จาก โพสต์ทูเดย์
อำเภอน้ำปาดเมืองอุตรดิตถ์เผชิญวิกฤตแล้งหนักรอบ 10 ปีเหตุปีนี้ฝนตกน้อย
นางลำไย มาทำมา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แสนตอ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาปริมาณฝนตกค่อนข้างน้อยส่งผลทำให้พื้นที่ต.แสนตอเผชิญ กับวิกฤตภัยแล้งหนักสุดในรอบ 10 ปี ข้าวนาที่อาศัยน้ำจากน้ำฝนมีจำนวนมากไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ บางส่วนของนาข้าวที่ปลูกไปก็แห้งตาย ชาวบ้านหันมาปลูกข้าวโพดก็ไม่มีน้ำรอวันยื่นต้นแห้งตาย
ขณะที่ฝ่ายกักเก็บน้ำซึ่งถูกฤทธิ์น้ำป่า และดินโคลนถล่ม ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด เมื่อเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมาทำให้ก้อนหินก้อนกรวดจากบนภูเขาไหลลงสู่ฝายห้วย มะเกลือ หมู่ 3 ต.แสนตอ ทำให้ทับถมสูงเท่ากับสันฝายและตัวฝายที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กสูงกว่า 3 เมตรแตกเสียหายอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีงบซ่อมแซมจึงไม่สามารถกับเก็บน้ำไว้รอุปโภคบริโภคในช่วง หน้าแล้งได้ ชาวบ้านพื้นที่หมู่ 2, 3 และ 9 ต.แสนตอ เดือดร้อนหนักจึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาด่วน
ด้านนายแบงค์ เนตรขันทอง นายก อบต.บ้านฝาย อ.น้ำปาด กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ อบต.ไปทำการสำรวจปัญหาภัยแล้งแล้วพบว่าประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 173 ครอบครัว นาข้าวที่มีพื้นที่ปลูกน้อยกลับเสียหายแห้งตายไปแล้ว 343 ไร่ ปีนี้ถือว่าแล้งหนักในรอบ 10 ปี และทุกวันนี้ได้ อบต.ต้องนำน้ำไปแจกจ่ายและช่วยเหลือประชาชนทั้ง 9 หมู่บ้านทุกวัน อย่างไรก็ตามรายงานความเสียหายไปยังอำเภอน้ำปาด และจังหวัดแล้ว เพื่อให้ประกาศภัยแล้ง เพื่อนำงบประมาณที่อยู่ในอำนาจของผวจ.อุตรดิตถ์ จำนวน 50 ล้านบาทมาช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
