สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แนะชาวสวนผลไม้ฝ่าสภาพอากาศแปรปรวน

จาก เดลินิวส์ออนไลน์

ช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนทั้งสลับร้อนสลับหนาว ขณะเดียวกันยังมีฝนตกและเกิดพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่

ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการผลิตสินค้าเกษตรหลายชนิด รวมถึงผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของภาคตะวันออก ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และ ลองกอง ที่จะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดในช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไป โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า ปี 2554 นี้ ผลไม้ภาคตะวันออก  4 ชนิดดังกล่าว จะมีปริมาณรวม 766,057 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา จำนวน 33,342 ตัน คิดเป็น 4.55% ซึ่งจะออกสู่ตลาดล่าช้ากว่าทุกปีประมาณ  2 สัปดาห์ เนื่องจากอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้ออกดอกช้ากว่าปกติ
   
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร แนะนำว่า เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง จำเป็นต้องดูแลสวนอย่างดีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากความแปร ปรวนของสภาพอากาศ โดยเฉพาะสวนที่ใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิตและต้นที่เพิ่งติดผลขนาดเล็ก ถ้าประสบภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เมื่อต้นไม้ได้รับน้ำฝนปริมาณมากอาจสลัดผลทิ้งหรือหากเกิดพายุฤดูร้อนและลม กระโชกแรงอาจทำให้ผลหลุดร่วง ซึ่งจะสร้างความสูญเสียให้กับเกษตรกรได้
   
ในส่วนของ ทุเรียน ภาคตะวันออกทั้ง ทุเรียนพันธุ์กระดุม ชะนี และ หมอนทอง ที่น่าเป็นห่วง คือ ทุเรียนที่ออกดอกรุ่น 4 ซึ่งกำลังติดผลขนาดเท่าไข่ไก่ และทุเรียนออกดอกรุ่น 5 หรือรุ่นสุดท้ายที่มีทั้งระยะหัวกำไล ดอกบาน และหางแย้ ซึ่งยังไม่ติดผล หากสภาพอากาศแปรปรวน ร้อนสลับหนาว และสลับฝน โอกาสที่ทุเรียนจะสลัดผลและดอกในรุ่นที่ 4 และ 5 ทิ้ง มีค่อนข้างสูง เงาะก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเงาะ “ขึ้นลูก” (เงาะที่เพิ่งติดผล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว) อาจอาจสลัดผลทิ้งได้
   
ปีนี้ มังคุด เกิดการพักต้นสะสมอาหารและออกดอกติดผลช้ากว่าปกติ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระยะเม็ดกลมหรือผลกลม ยังไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวน ขณะที่ลองกองก็แทงช่อดอกช้ากว่าปกติมาก ส่วนใหญ่กำลังจะขึ้นลูกหรือติดผลขนาดเล็ก ถ้าพบว่าลองกองแทงช่อดอกมาก ควรตัดแต่ง ควรตัดแต่งช่อดอกออกไปบ้างจะช่วยให้ติดผลดีขึ้น ซึ่งทั้งมังคุดและลองกองถือว่า อยู่ในระยะปลอดภัย ไม่น่าห่วงนัก
   
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรหมั่นสังเกตสวนผลไม้ของตนเอง หากพบว่า ผลร่วงเสียหายไม่เกิน 30% ถือว่ายังพอรับได้ แต่ถ้าเกิน 30% โดยเฉพาะเงาะ เกษตรกรต้องเร่งเพิ่มอาหารสะสมให้กับต้นเงาะซึ่งอาจใช้ฮอร์โมนฉีดพ่นเพื่อ สร้างความแข็งแรงให้กับขั้วผล และผลที่ยังไม่แก่ โดยใช้ปุ๋ยโปแตสเซียม ไนเตรท 13-0-46 ปริมาณ 5 กรัมผสมกับแมกนีเซียมชนิดน้ำ 300 cc ผสมกับ NAA (phanofix) 50 cc และน้ำ 200 cc ฉีดพ่นทางใบและผลอ่อน จะช่วยเสริมเรื่องการเจริญเติบโตของเงาะ และช่วยลดการหลุดร่วงของเงาะที่ติดผลแล้วได้ด้วย
   
หากต้องการทราบเทคนิคการดูสวนผลไม้ในช่วงสภาพอากาศแปรปรวน หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มส่งเสริมการผลิตไม้ผล สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2579-3816.

Tags :

view