หวัดใหญ่มรณะ H3N2” ระบาดหนักในสหรัฐฯ สังเวยแล้วอย่างน้อย 18 ศพ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก หลังเกิดการระบาดอย่างรุนแรงของไข้หวัดใหญ่ในสหรัฐฯ นับตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
แอนโธนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ เผยว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่ที่พบการแพร่ระบาดในปีนี้ คือ เชื้อไวรัสสายพันธุ์เอ เอช3 เอ็น2 ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ
พื้นที่ที่พบการระบาดรุนแรงที่สุดในขณะนี้ คือ นครบอสตัน ในมลรัฐแมสซาชูเซตต์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ซึ่งทางการท้องถิ่นได้ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองดังกล่าวที่ได้รับการยืนยันมีแล้วกว่า 700 ราย ซึ่งสูงเกือบ 10 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่โธมัส ไมเคิล เมนิโน นายกเทศมนตรีนครบอสตันวัย 70 ปี ออกมายอมรับว่าการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมืองของตนมีความ รุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา
ส่วนในมลรัฐนิวยอร์กพบการระบาดอย่างรุนแรงใน 5 เขตเป็นเหตุให้กว่าร้อยละ 5 ของผู้ป่วย ที่เข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่ขณะนี้เป็นผู้ ป่วยที่มีอาการเกี่ยวข้องกับไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่ และถึงแม้จะมีความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฉีดวัคซีนให้กับ ประชาชน แต่ยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ “ซีดีซี” ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐจอร์เจียระบุว่า พบผู้ป่วยนับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมากว่า 19,000 รายในมากกว่า 40 มลรัฐทั่วประเทศ ขณะที่จำนวนผู้ป่วยทั้งปีของปีที่ผ่านมามีเพียงประมาณ 4,000 คนเท่านั้น บ่งชี้ว่าการระบาดระลอกล่าสุดนี้มีความรุนแรงกว่าหลายเท่าตัว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ชี้ “ไข้หวัดใหญ่” แพร่เชื้อถึงระดับ “โรคระบาด”
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
รอยเตอร์ - ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) เผยในวันศุกร์ (11) ว่า ไข้หวัดใหญ่ ที่กำลังแพร่เชื้ออยู่ในประเทศเวลานี้ได้เข้าสู่ระดับโรคระบาดอย่างเป็นทาง การแล้ว โดยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอาการปอดบวม และไข้หวัด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 7.3%
ซีดีซีรายงานว่า 9 ใน 10 เขตของสหรัฐฯ มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการยืนยันว่าโรคหวัดตามฤดูกาลนั้นลุกลามไปทั่วประเทศ และมีจำนวนผู้ติดเชื้อแตะระดับสูง หลายสัปดาห์ก่อนช่วงเวลาปกติประมาณปลายเดือนมกราคม หรือเดือนกุมภาพันธ์ โดยเซาท์เวสต์ และแคลิฟอร์เนีย เป็นเพียงภูมิภาคเดียวที่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดในระดับปกติ
ในบอสตัน ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้สูงกว่าปีที่แล้วถึง 10 เท่า ทำให้นายกเทศมนตรีโธมัส เมนิโน ต้องประกาศเตือนภัยฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในวันพุธ (9) ที่ผ่านมา ขณะที่อิลลินอยส์ โรงพยาบาล 24 แห่งต้องรับมือกับผู้ป่วยโรคหวัดที่หลั่งไหลเข้าฉุกเฉิน ส่วนเพนซิลเวเนีย โรงพยาบาลบางแห่งต้องตั้งเต๊นท์รับผู้ป่วยอาการไม่ร้ายแรงไว้ด้านนอกอาคาร
ในแต่ละปีมีชาวอเมริกันเสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หลายหมื่นราย แม้จะไม่ใช่ปีที่มีการระบาดของโรค ซึ่งกำหนดว่าต้องมีอัตราผู้เสียชีวิตมากกว่า 7.3% ขณะที่ยังไม่มีการสรุปยอดรวมของเหยื่อไข้หวัดใหญ่ในปีนี้แต่อย่างใด
ซีดีซียังระบุว่า จนถึงขณะนี้มีเด็กเสียชีวิตจากโรคหวัดตามฤดูกาลแล้ว 20 คน ขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2 คน โดยเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2011-2012 มี 34 ราย และ 282 รายในช่วงการแพร่ระบาดรุนแรงในปี 2009-1010
การแพร่ระบาดครั้งนี้นำไปสู่ความพยายามที่จะป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม เติม นอกเหนือจากคำแนะนำตามปกติอย่าง การรับวัคซีน หลีกเลี่ยงติดต่อกับผู้ป่วย และล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยังได้รายงานในสิ่งพิมพ์รายสัปดาห์ของซีดีซีว่าวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่ในปีนี้มีประสิทธิภาพถึง 62% หมายถึงว่า 4 ใน 10 คนที่รับวัคซีนจะไม่ติดเชื้อแน่นอน
ผู้ว่าการรัฐ “นิวยอร์ก” ประกาศภาวะฉุกเฉินหลัง “หวัดใหญ่” ระบาดเข้าขั้นวิกฤต ส่วน “ซีดีซี” ยัน ไวรัสมรณะแพร่กระจายแล้วใน 47 มลรัฐ
จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - แอนดรูว์ มาร์ค คัวโม ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเมื่อวันเสาร์ (12) ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 141,300 ตารางกิโลเมตรของมลรัฐ เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ ที่ถือว่ามีระดับความรุนแรงมากที่สุดของนิวยอร์กในรอบหลายปี
รายงานข่าวระบุว่า คัวโม วัย 55 ปี จากพรรคเดโมแครต ซึ่งก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์กตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2011 ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครอบคลุมอาณาเขตทั่วมลรัฐนิวยอร์ก ที่เป็นบ้านของประชากรมากกว่า 19.6 ล้านคนแล้ว
โดยการประกาศภาวะฉุกเฉินของผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์กในครั้งนี้ มีขึ้นเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของสหรัฐฯ (ซีดีซี) ออกคำแถลงยืนยันว่า เกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ เอช 3 เอ็น 2 ในพื้นที่มลรัฐนิวยอร์ก จนเข้าสู่ระดับของการเป็น “โรคระบาด”
ข้อมูลของสำนักงานผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นมลรัฐที่มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่มากเป็นลำดับที่ 3 ของสหรัฐฯ ระบุว่า พบผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่แล้วไม่น้อยกว่า 19,128 รายนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถือเป็นตัวเลขผู้ป่วยที่สูงกว่า4 เท่าตัว เมื่อเทียบกับการระบาดในปีที่แล้ว ที่มีผู้ป่วยเพียง 4,404 ราย
คัวโมยอมรับเมื่อวันเสาร์ (12) ว่า ในขณะนี้มลรัฐนิวยอร์ก กำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีความรุนแรงที่สุดนับ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 เป็นต้นมา โดยในบรรดาเขตปกครองทั้ง 57 เขตของมลรัฐนิวยอร์กนั้น ไม่มีแม้แต่เขตเดียวที่ไม่เกิดการระบาด เช่นเดียวกับในมหานครนิวยอร์กซึ่งพบการระบาดเต็มพื้นที่
ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์กระบุว่า ข้อมูลที่เขาได้รับยืนยันว่าในจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่ จำนวนกว่า 19,128 รายของมลรัฐนั้น ผลการตรวจสอบอย่างละเอียดจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์สามารถยืนยันได้ ว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 แล้ว 2,884 คน ซึ่งทั้งหมดต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์ อย่างใกล้ชิด ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้เมื่อปี 2011 ที่มีจำนวนเพียง 1,169 รายทั่วทั้งมลรัฐ
ในคำประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์กอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถฉีดวัคซีน ไข้หวัดให้กับผู้ป่วยที่มีอายุระหว่าง 6 เดือน จนถึงอายุ 18 ปีได้เป็นกรณีพิเศษ ทั้งที่โดยปกติแล้ว ทางการมลรัฐนิวยอร์ก มีข้อกำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น ที่มีสิทธิ์เข้ารับการฉีดวัคซีนได้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก ส่งผลให้มลรัฐแห่งนี้ กลายเป็นพื้นที่ล่าสุดของสหรัฐฯที่ต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หลังจากที่โธมัส ไมเคิล เมนิโน นายกเทศมนตรีวัย 70 ปีของนครบอสตันในมลรัฐแมสซาชูเซตต์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ ไปก่อนหน้านี้ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองดังกล่าวที่ได้รับการยืนยันมีมากกว่า 700 ราย ซึ่งสูงเกือบ 10 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้าน โธมัส ฟรีเดน ผู้อำนวยการของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐจอร์เจีย ออกมายอมรับว่า ขณะนี้ มีรายงานการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แล้วใน 47 มลรัฐจากทั้งหมด 50 มลรัฐของสหรัฐฯ สูงขึ้นจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่พบการระบาดในพื้นที่ 41 มลรัฐ ซึ่งในจำนวน 47 มลรัฐที่พบการระบาดในขณะนี้มีอย่างน้อย 24 มลรัฐซึ่งรวมถึงนิวยอร์กที่พบการระบาดในขั้นรุนแรง ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อมรณะดังกล่าวทั่วสหรัฐฯมีแล้วอย่าง น้อย 20 ราย
ขณะที่ซาราห์ คลาร์ก-ลีนน์ โฆษกหญิงของสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเอฟดีเอกำลังหาทางประสานงานกับบริษัทเจเนนเทค อิงก์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตตัวยา “โอเซลทามิเวียร์” ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดภายใต้ชื่อยา “ทามิฟลู” ให้เร่งผลิตตัวยาดังกล่าวออกสู่ท้องตลาดให้มากขึ้นรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านสุขภาพในสหรัฐฯจากการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
