จาก เดลินิวส์ออนไลน์
“สุเทพ” เรียก3ผู้ว่าฯงัดกฎหมายทุกฉบับสั่งคุมเข้มผู้ประกอบการปาล์มทุกขั้นตอน หลังเกษตรกรขายปาล์มน้ำมันไม่ได้
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชาติ จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายก ฯ เป็นประธาน ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี,ชุมพรและกระบี่ มาหารือเพื่อกำชับให้เข้มงวดกับมาตรการดูแลการผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม ทั้งระบบให้เป็นไปตามมติกนป.เมื่อวันที่ 30 มี.ค.หลังจากพบว่าบรรดาลานเทได้เข้ามากดราคารับซื้อผลปาล์มดิบจากเกษตรกรที่ ราคาก.ก.ละ 4.70-4.80 บาทเท่านั้น แม้ว่าผลปาล์มดิบจะมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17% ก็ตาม ขณะที่มติกนป.กำหนดราคาไว้ที่ ก.ก.ละ 6 บาท ขณะเดียวกันเกษตรกรก็เกิดความสับสนว่าจะขายได้เฉพาะผลปาล์มที่มีเปอร์เซ็นต์ 17% เท่านั้นหรือไม่ จึงทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายในพื้นที่
“ตามสถานการณ์แล้วราคาผลปาล์มดิบที่เกษตรกรนำมาขายให้ลานเทควรจะอยู่ที่ประ มาณก.ก.ละ 5.70 บาท เพราะเกษตรกรมีข้อจำกัดเรื่องการขนส่งไปยังโรงสะกัดน้ำมัน ขณะเดียวกันลานเทบางแห่งก็ใช้วิธีฉีดน้ำ ผสมน้ำ หรือผสมทราย เพื่อให้ผลปาล์มหนักขึ้น ซึ่งนายสุเทพ กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเข้มงวดกับการดำเนินการตามกฎหมายทุกฉบับ หากลานเทรายใดมีปัญหามากก็ให้สั่งปิดทันที ขณะที่โรงสะกัดน้ำมันปาล์มก็ต้องซื้อผลปาล์มที่มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 17% ด้วยเช่นกัน”
นายอภิชาติ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องสต๊อกน้ำมันปาล์มล้นตลาด เพราะขณะนี้มีกว่า 2 แสนตันแล้ว โดยกระทรวงพลังงานได้รับปากว่าจะนำน้ำมันปาล์มไปผลิตเป็นย้ำมันไบโอดีเซล บี 3 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. นี้ เป็นต้นไปซึ่งจะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในตลาดได้เพิ่มขึ้นอีกเดือน ละ 10,000-15,000 ตัน จากปัจจุบันที่ใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตไบโอดีเซล บี 2 ที่เดือนละ 20,000 ตัน เป็น 30,000-35,000 ตัน ส่วนปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ที่เกิดขึ้นทำให้ผลปาล์มดิบลดลงเหลือ 8.9 ล้านตัน จากที่มีอยู่ 9.17 ล้านตัน ซึ่งนายสุเทพได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด่อไป
นางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการกนป. กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการอาศัยช่วงที่เกิดเหตุน้ำท่วมและสงกรานต์ไม่ดำเนินการ ตามมติของกนป.เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งนายสุเทพ กำชับให้ผู้ว่าฯ ใช้กฎหมายทุกฉบับเข้าไปดูแลระบบการผลิตและจำหน่ายปาล์มน้ำมัน เพื่อให้เกษตรกรขายผลปาล์มได้ก.ก.ละ 6 บาท ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายภาษี การตรวจสอบบัญชี การให้ใบอนุญาต หรือแม้แต่การใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าและบริการ เข้ามากำกับดูแลอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าผู้ประกอบการกังวลเรื่องสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น มากจากผลผลิตที่กำลังจะออกมากในช่วงพ.ค.-มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าในเดือนมิ.ย.จะมีสต๊อกสูงถึง 3.24 แสนตัน เดือนก.ค. สูงถึง 3.54 แสนตัน เมื่อถึงสิ้นปีคาดว่าสต๊อกจะเพิ่มสูงกว่า 4 แสนตัน ขณะที่ผู้ประกอบการไม่สามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปขายในต่างประเทศได้ เพราะกนป.ได้กำหนดให้โรงกลั่นรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงสะกัดที่ก.ก.ละ 36.28 บาท ขณะที่ราคาในตลาดโลกอยู่ที่ก.ก.ล 33-34 บาท รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดราคาผลปาล์มดิบของเกษตรกรที่ก.ก.ละ 6 บาท และกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค ที่ขวดละ 47 บาท ไปจนถึงเดือนมิ.ย.นี้ ที่สำคัญในช่วงนั้นยังเป็นช่วงสูญญากาศจากการยุบสภา แล้วผู้ประกอบการจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรปล่อยให้กลไกตลาดทำงานได้อย่างเต็มที่จะเป็น สิ่งที่ดีที่สุด
