สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เกษตรกรน้ำตาตก พาณิชย์ ไฟเขียว ปุ๋ยขึ้นราคา 14-35% มีผล 8 เม.ย.นี้

เกษตรกรน้ำตาตก พาณิชย์ ไฟเขียว ปุ๋ยขึ้นราคา 14-35% มีผล 8 เม.ย.นี้

จากประชาชาติธุรกิจ

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมี เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติให้ปรับขึ้นราคาขาย ณ โรงงาน และราคาขายปลีกปุ๋ยเคมีที่มียูเรีย เฉลี่ย14-35% ตามสูตร โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย. เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุดิบยูเรียนำเข้าที่ได้ปรับสูงขึ้นเฉลี่ยราว 106 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือ 3,200 บาท จากเดิมราคาซี.ไอ.เอฟ. เมื่อเดือนก.ย. 53 ตันละ 313 เหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันได้เพิ่มเป็น ตันละ 419 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน จึงได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาในสัดส่วนเท่ากับต้นทุนที่ปรับขึ้น

 

“สาเหตุที่ต้นทุนปรับขึ้นจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกขยับสูง ทำให้ราคายูเรียซึ่งเป็นสินค้าเกี่ยวข้องปรับขึ้นตาม ประกอบกับหลายประเทศเพิ่มการปลูกพืชพลังงานทดแทน และมีการขยายพื้นที่ปลูกสินค้าเกษตรมากขึ้น และประเทศจีนซึ่งเป็นแหล่งส่งออก ก็ได้ปรับเพิ่มภาษีส่งออก จาก 7 เป็น 110% เพื่อลดปริมาณการส่งออก จึงกระทบต่อต้นทุนการผลิต เพราะเราต้องนำเข้าวัตถุดิบเป็นหลัก” นางวัชรีกล่าว

 

สำหรับหลักเกณฑ์ในการปรับขึ้นราคาครั้งนี้ ได้พิจารณาให้ปรับขึ้นในสัดส่วนเดียวกับต้นทุนนำเข้า โดยกำหนดเป็นราคาขายส่ง หน้าโรงงาน และราคาขายปลีกของแต่ละสูตร ดังนี้ 1) ปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 ราคานำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 9,703 บาทต่อตัน เป็น 12,113-12,913 บาทต่อตัน จึงปรับขึ้นราคาขาย ณ โรงงานจากเดิม 11,000 บาทต่อตัน เป็น 13,410-14,210 บาทต่อตัน หรือ จากเดิม 550 บาทต่อถุง เป็น 671-711 บาทต่อถุง ส่วนราคาขายปลีก กมท. เพิ่มจาก 584 บาทต่อถุง เป็น 725-765 บาทต่อถุง โดยราคาขายปลีกภาคเหนือ 762-866 บาทต่อถุง ภาคอีสาน 786-821 บาทต่อถุง และภาคใต้ 807-864 บาทต่อถุง

 

สูตร 15-15-15  ราคานำเข้าเพิ่มขึ้นจาก 11,935 บาทต่อตัน เป็น 13,606-14,247 บาทต่อตัน จึงได้ปรับขึ้นราคาขาย ณ โรงงานจากเดิม 14,000 บาทต่อตัน เป็น 15,671-16,342 บาทต่อตัน หรือ จากเดิม 700 บาทต่อถุง เป็น  784-816 บาทต่อถุง ส่วนราคาขายปลีก กมท. เพิ่มจาก 734 บาทต่อถุง เป็น 838-870 บาทต่อถุง 

 

สูตร 16-20-0 ราคานำเข้าปรับขึ้นจาก 10,385 บาทต่อตัน 11,230-12,721 บาทต่อตัน จึงได้ปรับขึ้นราคาขาย ณ โรงงานจากเดิม 11,500 บาทต่อตัน เป็น 12,345-13,836 บาทต่อตัน หรือจาก 575 บาทต่อถุง เป็น 618-692 บาทต่อถุง และราคาขายปลีก กทม. จาก 609 บาทต่อถุง เป็น 672-746 บาทต่อถุง

 

และปุ๋ยยูเรีย 21-0-0 ราคานำเข้าปรับขึ้นจาก 4,495 บาทต่อตัน เป็น 5,634-6,495 บาทต่อตัน จึงได้ปรับราคาขาย ณ โรงงาน จาก 6,000 บาทต่อตัน เป็น 7,139-8,000 บาทต่อตัน หรือจาก 300 บาทต่อถุง เป็น 357-400 บาทต่อถุง และปรับราคาขายปลีก กทม. จาก 334 บาทต่อถุง เป็น 411-454 บาทต่อถุง

 

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในจะสั่งติตตามสถานการณ์ต้นทุนปุ๋ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดประชุมประเมินสถานการ์ทุกเดือนและอาจจะมีการปรับราคาขึ้นลงหลังจาก นี้ โดยหากสถานการณ์ราคาวัตถุดิบปรับราคาลดลงทางกรมฯ ก็จะพิจารณาปรับราคาลง เช่นเดียวกับปี 2551 และปี 2553 ซึ่งได้มีการปรับราคาปุ๋ยยูเรียลดลง 8-24% อีกทั้งจะศึกษาความในไปได้ในการจัดทำปุ๋ยธงฟ้า เพื่อลดภาระให้กับเกษตรกรต่อไป

 

ด้านนายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาปุ๋ยส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของชาวนาแน่นอน โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาปุ๋ยสูตร 46-0-0 และปุ๋ยสูตร 16-20-0  ซึ่งจะเริ่มซื้อเพื่อเตรียมการปลูกฤดูใหม่ในช่วงหลังจากเดือนพ.ค. เป็นต้นไป

 

ด้านนายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ย และธุรกิจเกษตรไทย กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการใช้ปุ๋ยของไทยในปีนี้น่าจะอยู่ที่ 4.7 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อน 5.14 ล้านตัน โดยปริมาณความต้องการใช้สุงสุดคือปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ราว 2 ล้านต้น สำหรับปริมาณสต็อกปุ๋ยนับตั้งแต่ม.ค. 2554 มี 1 ล้านตัน ใช้ไปแล้ว 6 แสนตัน จนถึงขณะนี้เหลือปุ๋ยในสต็อกราว 4 แสนตัน ซึ่งหลังจากปรับขึ้นราคา  ผู้ประกอบการจะเพิ่มปริมาณการผลิต และนำเข้าแม่ปุ๋ยมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้


นายกฯสั่งฟ้าฝ่า เบรค พาณิชย์ ขึ้นราคาปุ๋ย หวังอุ้มเกษตรกรพ้นทุกข์ต้นทุนพุ่ง-ภัยธรรมชาติกระหน่ำ

จากประชาชาติธุรกิจ

นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย เปิดเผยว่า ผู้ผลิตปุ๋ยเคมีของไทย คงต้องชะลอการนำเข้าแม่ปุ๋ยเข้ามา เนื่องจากประสบปัญหาภาวะขาดทุนอย่างหนัก จากการชะลอไม่ให้ปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมี 4 สูตร ถือเป็นความจำเป็น เพราะแบกรับภาวะต้นทุนไม่ไหวทั้งๆที่ได้มีการตกลงกันในที่ประชุมคณะอนุกรรม การพิจารณาราคาปุ๋ยเคมีที่มีมติให้ปรับขึ้นปุ๋ยเคมี 4 สูตร ไปแล้วเฉลี่ย 14-35% อาทิ สูตร 46-0-0 ปรับขึ้น 24-30% สูตร 15-15-15 ปรับขึ้น 14-18% สูตร 16-20-0 ปรับขึ้น 10-22% และสูตร 21-0-0 ปรับขึ้น 23-35%

 

“เมื่อช่วงเช้า แต่กลับเปลี่ยนโยบายในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ซึ่งทางอธิบดีกรมการค้าภายใน (นางวัชรี วิมุกตายน) โทรศัพท์อ้างคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้ชะลอการปรับขึ้นราคาไปก่อน ไม่มีกำหนด”นายเปล่งศักดิ์กล่าว

 

แหล่งข่าวจากวงการค้าปุ๋ย กล่าวว่า ขณะนี้สต็อกปุ๋ยตั้งแต่ ม.ค. มีปริมาณ 1 ล้านตัน ใช้ไปแล้ว 6 แสนตัน เหลือเพียง  4 แสนตัน ซึ่งหลังจากนี้ภาคเอกชนก็อาจจะต้องชะลอการนำเข้าแม่ปุ๋ยยูเรียเพราะไม่คุ้ม ค่าต่อการนำเข้ามาผลิต ซึ่งอาจจะส่งผลให้ปริมาณปุ๋ยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ราว 4.17 ล้านตันในปีนี้ โดยเฉพาะปุ๋ยที่จะต้องใช้ในฤดูกาลผลิตข้าวเปลือกนาปี 2554/2555 ที่กำลังจะเริ่มต้นราวเดือนพ.ค. 2554 ซึ่งจะต้องใช้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 และ สูตร  16-20-0

 

ทั้งนี้ ปริมาณความต้องการใช้ปุ๋ยเฉลี่ยต่อปี ในสูตร 46-0-0 เฉลี่ยประมาณ 2 ล้านต้น สูตร 16-20-0 ปริมาณ 5-6 แสนตัน และสูตรอื่นที่ใช้ยูเรียเป็นส่วนผสม 15-15-15 5-6 แสนตัน โดยอาจจะแบ่งตามชนิดพืช เช่น ปุ๋ยมันสำปะหลัง 1.5-2 แสนตัน ปุ๋ยอ้อย 3 แสนตัน เป็นต้น

 

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมีมติให้ปรับราคาปุ๋ยเคมี 10-35% มีผลตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.54 ว่า ได้สั่งให้ชะลอการปรับขึ้นราคาปุ๋ยออกไปก่อนแบบไม่มีกำหนด เนื่องจากหลังมีข่าวปรับขึ้นราคาก็ได้รับร้องเรียนจากเกษตรกรหลายจังหวัดว่า ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง น้ำท่วม รวมถึงการระบาดของศัตรูพืชจนทำให้ผลผลิตเสียหายและรายได้ลดลง ดังนั้นจึงมอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามข้อเท็จจริงและหาแนวทางในการช่วย เหลือเกษตรกร พร้อมกับชะลอการขึ้นราคาออกไปก่อน

 

“มอบหมายให้กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ประกอบการผลิตและนำเข้าปุ๋ย เคมีชะลอการปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมีออกไปก่อน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยจัดทำโครงการปุ๋ยธงฟ้า ขึ้น จัดจำหน่ายปุ๋ยราคาถูกให้กับเกษตรกร เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเป็น รูปธรรม”

 

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยยินดีให้ความร่วมมือจัดปุ๋ยเคมีเพื่อ จำหน่ายตามโครงการปุ๋ยธงฟ้า 1 แสนตัน โดยจะดำเนินการให้ทันกับความต้องการของเกษตรกรในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกนี้ สำหรับการพิจารณาขึ้นราคาช่วงก่อนหน้านี้ ที่ประชุมได้พิจารณาตามต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้น แต่ขณะเดียวกันหากเกษตรกร และกลุ่มผู้ใช้ยังเดือดร้อนอยู่ ผู้ประกอบการและกระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมชะลอการขึ้นออกไป ตามนโยบายของ รมว.พาณิชย์ 

 

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่าก่อนหน้านี้ช่วง 12.30 น. คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมีมีมติให้ปรับราคาขายปุ๋ยยูเรีย 4 สูตร ได้แก่ 46-0-0, 15-15-15, 16-20-0 และ 21-0-0 ปรับขึ้นราคาตั้งแต่ 14-35% ตามต้นทุนวัตถุดิบแม่ปุ๋ยยูเรียที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะเริ่มราคาใหม่ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.เป็นต้นไป และยังกำหนดให้ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ทุกเดือน เพื่อพิจารณาสถานการณ์ราคา หากต้นทุนเพิ่มก็จะปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่หากต้นทุนลดลง ก็จะต้องปรับลง


พรทิวาสั่งเบรกขึ้นราคาปุ๋ย

จาก โพสต์ทูเดย์

พรทิวาขอความร่วมมือผู้ผลิตชะลอการปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมีออกไป ก่อน หลังคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยมีมติให้ปรับขึ้น8เม.ย. เพื่อไม่ให้เป็นการซ้ำเติมเกษตรกร 

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยเคมีได้มีมติให้ปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมี ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.เป็นต้นไป ส่งผลให้เกษตรกรในหลายจังหวัดร้องเรียนว่าเป็นการซ้ำเติม เพราะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และการระบาดของศัตรูพืช ทำให้รายได้จากการขายผลผลิตทางการเกษตรลดลง จึงขอให้ภาครัฐช่วยเหลือด่วน ดังนั้นจึงได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ผลิตและนำเข้าปุ๋ย เคมีชะลอการปรับขึ้นราคาปุ๋ยเคมีออกไปก่อน

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยจัดทำโครงการปุ๋ยธงฟ้า ขึ้น จัดจำหน่ายปุ๋ยราคาถูกให้กับเกษตรกร เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเป็น รูปธรรม 

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยยินดีให้ความร่วมมือจัดปุ๋ยเคมีเพื่อ จำหน่ายตามโครงการปุ๋ยธงฟ้าจำนวน 1 แสนตัน โดยจะดำเนินการให้ทันกับความต้องการของเกษตรกรในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกนี้

Tags :

view