จากประชาชาติธุรกิจ
กระทรวงสาธารณสุขเผยผลการตรวจผักผลไม้ทั่วประเทศในปี 2555 พบสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ปลอดภัยร้อยละ 3 จากที่ตรวจทั้งหมด 62,397 ตัวอย่าง ส่วนใหญ่พบในตลาดสด รองลงมาคือแผงลอย ตลาดค้าส่ง และตลาดนัด กำชับทุกจังหวัดตรวจเข้มและสาวถึงแหล่งผลิต เพื่อปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตลาดจำหน่ายอาหารทุกประเภทให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะตลาดสด
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนไทยมีสุขภาพดี ด้วยการบริโภคอาหารที่มีคุณภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ และปลอดภัยจากสารปนเปื้อน จากข้อมูลผลการตรวจตัวอย่างอาหารของสำนักส่งเสริมและสนับสนุนอาหารปลอดภัย กระทรวงสาธารณสุข ณ สถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหารทั่วประเทศ ในปี 2555 ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้เก็บตัวอย่างอาหารทั้งหมด 403,637 ตัวอย่าง และตรวจพบอาหารที่มีสารปนเปื้อนเช่น บอแรกซ์ สารฟอกขาว ฟอร์มาลิน สารเร่งเนื้อแดง สารกันรา จุลินทรีย์ก่อโรค เกินค่าความปลอดภัยรวมทั้งสิ้น 26,711 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 6 ในจำนวนนี้เป็นประเภทผักสดและผลไม้ ที่เก็บตัวอย่างจากแหล่งจำหน่ายเช่น ตลาดค้าส่ง ตลาดนัด ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ร้านชำ รถเร่ และแหล่งปรุงอาหารเช่น โรงอาหารโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก รวมทั้งสถานที่ผลิต แหล่งเพาะปลูก ซึ่งพบว่ามีสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตกค้าง ในปริมาณที่ไม่ปลอดภัยจำนวน 1,725 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 2.76 จากตัวอย่างที่เก็บตรวจทั้งหมด 62,397 ตัวอย่าง ส่วนใหญ่พบในตลาดสดร้อยละ 63 รองลงมาคือแผงลอยร้อยละ 11 ตลาดค้าส่งร้อยละ 7 ตลาดนัดร้อยละ 3.4 รถเร่ร้อยละ 3 ซึ่งผักที่ตรวจพบสารเคมีตกค้างมากที่สุดได้แก่ 1.ผักคะน้า 2.พริกสด 3. ผักกวางตุ้ง 4.ผักบุ้งและกะหล่ำปลี และ 5.แตงกวา
นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2556 นี้กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนอันตรายในอาหาร โดยให้ทุกจังหวัดเพิ่มความถี่การตรวจเฝ้าระวังความปลอดภัยอาหาร ที่วางจำหน่ายในตลาดทุกประเภท หากพบสารปนเปื้อนให้สาวถึงแหล่งผลิต เพื่อปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตลาดจำหน่ายอาหารทุกประเภทให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะตลาดสดซึ่งทั่วประเทศมี 1,550 แห่ง จะเร่งพัฒนาให้ได้มาตรฐาน ทั้งเรื่องความสะอาด การคุ้มครองผู้บริโภค และความปลอดภัยอาหาร ต้องไม่พบสารห้ามใช้ปนเปื้อนในอาหาร ได้แก่ สารบอแรกซ์ สารฟอร์มาลิน สารฟอกขาว สารกันรา สารเร่งเนื้อแดง ส่วนสารกำจัดศัตรูพืชต้องไม่เกินเกณฑ์ความปลอดภัย ผลการดำเนินงานในปี 2555 มีตลาดสดผ่านเกณฑ์มาตรฐานเป็นตลาดสดน่าซื้อแล้ว 1,328 แห่งคิดเป็นร้อยละ 86
อย่างไรก็ตาม การรับประทานผักผลไม้ให้ได้คุณค่าทางอาหารมากที่สุดคือกินสด โดยกินผักมื้อละ 2 ทัพพี และผลไม้ 1 ส่วนเช่นส้ม 1-2 ผลเป็นต้น หากซื้อมาแล้วยังไม่รับประทานให้ใช้กระดาษห่อแล้วเก็บในตู้เย็น และไม่ควรเก็บไว้หลายวัน เนื่องจากวิตามินต่าง ๆ จะเสื่อมสลายไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญคือต้องล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน
วิธีล้างผักผลไม้ให้สะอาดมั่นใจปลอดภัยจากเชื้อโรค พยาธิ และยาฆ่าแมลงมี 3 วิธี คือ
1.ปล่อยให้น้ำไหลผ่านประมาณ 2 นาที
2.แช่ในน้ำละลายเกลือแกงในอัตราส่วนเกลือ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร
3.แช่ในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชู อัตราส่วนน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยต่อน้ำ 4 ลิตร
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต