สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กฟผ.ยืนยันเขื่อนส่งน้ำ 2 โครงการใหญ่เพียงพอสำหรับระบบชลประทาน

จากประชาชาติธุรกิจ

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ กฟผ.วันที่ 2 มกราคม 2556 เวลา 24.00 น. ว่า มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ กฟผ.ทั้งหมด 43,545 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุ น้อยกว่าปีที่แล้วร้อยละ 19 หรือ 9,982 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำที่สามารถใช้งานได้ 20,501 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลงจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งเป็นวันที่เริ่มต้นการระบายน้ำฤดูแล้ง 3,324 ล้านลูกบาศก์เมตร

 

โดยอ่างเก็บน้ำทุกแห่งที่มีพื้นที่ชลประทานท้ายน้ำมีการระบายน้ำ เพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งตามแผนจัดสรรน้ำ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในอ่างฯ ลดลงตามลำดับ และมีช่องว่างในอ่างฯ สำหรับรับน้ำในช่วงฤดูฝนต่อไป สำหรับโครงการชลประทานขนาดใหญ่ที่รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำ กฟผ. 2 ครงการ คือ โครงการชลประทานเจ้าพระยา รับน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เริ่มการส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 – 30 เมษายน 2556 และโครงการชลประทานแม่กลองใหญ่ ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ เริ่มการส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2556 นอกจากนี้ ยังมีโครงการชลประทานอื่นๆ ที่รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มการส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2555 – 31 พฤษภาคม 2556 และภาคใต้ ซึ่งยังอยู่ในช่วงฤดูฝนจะเข้าสู่ฤดูแล้งในเดือนมีนาคม 2556

 

สำหรับเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีแผนการระบายน้ำ เพื่อโครงการชลประทานเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งปี 2555/2556 จำนวน 6,800 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 – 2 มกราคม 2556 ระบายน้ำไปแล้ว 2,709 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของแผนทั้งหมด ยังเหลือปริมาณน้ำต้องระบายตลอดฤดูแล้งอีก 4,091 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่เขื่อนทั้ง 2 แห่งยังมีปริมาณน้ำใช้งานได้รวมกัน 6,776 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอที่จะระบายตลอดฤดูแล้งนี้

 

ปัจจุบันเขื่อนภูมิพล มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ร้อยละ 57 มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 3,921 ล้านลูกบาศก์เมตร มีแผนการระบายน้ำช่วงฤดูแล้งประมาณ 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตร และระบายน้ำไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 – 2 มกราคม 2556 จำนวน 1,351 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังเหลือปริมาณน้ำต้องระบายตลอดฤดูแล้งอีก 2,149 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ร้อยละ 60 มีปริมาณน้ำใช้งานได้ 2,855 ล้านลูกบาศก์เมตร มีแผนการระบายน้ำช่วงฤดูแล้งประมาณ 3,300 ล้านลูกบาศก์เมตรและระบายน้ำไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 – 2 มกราคม 2556 จำนวน 1,358 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังเหลือปริมาณน้ำต้องระบายตลอดฤดูแล้งอีก 1,942 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังสิ้นสุดการระบายน้ำฤดูแล้ง คาดว่าเขื่อนทั้ง 2 แห่งจะมีปริมาณน้ำใช้งานได้ในอ่างฯ ประมาณ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับการอุปโภคและบริโภคในช่วงต้นฤดูฝนที่มักจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง

 

ส่วนเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ มีแผนการระบายน้ำเพื่อโครงการชลประทานแม่กลองช่วงฤดูแล้งปี 2555/2556 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2556 จำนวน 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณน้ำส่วนหนึ่งในจำนวนนี้จะผันมาช่วยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์มีปริมาตรน้ำในอ่างฯร้อยละ 87 และเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ร้อยละ 82  รวมปริมาณน้ำใช้งานได้ในเขื่อนทั้ง 2 แห่ง จำนวน 9,393 ล้านลูกบาศก์เมตร เพียงพอที่จะระบายตามแผน โดยปัจจุบันกำลังเริ่มต้นการระบายน้ำช่วงฤดูแล้ง

 

“การเพาะปลูกในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากกรมชลประทาน พบว่ามีพื้นที่เพาะปลูกไปแล้ว 5.83 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 61 ของพื้นที่ที่วางแผน แบ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังในเขตชลประทาน 4.63 ล้านไร่ หรือร้อยละ 82 ของแผนข้าวนาปรังนอกเขตชลประทาน 1.04 ล้านไร่ หรือร้อยละ 28 ของแผน ที่เหลือเป็นพืชไร่-พืชผัก โดยการส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำสามารถทำได้ตามแผน คาดว่าหากไม่มีการเปิดพื้นที่เพาะปลูกเกินกว่าแผนที่วางไว้จะมีปริมาณน้ำ เพียงพอที่จะจัดสรรตลอดฤดูแล้ง ตลอดจนมีน้ำสำรองไว้ใช้ยามจำเป็น”นายกิตติกล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view