จาก โพสต์ทูเดย์
แรงงานไทยวอนรัฐออกกฎห้ามดื่มเหล้าในโรงงานตลอด 24 ชม. หวังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้านผลวิจัยชี้แรงงานไทยติดเหล้า 8.4%
นายวิชัย พูนเกิด ประธานสหภาพแรงงานน้ำใจสัมพันธ์ บริษัท ยางโอตานิ กล่าวว่า จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมติให้ออกประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องห้ามขายและห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการโรง งาน พ.ศ. 2554 โดยห้ามขายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่โรงงานระหว่างเวลาปฏิบัติงาน โดยจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 180 วัน นั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้ทุกโรงงานมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
ทั้งนี้ จะส่งผลดีทั้งกับคนงานเองทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ ครอบครัว และนายจ้างที่จะได้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นด้วย และยังหวังว่าประกาศฉบับนี้คงผ่านได้ในรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งจะต้องผ่านอีก 2 ขั้นตอนเท่านั้นคือความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่ง ชาติ ที่พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์เป็นประธาน และนายกรัฐมนตรีลงนามให้มีผลบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม อยากให้มีการกำหนดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมการห้ามดื่มและจำหน่ายในโรงงานตลอด เวลา ไม่แค่เฉพาะในช่วงเวลาปฏิบัติงานเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานใช้โอกาสในช่วงเวลาพักดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พญ.บุญศิริ จันทรศิริมงคล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานยาเสพติดและสุรา สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า พฤติกรรมดื่มสุราในคนไทยถือว่าอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เกิดอาการติดเหล้า ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า วัยแรงงานอายุระหว่าง 25-34 ปี มีอาการติดสุรา ที่ 8.4% อายุระหว่าง 33-44 ปี อยู่ที่ 7.4% และ อายุระหว่าง 45-54 อยู่ที่ 5.2% ขณะที่เยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี มีอาการติดเหล้าอยู่ที่ 5.9% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูง
นอกจากนี้ ในผู้ที่มีอาการติดสุราและมีอาการของโรคจิตเวชร่วมด้วยมีจำนวน 7.1% ซึ่งอาการที่พบมากที่สุด เป็นกลุ่มโรคความผิดปกติทางอารมณ์ รองลงมาเป็นกลุ่มโรควิตกกังวลและกลุ่มโรคจิต โดยกลุ่มโรคเหล่านี้เสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองและการฆ่าตัวตาย
