จาก โพสต์ทูเดย์
พ่อเมืองขอนแก่นประกาศภัยแล้งแล้ว 7 อำเภอ พื้นที่เกษตรพังว่า 359,998 ไร่ มูลค่ากว่า 321 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้ประกาศให้พื้นที่ 7 อำเภอของจังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้ง ประกอบด้วย อ.ชนบท แวงน้อย หนองสองห้อง พล อุบลรัตน์ ซำสูง และ อ.เมืองขอนแก่น โดยมีผลกระทบต่อการอุปโภคและบริโภคน้ำของประชาชน ในขณะที่ภาคการเกษตรมีรายงานของพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งสิ้น 9 อำเภอ 70 ตำบล 735 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 31.53 ของจำนวนหมู่บ้านในจังหวัดขอนแก่น โดยที่ในขณะนี้มีพื้นที่การเกษตรเสียหาย 359,998 ไร่ นาข้าว 330,894 ไร่ พืชสวน 90 ไร่ มูลค่าความเสียหายมากถึง 321,528,954 บาท รวมสำหรับ ผลกระทบด้านปศุสัตว์พบว่ามีปัญหาแล้วรวม 6,788,4346 ตัว พื้นที่ปลูกหญ้า 32,360 ไร่
“จังหวัดได้มีการ ประสานงานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับการวางแผนแจกจ่ายน้ำให้ผู้ ประสบภัย รวมทั้งการตรวจสอบแหล่งน้ำ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการจัดหาภาชนะ เก็บกักน้ำและใช้ใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ปลูกพืชใช้น้ำน้อยในช่วงแล้ง และจัดเตรียมมาตรการส่งเสริมการปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2555-2556 สำหรับการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพได้มอบหมายให้องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นดูแลรักษาแหล่งน้ำ สาธารณะ คูคลอง หนองบึง รวมไปถึงการแจ้งให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง พร้อมประชุมชี้แจงผู้เลี้ยงปลากระชังเพื่อให้ลดปริมาณปลาในการเพาะเลี้ยง และจัดหาเครื่องเจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาในการใช้น้ำเพื่ออุปโภคและบริโภค เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือราษฎรตามระเบียบราชการได้อย่างเต็มที่”นาย สมศักดิ์ กล่าว
นายปรีชา จานทอง ผู้อำนวยการสำนักชลประธานที่ 6 ขอนแก่น กล่าวว่า จากสภาพน้ำที่ลดระดับลงอย่างมากในบริเวณท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นเสมือนการแจ้งเตือนสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ เนื่องจากระดับน้ำภายในเขื่อนนั้นได้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าทุกปีขณะที่ เขื่อนสามารถกักเก็บปริมาณน้ำได้ถึง 2,500 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยประมาณการตอนนี้เหลือเพียง 1,050 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางด้านสำนักกรมชลประธาน 6 ได้บริหารการจัดการน้ำเพื่อแก้ไขกับปัญหาภัยแล้งเพื่อให้เป็นไปตานนโยบายและ แนวทางการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้ง ตามมารตราการในการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งของเจื่อนอุบลรัตน์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 2555 -31 พ.ค.2556 รวมทั้งสิ้นเป็นเวลา 200 วัน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
