จาก โพสต์ทูเดย์
ลมหัวด้วนพัดถล่มพัทลุง บ้านพังหลายหลัง -นราธิวาสท่วมแล้ว 6 อำเภอ -ยะลา ตั้งศูนย์เฝ้าระวังอุทกภัย
เมื่อช่วงกลางดึก.ที่ผ่าน ได้เกิดลมพายุหมุน หรือลมหัวด้วนพัดถล่ม บ้านเรือนประชาชน ที่ หมู่ 5 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งในที่เกิดเหตุพบบ้านของนาง หวน พ่วงคง เลขที่ 8 ม.5 ต.มะกอกเหนือ บ้านของ นายทรงกรด พ่วงเพชรคง เลขที่ 167 ม.5 ต.มะกอกเหนือ บ้านนายสมยศ พ่วงคง เลขที่ 121 ต.มะกอกเหนือ บ้านของ นายชมชิด นิ่มกอน เลขที่ 9 ม.5 ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทั้งหมด 4 หลัง หลังคากระเบื้องปลิว ว่อน แตกกระจายจนได้รับความเสียหายทั้งหลังและบางส่วน
โดยชาวบ้านระบุว่าก่อนเกิด ได้เกิดเสียงลมหัวด้วนพัดเร็วและแรงประมาณ1 นาที ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ติดกัน 4หลัง ได้รับความเสียหายแต่ โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ซึ่งหลังเกิดเหตุ เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายต้องไปอาศัยหลบนอนตามบ้านญาติเนื่องจากฝนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่จ. นราธิวาสยังคงมีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13อำเภอ ส่งผลทำให้ที่ราบลุ่มและพื้นที่ทางการเกษตรของราษฏรใน 6 อำเภอ คือสุไหงโก-ลก ตากใบ ศรีสาคร สุไหงปาดี แว้งและจะแนะ มีสภาวะน้ำท่วมขัง ถนนสายหลักและสายรองในหมู่บ้าน 10 สายมีปริมาณน้ำท่วมขังโดยภาพรวมสูงเฉลี่ย 20-30ซ.ม.
ส่วนที่จังหวัดยะลา ว่าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จังหวัดยะลา ได้จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย ในทุกอำเภอของจังหวัดยะลา เพื่อเฝ้าระวัง และแจ้งข่าวสาร จากเหตุอุทกภัย วาตภัย ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ของแต่ละศูนย์ลงพื้นที่สำรวจและแจ้งข่าวสารมายังจังหวัดใน ทุกเช้า รวมทั้งเตรียมการให้ความช่วยเหลือทันที หากเกิดอุทกภัย
ในขณะที่เช้านี้ พบว่าปริมาณน้ำฝน และปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่ยังคงปกติ ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่ไหลจากเขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา ผ่าน อ.กรงปินัง อ.เมืองยะลา และลงสู่เขื่อนปัตตานี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น แต่ในพื้นที่โดยรวม ยังไม่มีสถานการณ์น้ำท่วม หรือน้ำป่าไหลหลาก
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฝ้าระวังอุทกภัย วาตภัย จังหวัดยะลา ได้มีการแจ้งไปยังทุกศูนย์เฝ้าระวัง ให้แจ้งเตือนประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ทั้งแม่น้ำปัตตานี และ แม่น้ำสายบุรี ของ อ.รามัน จ.ยะลา ให้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำ หากมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากปริมาณน้ำสะสม จากพื้นที่เทือกเขา อาจไหลลงมาสมทบกับปริมาณน้ำในพื้นที่ราบ และทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นได้
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
