สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ฟื้นฟูน้ำบาดาล...ช่วยผู้ประสบภัย

จาก เดลินิวส์ออนไลน์

ท่ามกลางวิกฤติภัยธรรมชาติ ปัจจัยหนึ่งที่ยังคงเป็นปัญหาและส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนนั้น  คงหนีไม่พ้นเรื่อง “น้ำ” โดยเฉพาะน้ำที่สะอาดพอเพียงสำหรับการนำมาใช้อุปโภค-บริโภคของประชาชน

นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ลงพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย
ในพื้นที่ อำเภอพุนพิน  จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางกระทรวงฯ มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลลงพื้นที่  เร่งฟื้นฟูบ่อน้ำบาดาลที่ชาวบ้านใช้เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค พร้อมกับแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดให้กับประชาชนที่เดือดร้อน

ทั้งนี้ ได้เร่งดำเนินการเป่าล้างบ่อน้ำบาดาล  ซ่อมแซมเครื่องสูบแบบบ่อลึก  ติดตั้งชุดป้องกันน้ำท่วมถาวร อุดกลบบ่อน้ำบาดาลที่ชำรุดหรือเลิกใช้งาน  เจาะบ่อน้ำบาดาลทดแทน  ซ่อมแซมระบบประปาบาดาล  และซ่อมแซมระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำบาดาล โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลทั้งส่วนกลาง และสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลในเขตพื้นที่ภาคใต้ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือใน พื้นที่ดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนสามารถมีน้ำกิน น้ำใช้ ไม่ขาดแคลน และคลี่คลายสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้    ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากเกิดขึ้นโดยเฉพาะบริเวณจังหวัด กระบี่  ชุมพร  ตรัง  นครศรีธรรมราช  พังงา  สุราษฎร์ธานี  พัทลุง  สงขลา  สตูล  นราธิวาส  คิดเป็น 10 จังหวัด  100 อำเภอ  652 ตำบล ประชาชนเดือดร้อนประมาณ  637,523  ครัวเรือน  2,098,435  คน  บ่อน้ำบาดาลได้รับผลกระทบจำนวน  4,091 บ่อ  ซึ่งใน 10 จังหวัด จ.นครศรีธรรมราช มีบ่อบาดาลที่ถูกน้ำท่วมมากที่สุด จำนวน 1,355 บ่อ รองลงมาคือจ.ตรัง จำนวน 682 บ่อ

โดยปัจจุบันพื้นที่ภาคใต้ยังมีสถานการณ์อยู่จำนวน 2 จังหวัด  5 อำเภอ  34 ตำบล 237 หมู่บ้าน  มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณ 67,259 ครัวเรือน 195,793 คน ซึ่งประกอบด้วย  จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 2 อำเภอ คือ อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.ปากพนัง จ.สุราษฎร์ธานี  จำนวน 3 อำเภอ  คือ  อ.เคียนซา  อ.พุนพิน และอ.บ้านนาเดิม

สำหรับวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไม่ใช่เพียงน้ำท่วมที่คร่าชีวิตประชาชน และทำลายทรัพย์สินในพื้นที่ภาคใต้แล้ว  แต่ยังส่งผลให้เกิดดินถล่ม 6 แห่ง ดินไหล 25 แห่ง  และดินร่วง 1 แห่ง  โดยครอบคลุมพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช  กระบี่ ตรัง พังงา พัทลุง และชุมพร  โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบดินถล่มมากที่สุดคือ อ.ขนอม อ.สิชล อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช  รองลงมาคือ อ.เขาพนม จ.กระบี่

ล่าสุดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ลงสำรวจพื้นที่ที่ได้รับ ความเสียหาย และเข้าเจาะบ่อบาดาลเพื่อจัดหาแหล่งน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับ อุปโภค-บริโภคต่อไปแล้ว.

Tags :

view