สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พท.ขอเวลาทำนโยบาย

จาก โพสต์ทูเดย์

เพื่อไทย ยันนโยบายพรรคทำได้จริง  อ้างต้องใช้เวลา  วอนอย่าจ้องถล่ม

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นให้คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ที่ใช้ในการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย พร้อมดำเนินการยุบพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยต้องบอกกับพรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงผู้ประกอบการและนักวิชาการที่ออกมาติติงเรื่องนี้ ก่อนเลยว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้เป็นรัฐบาล จึงอยากให้ทุกท่านอย่าตีตนไปก่อนไข้ เพราะขณะนี้คณะทำงานนโยบายพรรคเพื่อไทย กำลังดำเนินการยกร่างนโยบายเพื่อบรรจุไว้ในนโยบายที่พรรคจะใช้แถลงนโยบายต่อ สภาผู้แทนราษฎร โดยได้เสร็จสิ้นไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว การยื่นยุบพรรคเพื่อไทยของบรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ โดยอ้างว่าพรรคเพื่อไทยหลอกลวงนั้น ลักษณะเหมือนในอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามโจมตีนโยบายพรรคไทยรักไทย อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนหมู่บ้าน ที่สุดท้ายเมื่อพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลก็ลอกนโยบายรัฐบาลพรรคไทยรัก ไทยเอาไปดำเนินการต่อ  ดังนั้นทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ควรตั้งสติก่อนที่จะไปยื่นยุบพรรคเพื่อไทย

ย้อนปชป.นโยบาย99วันทำไม่ได้จริง

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็ได้หาเสียงเอาไว้ว่า  99 วันทำได้จริง แต่เฉพาะแค่แก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่สามารถบรรเทาการเสียชีวิตของประชาชนผู้ บริสุทธิ์ได้ แต่หากจะพิจารณาว่านโยบายของพรรคเพื่อไทย จะทำได้จริงหรือไม่นั้น ก็ขอให้ไปดูผลงานของรัฐบาลไทยรักไทย ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว พรรคเพื่อไทยอยากขอให้ทุกฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มทุนและภาคธุรกิจอื่น เสียสละช่วยเหลือแรงงานที่เป็นฐานการผลิตใหญ่ของประเทศ  เพราะขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านทั้งอินโดนีเชียและเวียดนามนั้นค่าแรงขั้นต่ำ ของแรงงานสูงกว่าของไทยอยู่แล้ว และการที่พรรคเพื่อไทยคิดนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ก็ได้ศึกษาแล้วว่าจะทำให้มีเงินสะพัดภายในประเทศ 3-4 หมื่นล้านบาทต่อปี  จึงขอให้ทุกฝ่ายให้โอกาส น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยด้วย

มั่นใจรับรอง ยิ่งลักษณ์ แต่ห่วงนปช.

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกระแสข่าว ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพิ่มเติมในวันที่ 19 ก.ค.ว่า หาก กกต.จะรับรอง ส.ส.เพิ่มเติมอีกจนครบ 95 เปอร์เซ็นต์ คือ 475 คนตามที่กฎหมายกำหนดก็จะทำให้สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และจะทำให้เกิดรัฐบาลใหม่ที่จะมาสร้างความมั่นใจของต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนในประเทศด้วย ซึ่งกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ยังไม่ได้รับรองจากกกต.นั้น คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้ประเมินแล้วว่าข้อกล่าวหาทุกข้อ โดยเฉพาะกรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบมาช่วยหาเสียงนั้นไม่ ได้เป็นข้อกล่าวหาที่มีมูลความจริง ดังนั้นจึงเชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ น่าจะได้รับการรับรองจาก กกต.เรียบร้อย แต่ที่ห่วงก็คือกรณีที่มีข่าวออกมาว่ากกต.จะยังไม่พิจารณารายชื่อของ ว่าที่ส.ส. นปช. เพราะกลัวว่าจะถูกฟ้องร้องทีหลัง ซึ่งก็ต้องเรียกร้องให้กกต.พิจารณาให้ดีๆ เพราะ กกต.เคยรับรองให้ นปช. เป็นผู้สมัคร ส.ส. เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.แล้ว เมื่อบุคคลเหล่านั้นได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนแล้วก็ควรให้โอกาส

จี้กกต.สอบกรณีบุกหน่วยเลือกตั้งกระบี่

ด้านนายชัยณรงค์ ช่างเรือ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 1 พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ กกต.เร่งพิจารณากรณีที่ได้ไปร้องเรียนว่า นายสาคร เกี่ยวข้อง ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ บุกเข้าเขตเลือกตั้ง ในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค. ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 8 โรงเรียนบ้านเขากลม หมู่ 7 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ และทำร้ายด้วยการตบหน้านายสมาน ดินแดง ผู้ใหญ่บ้าน ที่ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 8 พร้อมข่มขู่นายสมานว่า “มีราคาไม่ถึง 5 หมื่นบาท” ซึ่งตรงนี้ทำให้ตีความได้ว่าเป็นการข่มขู่ถึงชีวิต ซึ่งนายสมาน ก็ได้เข้าแจ้งความไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเบื้องต้นการกระทำของนายสาครทั้งทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ก็เข้าข่ายคดีอาญา แล้วยังมีการบุกรุกเข้าปริมณฑลเลือกตั้งอีก ซึ่ง กกต.ไม่ควรแขวนไว้แล้วปล่อยในภายหลัง เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายชัดเจน

Tags :

view