จากประชาชาติธุรกิจ
นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรระบุสารเคมีกำจัดศัตรูพืชจะ ขาดแคลนครั้งใหญ่ คาดส่งผลกระทบเกษตรกร-กระทบชิ่งเศรษฐกิจ เผยผลของกฎหมายใหม่ไม่มีผู้ประกอบการรายใดขึ้นทะเบียนได้ทัน 22 สิงหาคม 2554 ชี้กรมวิชาการเกษตรไม่พร้อมจริงตามประกาศกรม
ดร.วีร วุฒิ กตัญญูกุล นายกสมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้เหลือเวลาเพียง 4 เดือน ก่อนถึงกำหนดวันที่ 22 สิงหาคม 2554 ที่พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 จะมีผลบังคับใช้ให้ผู้ประกอบการสารเคมีกำจัดศัตรูพืชต้องขึ้นทะเบียนสาร กำจัดศัตรูพืชใหม่ แต่จนถึงขณะนี้ปรากฏว่ายังไม่มีผู้ประกอบการรายใดสามารถขึ้นทะเบียนได้ เนื่องจากความล่าช้าใน ขั้นตอนของการออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และประกาศกรมวิชาการเกษตร หลังจาก พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2551 รวมทั้งความไม่ชัดเจนจนต้องมีการตีความในรายละเอียด หลักเกณฑ์ และวิธีการขึ้นทะเบียน ตลอดจนความไม่พร้อมทางด้านปฏิบัติของกรมวิชาการเกษตรเอง
"ผู้ประกอบ การพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ที่ขัดข้องคือความล่าช้า ทำให้เสียเวลาในการขึ้นทะเบียนใหม่จาก 3 ปี ซึ่งเหลือเวลาจริง ๆ ไม่ถึง 1 ปีครึ่ง บวกกับความไม่พร้อมของประกาศ ทั้งเรื่องห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ หน่วยงานทดสอบ จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครขึ้นทะเบียนได้เลย"
สิ่งที่ เป็นปัญหามากคือ ข้อกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ขอขึ้นทะเบียน ต้องส่งข้อมูลด้านพิษวิทยาจากห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GLP (Good Laboratory Practice) ตามมาตรฐานของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (OECD) ซึ่งต้องส่งไปทำการศึกษาทดสอบในต่างประเทศ เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีห้องปฏิบัติการดังกล่าว และต้องใช้เวลานาน 6-8 เดือนจนถึง 1-2 ปี
นอกจากนั้น การที่กรมวิชาการ เกษตรมอบหมายให้ 3 สมาคมทำการทดสอบประสิทธิภาพสารเคมีกำจัดศัตรูพืช โดยสมาคมนักโรคพืชแห่งประเทศไทย สมาคมกีฏและสัตววิทยาแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 สมาคมไม่สามารถดำเนินการทดลองได้ เพราะไม่มีความพร้อมด้านบุคลากร
ดร.วีร วุฒิกล่าวว่า หากกระทรวงเกษตรฯไม่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งปริมาณและจำนวนของสารกำจัดศัตรูพืช ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งสินค้าสารกำจัดศัตรูพืชที่อาจจะทำให้มีราคาแพงขึ้น รวมทั้งผลผลิตพืชเศรษฐกิจหลายชนิดจะได้รับความเสียหายจากความล่าช้าที่เกิด ขึ้น ในที่สุดแล้วผลกระทบสุดท้ายจะตกอยู่ที่กลุ่มเกษตรกร เนื่องจากรายได้ของเกษตรกรจะได้รับผลกระทบ และมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งยังเป็นช่องทางที่จะทำให้เกิดการค้าผิดกฎหมายขึ้นด้วย
สำหรับ สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตรเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้าและผู้จำหน่ายสารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีสมาชิก 149 บริษัท และมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70% ของมูลค่าสารกำจัดศัตรูพืชโดยรวม
