จาก โพสต์ทูเดย์
แปลงเพาะชำต้นกล้าปาล์มน้ำมันตรังเริ่มได้รับผลกระทบหลังจากราคาตกต่ำเกษตรกรชะลอสั่งซื้อ เล็งเปิดตลาดใหม่ภาคอีสาน
เกษตรกรชาวตรังที่เคยสนใจเพาะปลูกปาล์มน้ำมัน ต้องชะลอการสั่งซื้อต้นกล้าปาล์ม เพื่อรอดูสถานการณ์ด้านราคาหลังจากเกิดปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำลงมาอย่าง ต่อเนื่อง 2-3 เดือนแล้ว ซึ่งจากกิโลกรัมละกว่า 6 บาทในช่วงต้นปี ได้เหลือเพียงแค่กิโลกรัมละ 2 บาทเศษ
นายวีระ ตระกูลรัมย์ ผู้จัดการ บริษัท ตรัง-มาเลเซีย เทคโนโลยีเกษตร เจ้าของแปลงเพาะชำต้นกล้าปาล์มน้ำมันรายใหญ่ของจังหวัด กล่าวว่า เมื่อช่วงต้นปี 2555 ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขายดีงมากจนทางแปลงไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการ ขณะนั้นราคาปาล์มน้ำมันสูงถึงกิโลกรัมละ 6.20 บาท
ประกอบกับกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้ให้เงินสนันสนุนแก่เกษตรกรที่ต้องปรับเปลี่ยนการจากเพาะปลูกจากยางพารา ไปเป็นปาล์มน้ำมัน สูงกว่าถึงไร่ละ 1 หมื่นบาท จึงส่งผลให้ปี 2555 นี้มีพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันในจังหวัดเพิ่มขึ้น 4-5 % หรือมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตาม หลังราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำทำให้เกษตรกรหลายรายในภาคใต้ชะลอการสั่งซื้อต้น กล้าปาล์มน้ำมัน เนื่องจากกำลังรอดูว่า รัฐบาลจะเข้ามาประกันราคากิโลกรัมละ 5 บาทหรือไม่ หากทำไม่ได้ ย่อมมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการแปลงเพาะชำอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ได้เตรียมรับมือไปเปิดตลาดทางภาคอีสานโดยเฉพาะที่จังหวัดหนองคาย นครพนม อุดรธานี และบึงกาฬ เพราะมียอดขายสูงถึง 30 % ของต้นกล้าทั้งหมด
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
