จาก โพสต์ทูเดย์
ธ.ก.ส.เร่งมือลุยแก้หนี้เกษตรกรจิปาถะกว่า 1 แสนล้านบาท ตั้งเป้าจบก่อนสิ้นปี
นายวินัย เครือตรีประดิษฐ์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารจะเร่งแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรกลุ่มต่างๆ ให้แล้วเสร็จทั้งหมดในปีนี้
หนี้สินเกษตรกรกลุ่มแรก มีมูลหนี้ประมาณ 6.8 หมื่นล้านบาท จำนวนลูกหนี้กว่า 2.6 หมื่นรายนั้น มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กำหนดให้ลูกหนี้ที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ที่มาขึ้นทะเบียนแก้ไขหนี้ และเป็นหนี้ก่อนวันที่ 31 ธ.ค. 2552 จะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ 50% แรก เป็นเวลา 15 ปีก่อน หากชำระหนี้ได้ดีตามระยะเวลาที่กำหนด ธนาคารจะยกหนี้ส่วนที่เหลืออีก 50% ให้
ทั้งนี้ กลุ่มนี้ดำเนินการไปได้ประมาณ 50% แล้ว ตั้งเป้าดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ให้ครบทุกรายภายในเดือน มิ.ย.นี้
ลูกหนี้กลุ่มที่ 2 เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. ที่มีหนี้ค้าง (เอ็นพีแอล) แต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกองทุนฟื้นฟูฯ มีอยู่ประมาณ 3.3 แสนราย มูลหนี้ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท จะเร่งปรับโครงสร้างหนี้ให้ครบทุกรายภายในเดือน ก.ย.ปีนี้ โดยขณะนี้ดำเนินการไปได้แล้วกว่า 50% เช่นกัน
นายวินัย กล่าวว่า สถานการณ์สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของ ธ.ก.ส. งวดสิ้นปีบัญชี 2553 หรือวันที่ 31 มี.ค. 2554 มีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 3.76 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 6.6% ลดลงจากปีบัญชีก่อนที่อยู่ที่ 7.66% ถือว่าดีขึ้น เพราะเกษตรกรมีรายได้จากราคาสินค้าเกษตร
นางพูนสุข มุสิกลัด รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารจะออกเงินฝากสำหรับลูกค้าผู้สูงอายุที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป ในงานมหกรรมการเงิน (Money Expo) ระหว่างวันที่ 12-15 พ.ค.นี้ที่เมืองทองธานี โดยเงินฝากจะมีอายุ 3 ปี ปรับดอกเบี้ยขึ้นให้ทุก 6 เดือน เริ่มต้นจาก 3.25% จนถึง 8% หรือเฉลี่ย 4.25% ต่อปี ซึ่งจะต้องฝากเงินตั้งแต่ 1 หมื่นบาท ถึง 1 ล้านบาท
