สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

กฟผ.คุมใช้น้ำ 2 เขื่อนใหญ่ป้องขาดแคลนหลังน้ำมีน้อย

กฟผ.คุมใช้น้ำ 2 เขื่อนใหญ่ป้องขาดแคลนหลังน้ำมีน้อย

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

กฟผ.ควบคุมการใช้น้ำเขื่อนภูมิพล และสิริกิติ์ใกล้ชิดให้เป็นไปตามแผนเพื่อป้องกันการขาดแคลน เหตุปริมาณน้ำมีเพียง 65% ของความจุอ่างใกล้เคียงกับปี 2552 ซึ่งหากมีการเพาะปลูกพืชเกินพื้นที่ที่กำหนดไว้อาจจัดสรรน้ำให้ได้ไม่เพียง พอ
       
       นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์มีรวมกัน 14,955 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 65% ของความจุอ่าง ซึ่งนับว่าอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยใกล้เคียงกับปี 2552 ดังนั้น กฟผ.จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนเพื่อไม่ ให้เกิดการขาดแคลนในอนาคต เพราะถ้าหากมีการเพาะปลูกเกินพื้นที่ที่กำหนดไว้แล้วจะไม่สามารถจัดสรร ปริมาณน้ำได้เพียงพอ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลได้
       
       “เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์มีแผนระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2556 ทั้งสิ้น 6,800 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้ระบายน้ำไปแล้ว 745 ล้าน ลบ.ม. และยังเหลือปริมาณน้ำต้องระบายรวมกันอีกตลอดช่วงฤดูแล้ง 6,055 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปัจจุบันเขื่อนทั้งสองมีปริมาณน้ำใช้งานได้ 8,305 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าแผนที่จะระบาย 2,250 ล้าน ลบ.ม. แต่อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำจำนวนดังกล่าวจะต้องสำรองไว้ใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภคในช่วงต้นฤดู ฝนปีหน้า ซึ่งอาจมีปริมาณฝนไม่เพียงพอหรือช่วงเริ่มต้นฤดูฝนล่าช้า” นายกิตติกล่าว
       
       ทั้งนี้ แผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2555/56 ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา 23 จังหวัด คณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งได้วางแผนการเพาะปลูกและการจัดสรรน้ำใน เขตชลประทาน โดยรับน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ รวมปริมาณน้ำจากทั้ง 4 เขื่อน 8,000 ล้าน ลบ.ม. รวมถึงยังมีปริมาณน้ำที่จะผันจากลุ่มน้ำแม่กลองผ่านระบบเชื่อมโยงลงสู่แม่ น้ำท่าจีน และสูบใช้ในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่างอีกอย่างน้อย 1,000 ล้าน ลบ.ม. รวมปริมาณน้ำที่จะสามารถจัดสรรให้พื้นที่เพาะปลูกได้รวม 9,000 ล้าน ลบ.ม. โดยสามารถจัดสรรน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงการเพาะปลูกในเขตชลประทานทั้งสิ้นจำนวน 5.45 ล้านไร่ แบ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรัง 5.40 ล้านไร่ และพืชไร่-พืชผัก 0.05 ล้านไร่
       
       สำหรับการเพาะปลูกนอกเขตชลประทาน คณะทำงานฯ ได้วางแผนใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า แหล่งน้ำบาดาล และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ อีกจำนวนทั้งสิ้น 4.15 ล้านไร่ แบ่งเป็นเพาะปลูกข้าวนาปรัง 3.77 ล้านไร่ และพืชไร่-พืชผัก 0.38 ล้านไร่ รวมพื้นที่จัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน 9.60 ล้านไร่ แบ่งเป็นการปลูกข้าวนาปรัง 9.17 ล้านไร่ และพืชไร่-พืชผัก 0.43 ล้านไร่


กฟผ.เข้มระบายน้ำรับภัยแล้ง

กฟผ.เข้มระบายน้ำรับภัยแล้ง

กฟผ.วางแผนการระบายน้ำอย่างใกล้ชิด หลังปีนี้น้ำในเขื่อนใหญ่อยู่ในเกณฑ์น้อย หวังจัดสรรน้ำเพียงพอเพาะปลูกพืชตลอดฤดูแล้ง

นายกิตติ ตันเจริญ  ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2555/56 ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา 23 จังหวัด ว่า คณะทำงานวางแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ได้วางแผนจัดสรรน้ำในเขตชลประทานให้พื้นที่เพาะปลูกได้รวม 9,000 ล้าน ลบ.ม. โดยสามารถจัดสรรน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงการเพาะปลูกในเขตชลประทาน ทั้งสิ้น 5.45 ล้านไร่ ส่วนนอกเขตชลประทาน วางแผนใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า แหล่งน้ำบาดาล และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ อีก 4.15 ล้านไร่ รวมพื้นที่จัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน 9.6 ล้านไร่

สำหรับปีนี้ (1 พ.ย. 55 - 30 เม.ย. 56) มีแผนระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 6,800 ล้าน ลบ.ม. แบ่งเป็นเขื่อนภูมิพล 3,625 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิริกิติ์ 3,175 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งขณะนี้ระบายน้ำไปแล้ว 745 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ปัจจุบันเขื่อนทั้งสองมีปริมาณน้ำใช้งานได้ 8,305 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าแผนที่จะระบาย 2,250 ล้าน ลบ.ม. เพื่อสำรองใช้เพื่อการอุปโภค-บริโภคในช่วงต้นฤดูฝนปีหน้า ซึ่งอาจมีปริมาณฝนไม่เพียงพอหรือช่วงเริ่มต้นฤดูฝนล่าช้า

“ปีนี้มีปริมาณน้ำน้อยมาก ต้องมีการควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในอนาคต เพราะถ้าหากมีการเพาะปลูกเกินพื้นที่ที่กำหนดไว้แล้ว จะไม่สามารถจัดสรรปริมาณน้ำได้เพียงพอ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลได้”  นายกิตติกล่า


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view