงดูดคอกาแฟ และคนรุ่นใหม่ทั้งหลาย อีกกลยุทธ์หนึ่งที่วันนี้ร้านกาแฟพยายามสร้างจุดขาย จากเดิมที่จะมีเพียงเมนูอาหารแบบเบา ๆ เบเกอรี่, เค้ก หรือแซนด์วิช ก็เริ่มพัฒนาสู่เมนูอาหารเป็นมื้อ ๆ เพื่อดึงผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการในมื้อกลางวันและมื้อเย็น อุดช่องว่างระหว่างวัน
เนื่องจากธรรมชาติของผู้บริโภคในการดื่มกาแฟ จะเน้นในช่วงสายและบ่าย หรือที่เรียกว่า "คอฟฟี่เบรก" ระหว่างมื้ออาหารหลัก ส่งผลให้เกิดช่องว่างในช่วงเวลามื้ออาหารซึ่งเป็นโจทย์หลักที่
ผู้ประกอบการร้านกาแฟต้องการหาเมนูมาเติมเต็มในช่วงเวลาดังกล่าว มากกว่านั้นยังตอบโจทย์เรื่องการขยายฐานลูกค้าที่อาจไม่ได้เป็นคอกาแฟจ๋า
จริง ๆ แล้วรายแรกที่ถือเป็นโมเดลในคอนเซ็ปต์นี้ต้องยกให้กับ "แบล็คแคนยอน" ที่ถือเป็นค่ายแรกที่เข้ามาสู่ธุรกิจนี้ตั้งแต่กว่า 10 ปีที่แล้ว ถึงปัจจุบันต้องบอกว่าสิ่งนี้ได้กลายเป็นกระแสของร้านกาแฟในยุคนี้
ตั้งแต่ ปีที่แล้วทั้ง "สตาร์บัคส์" และ "คอฟฟี่เวิลด์" พร้อมใจกันเปิดคอนเซ็ปต์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน แน่นอนว่าเมื่อผู้นำอย่าง "สตาร์บัคส์" หันมาเปิดเกมรุกในเรื่องนี้ ก็ทำให้ทุกค่ายต้องปรับกระบวนพอสมควร
"เมอร์เรย์ ดาร์ลิ่ง" กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในช่วงเปิดตัวคอนเซ็ปต์ดังกล่าวที่สาขา
เอ็ก เชนจ์ ทาวเวอร์ อโศก เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้วว่า เป็นเมนูรองรับมื้ออาหารเร่งรีบ อาทิ พาสต้า ลาซานญ่า ซุป สลัด ฯลฯ เพื่ออุดช่องว่างอาหารมื้อกลางวันของสตาร์บัคส์ที่ไม่มีให้บริการอย่าง ชัดเจน
ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มความถี่และขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และปีนี้สตาร์บัคส์มีแผนจะเปิดอีก 1-3 สาขา โดยเน้นโลเกชั่นในสำนักงานที่ผู้บริโภคมีเวลาเร่งรีบ ต้องการมื้ออาหารที่ใช้เวลารวดเร็ว
ขณะที่ "จีเอฟเอ" ผู้บริหารร้านคอฟฟี่เวิลด์ ก็ได้เปิดตัว "คอฟฟี่เวิลด์ เรสเตอรองต์" โดยผู้บริหารของคอฟฟี่เวิลด์ให้เหตุผลว่า เพื่อตอบสนองเทรนด์ของตลาด และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมรับประทาน อาหารนอกบ้านมากขึ้น ที่สำคัญเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ที่ตอบโจทย์เรื่องการขยายฐานลูกค้าของคอ ฟฟี่เวิลด์ให้กว้างขึ้น
บริษัทได้ทดลองแรกที่โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ในปี 2554 ก่อนจะเปิดสาขาที่เป็นแฟลกชิปสโตร์ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าเมกาบางนา ให้บริการอาหารเต็มรูปแบบ มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มบริการให้เลือกมากกว่า 100 รายการ และมีเคาน์เตอร์ "คอฟฟี่เวิลด์" คอยให้บริการเครื่องดื่มต่าง ๆ
จริง ๆ แล้วจะเห็นได้ว่าปัจจุบันร้านกาแฟแต่ละค่ายต่างนำอาหารว่างต่าง ๆ แนวเวสเทิร์นเข้ามาเสริมบริการ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มมูลค่าต่อบิลให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น "บลูคัพ" ของเอสแอนด์พี ที่ขยับขยายออกมาอยู่นอกร้านเอสแอนด์พี ที่มีเมนูอาหารเบา ๆ อย่างแซนด์วิช และฮอตด็อกเป็นทางเลือก หรือจะเป็น "คอฟฟี่บีน แอนด์ ทีลีฟ" มีให้บริการแซนด์วิช, สลัด, เบเกิล ฯลฯ
รวมถึง DEAN & DELUCA คาเฟ่สไตล์ "กูรเมต์สโตร์" ชื่อดังของมหานครนิวยอร์ก ที่เข้ามาเปิดสาขาในไทย สำรวจเมนู มีหลากหลายทั้งสลัด แซนด์วิช เบเกอรี่ ฯลฯ รวมถึงร้านกาแฟพรีเมี่ยมจากเกาหลี "ทัม เอ็น ทัมส์" ซึ่งวางตำแหน่งเดียวกับ "สตาร์บัคส์" โดยชูจุดต่างสำคัญ คือ การเพิ่มเมนูอื่น ๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของร้าน อาทิ เพรตเซล, แซนด์วิช, ขนมปังอบ ฯลฯ
"วิวัฒน์ เด่นดีวณิช" กรรมการบริษัท ทัม เอ็น ทัมส์ โฮลดิ้งส์ ผู้บริหารร้านกาแฟทัม เอ็น ทัมส์ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันนี้ตลาดกาแฟพรีเมี่ยมแข่งขันสูงมาก ทุกค่ายพยายามหาจุดต่างของตัวเองเพื่อดึงดูดลูกค้า ราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ แต่ต้องเน้นที่บรรยากาศ การให้บริการ และกิมมิกต่าง ๆ ที่ต้องเพิ่มเติมเข้ามา
"ธรรมชาติของผู้บริโภคกาแฟอย่างหนึ่งคือ อาจจะไม่ได้มีเป้าหมายมาทานกาแฟ รสชาติกาแฟจริง ๆ ถ้าเป็นระดับพรีเมี่ยมจะไม่ได้ต่างกันมากนัก ราคาก็ไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่สำคัญผู้บริโภคต้องการหาที่นั่งพักสบาย ๆ ร้านกาแฟที่เปิดในศูนย์การค้า สังเกตว่าต้องเน้นพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ มีที่นั่งเพียงพอ บรรยากาศสบาย ๆ รวมถึงหากิมมิกใหม่ ๆ มานำเสนอ"
วันนี้เทรนด์ของ "คาเฟ่" คือกาแฟผสมผสานอาหาร จึงเป็น "แนวรบใหม่" ของบรรดากาแฟพรีเมี่ยมในไทยที่นับวันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
