จาก เดลินิวส์ออนไลน์
หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ นายศักดา คงเพชร รมช.ศึกษาธิการ แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการจัดหาครุภัณฑ์อาชีวศึกษาของสำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ภายใต้โครงการแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง หรือเอสพี 2 มีพฤติกรรมส่อไปในทางไม่สุจริตทำให้ราชการเกิดความเสียหายนั้น
ล่าสุดวันนี้( 7 ก.ค.) นายศักดา พร้อมด้วยคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ได้รับการแต่งตั้งได้ลงพื้นที่ไป ตรวจสอบความเสียหายนัดแรกที่วิทยาลัยเทคนิคจุฬาภรณ์ (ลาดขวาง) โดยมีนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.ฉะเชิงเทรา ร่วมเป็นพยานในการตรวจสอบ
นายศักดา กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า รายการครุภัณฑ์ที่วิทยาลัยเทคนิคจุฬาภรณ์ได้รับตามโครงการเอสพี 2 นั้น มีจำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย ชุดสาธิตเทคโนโลยียานยนต์ชั้นสูง มูลค่า 16 ล้านบาท ชุดฝึกแม่พิมพ์โลหะ มูลค่า 12 ล้านบาท และชุดครุภัณฑ์ปฎิบัติการสิ่งแวดล้อม มูลค่า 3.9 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 ราย ที่วิทยาลัยได้รับไปนั้นยังไม่มีการนำมาใช้งานในการเรียนการสอน ซึ่งบางรายการยังถูกเก็บอยู่ในกล่องกองเอาไว้ เมื่อเห็นแล้วก็รู้สึกอนาถใจเพราะงบประมาณตามโครงการเอสพี 2 หลายพันล้านบาทใน 2-3ปีที่ผ่านมา น่าจะทำให้ สอศ.รุ่งโรจน์ แต่กลับกลายเป็นรุ่งริ่ง เพราะการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพใช้งานไม่ได้ และมีราคาแพงมากส่งไปให้วิทยาลัยวางกองทิ้งไว้
“จากที่เห็นครุภัณฑ์ยานยนต์ที่จัดส่งให้วิทยาลัยมีราคาตั้งเกือบ 20 ล้านบาท ทั้งที่ราคาจริงจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญบวกกำไรแล้วไม่น่าเกิน 4 ล้านบาท และยังเป็นชุดเครื่องยนต์ที่ให้เด็กฝึกแต่เมื่อเด็กจบไปแล้วจะไม่สามารถทำ งานได้จริง เพราะจัดเครื่องยนต์มาให้เรียนไม่ตรงกับความเป็นจริงในท้องตลาด เนื่องจากในท้องตลาดมีแต่รถญี่ปุ่นแต่กลับส่งเครื่องยนต์ที่เป็นรถยุโรปบาง ยี่ห้อที่มีคนใช้น้อยมาให้เด็กใช้ฝึกเรียน เรียกว่างานนี้ฝึกดับเบิ้ลเฮงซวย” รมช.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาจะแจ้งความนั้น ก็สามารถทำได้คดีแพงคดีอาญาก็ต้องปล่อยให้ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่รัฐมนตรีก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความเสียหายไม่ใช่น้อย
ดร.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่กองบังการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มากล่าวหาว่าตนทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อครุภัณฑ์ อาชีวศึกษา ตามโครงการแผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือเอสพี 2 เรื่องนี้ต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงตัวเอง พร้อมขอเดินหน้าฟ้องร้องและเอาผิดกับทุกคนที่มากล่าวหาในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลที่บุคคลหนึ่งนำมากล่าวหาก็เป็นข้อมูลเก่าก่อนที่จะเข้ามาทำงานใน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะต้องดำเนินคดีฟ้องร้องตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายประแสง มงคลศิริ อดีตที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่เห็นที่วิทยาลัยเทคนิคจุฬาภรณ์ เป็นการตอกย้ำความเสียหายที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาอาชีวะ หลังจากที่การสืบข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดว่ามีการประพฤติมิชอบในการจัดซื้อ จัดจ้างซึ่งเชื่อว่านายศักดา จะต้องเดินหน้าตรวจสอบเพื่อนำคนผิดมาลงโทษให้ได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ตนจะนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ไปมอบให้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวอีกทางหนึ่งด้วย
การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,ไส้เดือนดิน,รักษ์ดิน,ฮิวมิคพลัส,มูลไส้เดือนดิน,ปุ๋ยหมัก
