สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปินส์ตายจากไต้ฝุ่น บุปผา เพิ่มเป็น 477 ศพ-อีก250,000คนไร้ที่อยู่

ปินส์ตายจากไต้ฝุ่น “บุปผา”เพิ่มเป็น 477 ศพ-อีก250,000คนไร้ที่อยู่

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

      เอเจนซีส์ - ชาวฟิลิปปินส์กว่า 250,000 คนกลายเป็นผู้ไร้ที่อาศัย และจำนวนผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วก็เพิ่มขึ้นเป็น 477 คน นอกจากนั้นยังมีผู้สูญหายอีกกว่า 300 คน ภายหลังจากเผชิญกับไต้ฝุ่น “บุปผา” ซึ่งถือเป็นพายุลูกที่มีความรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยพัดเข้าสู่แดนตากาล็อกใน ปีนี้ ทั้งนี้ตามการแถลงของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเมื่อวันพฤหัสบดี(6) ขณะเดียวกัน รัฐบาลมะนิลาก็เร่งร้องขอความช่วยเหลือจากนานาประเทศ
       
       ไต้ฝุ่นบุปผาที่ขึ้นฝั่งบนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคาร (4) ทำให้มีฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหายในหลายเมือง พวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยระบุว่า กำลังพยายามค้นหาผู้ที่มีรายงานว่าสูญหายไปอย่างน้อย 380 คน พร้อมทั้งขอรับบริจาคความช่วยเหลือสำหรับผู้อพยพในสถานพักพิงต่างๆ ที่ทางการจัดไว้ให้กว่า 250,000 คน
       
       ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (6) ว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งล่าสุดมีจำนวนทั้งสิ้น 477 คนนั้น จำนวนมากเป็นคนยากจนผู้ย้ายถิ่นฐานไปทำงานอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เช่น เมืองนิวบาตาน และเมืองมองกาโยที่อยู่ใกล้เคียง
       
       ก่อนหน้านั้น พลโทเอเรียล เบอร์นาร์โด ผู้บัญชาการกองทหารที่มีส่วนร่วมในการค้นหา เผยว่า เจ้าหน้าที่ได้พบผู้เสียชีวิต 258 รายทางชายฝั่งด้านตะวันออกของมินดาเนา ขณะที่อีก 191 รายพบในและรอบๆ นิวบาตานและมองกาโย

       ด้านสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนในกรุงมะนิลาแถลงว่า มีผู้เสียชีวิต 17 คนในพื้นที่อื่นๆ ของมินดาเนา รวมถึง 9 รายในหมู่เกาะวิซายัน
       
       ผู้รอดชีวิตที่ยังมีอาการหวาดผวา พากันไปค้นซากบ้านเรือนเพื่อหาสิ่งที่อาจยังนำมาใช้ได้ ขณะที่คนอีกส่วนค้นหาสมาชิกที่สูญหายในกองศพพอกโคลนที่วางเรียงกันบนผ้าใบ
       
       เบนิโต รามอส ผู้อำนวยการกองกำลังป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ยืนยันว่า ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยจะดำเนินต่อไปไม่มีกำหนด
       
       มีรายงานว่า ชายคนหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากใต้ก้อนหินและกองปรักหักพัง หลังจากที่น้ำป่าไหลหลากฉับพลันได้พัดพาครอบครัวทั้งครอบครัวของเขาสูญหาย อาสาสมัครในนิวบาตาน จังหวัดคอมโพสเทลา แวลลีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติรุนแรงที่สุด ยังพบชายคนหนึ่งลอยคออยู่ในน้ำนาน 2 วัน เช่นเดียวกับหญิงมีครรภ์กับลูกชายวัย 1 ขวบที่สามารถหนีรอดจากน้ำท่วมบ้านมาได้หวุดหวิด
       
       ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน ได้จัดส่งอาหารและข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ทางเรือไปให้ประชาชน 150,000 คนทางชายฝั่งด้านตะวันออกของมินดาเนา ที่ยังคงมี 3 เมืองถูกตัดขาดเนื่องจากโคลนถล่ม ทำให้ถนนและสะพานชำรุด

       โคราซอน โซลิมาน รัฐมนตรีสวัสดิการสังคมเผยว่า รัฐบาลกำลังขอความช่วยเหลือจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ที่ตั้งอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ สำหรับการสร้างที่พักพิงชั่วคราวเพื่อผ่อนเพลาภาระของค่ายผู้อพยพ
       
       ด้านสหรัฐฯ และญี่ปุ่นแถลงว่า ได้ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ฟิลิปปินส์แล้ว
       
       มาฮาร์ ลัคเมย์ นักธรณีวิทยาที่เป็นหัวหน้าโครงการจัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยของ รัฐบาล แสดงความเห็นว่า แม้คนส่วนใหญ่ในชุมชนที่ได้รับผลกระทบต่างก็รับรู้ล่วงหน้าแล้วถึงอันตราย แต่กลับไม่รู้ว่าจะไปหลบภัยที่ใด
       
       รามอน ปาเจ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมฟิลิปปินส์ สำทับว่า การทำเหมืองขนาดเล็กอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของภัยพิบัติ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ในคอมโพสเทลา แวลลีย์ ยังคงออกใบอนุญาต ถึงแม้รัฐบาลกลางสั่งห้ามการทำเหมืองขนาดเล็กในจังหวัดดังกล่าวแล้วก็ตาม
       
       ทั้งนี้ วันพฤหัสบดีไต้ฝุ่นบุปผาซึ่งถือเป็นพายุที่ถล่มฟิลิปปินส์รุนแรงที่สุดในปี นี้ เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะผ่านเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันศุกร์ (7)


ยอดเหยื่อพายุโบพาในฟิลิปปินส์พุ่งเป็น475ราย

ยอดเหยื่อพายุโบพาในฟิลิปปินส์พุ่งเป็น 475 ราย บาดเจ็บ 411 คน และสูญหาย 379 คน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยในฟิลิปปินส์ กำลังอยู่ระหว่างการขจัดเศษซากต่าง ๆ ออกจากถนน , จัดการกับเสาไฟฟ้าที่หักโค่น และกู้ระบบสื่อสาร ในระหว่างการค้นหาประชาชนหลายร้อยคนที่สูญหายไปหลังจากถูกพายุไต้ฝุ่นโบพาพัดกระหน่ำที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 475 ราย

คณะกรรมการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ รายงานว่า ประชาชนมากกว่า 180,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย หลังจากพายุไต้ฝุ่นโบพา พัดกระหน่ำพื้นที่เป็นบริเวณกว้างบนเกาะมินดาเนา ที่อยู่ทางใต้ ซึ่งอิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 475 ราย บาดเจ็บ 411 คน และสูญหายอีก 379 คน

ด้านสำนักข่าวฟิลิปปินส์ รายงานว่า ผู้ที่สูญหายส่วนใหญ่อยู่ในเมืองที่อยู่บนที่สูงและห่างไกล ซึ่งพบว่า พายุได้พัดกระหน่ำหมู่บ้าน บาคูลิน ที่อยู่บนเทือกเขา และคร่าชีวิตของประชาชนครึ่งหนึ่งของหมู่บ้านคินาบลันกัน ที่อยู่ใกล้เคียง บ้านเรือนในหมู่บ้านหลายแห่งของเมืองบอสตัน , คาทีล และบากันก้า ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด

เจ้าหน้าที่มนุษยธรรม ของกลุ่มเวิร์ลด์ วิชั่น บนเกาะมินดาเนา เปิดเผยว่า ลมและพายุรุนแรง สร้างความเสียหายไม่ต่างจากแผ่นดินไหว ซึ่งชาวฟิลิปปินส์ เรียกพายุลูกนี้ว่า พาโบล และกำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ

กาชาดฟิลิปปินส์ ระบุว่า มีผู้ประสบภัยที่ไร้ที่อยู่อาศัยราว 216,000 คน ท่ามกลางความวิตกว่า ประชาชนจะขาดแคลนน้ำเพื่อการบริโภค เนื่องจากน้ำจากมหาสมุทรได้ไปเจือปนกับน้ำตามบ่อน้ำ และเกรงว่า จะเกิดปัญหาด้านสุขอนามัย

สภาพบนเกาะมินดาเนาในปัจจุบัน พบว่า มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งบริเวณเชิงเขาและพื้นที่ห่างไกล บ้านเรือนได้รับความเสียหายราว 2,970 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความยากลำบากในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เปราะบาง ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ได้แก่อาคารสาธารณะและโรงเรียน และเมื่อระบบสื่อสารล่ม ทำให้ยากจะติดต่อกับทีมกู้ภัย

อีกทั้ง การคมนาคมมีอุปสรรคเนื่องจากสะพานขาด 5 แห่ง และถนนเสียหาย 9 สาย ทำให้ต้องอาศัยเรือประมงในการนำสิ่งของจำเป็นไปให้ผู้ประสบภัยในบางพื้นที่


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view