สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีผลต่อต้นทุนเกษตร6-15%

จาก โพสต์ทูเดย์

สศก.ประเมินค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทกระทบต้นทุนสินค้าเกษตร โดยเฉพาะถั่วเหลืองที่ต้นทุนเพิ่มกว่า 15%

นายสุรศักดิ์ พันธ์นพ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ผลกระทบค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่มีต่อภาคเกษตร เบื้องต้นพบว่าค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นจะมีผลต่อต้นทุนการผลิตในภาคเกษตร ที่จำเป็นต้องใช้แรงงานในการผลิตทุกชนิด เฉลี่ยอยู่ที่ 6-15% สำหรับพืชเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่ ถั่วเหลือง มีต้นทุนเพิ่มขึ้นคิดเป็น 15.62% รองลงมาได้แก่ ยางพารา 14.46% อ้อย 12.22% มันสำปะหลัง 10.70% ข้าวนาปี 9.86% ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 9.70% ปาล์มน้ำมัน 6.79% และไม้ผล มีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 13% ส่วนด้านปศุสัตว์และประมงได้รับผลกระทบน้อย ยกเว้นประมงทะเลที่จำเป็นต้องใช้แรงงานอาจจะมีผลต่อต้นทุนเพิ่มขึ้นบ้าง

ส่วนภาคการผลิตอุตสาหกรรมเกษตร โดยเฉพาะที่มีขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี เช่น โรงงานสับปะรดกระป๋อง อาหารทะเลแช่แข็ง จะได้รับผลกระทบพอสมควรเนื่องจากใช้อัตราค่าจ้างเช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้ภาระต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13% ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น และอาจกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากราคาสินค้าของไทยสูงกว่าประเทศอื่น ดังนั้นเกษตรกรจำเป็นต้องปรับตัว โดยการลดต้นทุนการผลิต ใช้พันธุ์ที่ดี ลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร และมุ่งเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทั้งตลาดในและต่างประเทศ

"สศก.ยังต้องติดตามข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาข้อสรุปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากปัจจุบันภาคเกษตรส่วนใหญ่มีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรทดแทนแรง งานคน และใช้แรงงานในครัวเรือนเป็นหลัก อีกทั้งผลกระทบในเรื่องค่าจ้างแรงงานภาคเกษตรนั้นจะไม่ปรับทันทีหรือเห็นผล ชัดเจนเหมือนภาคอุตสาหกรรม คาดว่าคงต้องรอดูในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป" นายสุรศักดิ์กล่าว


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view