จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เอดีบีแนะเอเชียจัดการราคาอาหารพุ่ง หวั่นก่อความไร้เสถียรภาพทางสังคม
นายชางยอง รี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) เปิดเผยในวันนี้ว่า ภูมิภาคเอเชียต้องจัดการกับเงินเฟ้อด้านราคาอาหารในเชิงรุกเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปกป้องประชาชนที่ยากจนที่สุดของโลกขณะที่การฟื้นตัวของภูมิภาคมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นายรียอมรับว่า การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารหากไม่มีการควบคุมอาจทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพ แต่เขาระบุว่า บรรดาผู้นำของเอเชียตระหนักถึงอันตรายดังกล่าว และอาจดำเนินการเพื่อป้องกันการเกิดความไม่สงบที่กำลังส่งผลกระทบต่อตะวันออกกลาง
"เหตุผลที่เราให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อด้านราคาอาหารมากกว่าเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนั้น เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพทางสังคม เอดีบีคาดว่าราคาอาหารโลกซึ่งปรับตัวขึ้น 30% จะทรงตัวที่ระดับสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
เอดีบี ระบุว่า อาหารคิดเป็นสัดส่วนสูงขึ้นในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเอเชีย โดยคิดเป็น 40% หรือมากกว่าในดัชนีราคาผู้บริโภคของบังคลาเทศ กัมพูชา อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ และศรีลังกา และขณะที่ประชาชนของทวีปเอเชียราว 3.3 พันล้านคนนั้นรวมถึงคนยากจนในโลกราว 2 ใน 3
รายงานของเอดีบีระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อจากราคาอาหารในเอเชียซึ่งอยู่ที่ราว 10% ในช่วงต้นปีนี้ อาจฉุดให้ประชาชนมากกว่า 64 ล้านคนดำรงชีวิตอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนที่ระดับ 1.25 ดอลลาร์ต่อวัน หากเงินเฟ้อยังดำเนินต่อไป
