สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พาณิชย์ยืนกรานใช้เงินกองทุนอ้อยฯชดเชยค่าถุงน้ำตาล

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

พาณิชย์ยืนกรานใช้เงินกองทุนอ้อยชดเชยค่าบรรจุถุงโรงงานผลิตน้ำตาลป้อนโมเดิรร์นเทรด ทวงถามมติครม.ปี 51ให้ขึ้นราคามีเงื่อนให้ฟังพาณิชย์
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีชาวไร่ค้านการนำเงินกองทุนอ้อยและน้ำตาลไปเป็นค่าใช้จ่ายบรรจุถุงนั้น ใน การแก้ไขปัญหาน้ำตาลทรายขาดแคลนและมีราคาเพิ่มสูงขึ้น กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานที่ดูแลด้านราคาจำหน่ายซึ่งเป็นปลายน้ำ

ส่วนการกำกับดูแลระบบการ ผลิต การจำหน่ายซึ่งเป็นต้นน้ำ มีหน่วยงานอื่นรับผิดชอบ โดยในปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมในการซื้อน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัมเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัม ในห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ตามราคาควบคุมคือถุงละ 23.50 บาท ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

โรงงานน้ำตาลทราย 4 แห่ง ที่ผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายชนิดบรรจุถุง 1 กิโลกรัม มีต้นทุนการบรรจุเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ไม่มีการผลิตและจำหน่ายเพิ่มขึ้น และไม่มีแรงจูงใจให้โรงงานน้ำตาลทรายรายอื่นๆผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย บรรจุถุง 1 กิโลกรัม กระทรวงพาณิชย์เห็นว่า หากให้ปรับราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาลทรายเพิ่มสูงขึ้น เป็นกิโลกรัมละ 25 บาท จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัมสูงกว่าราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายบรรจุถุงขนาดอื่นๆ เช่น 25 กิโลกรัม และ 50 กิโลกรัม ทำให้น้ำตาลทรายในตลาดมี 2 ราคา อาจส่งผลให้น้ำตาลทรายบรรจุถุงขนาดอื่นๆ ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นตาม ซึ่งจะมีผลกระทบ ต่อประชาชนและผู้ใช้ในประเทศทั้งระบบและจะส่งผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ครม.มีมติเมื่อวันที่ 29 เม.ย.2551 ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ ในประเด็นการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย (กิโลกรัมละ 5 บาท) ซึ่งเห็นว่าเมื่อสถานการณ์ได้คลี่คลายลง ก็เห็นควรให้โอกาสผู้บริโภคและอุตสาหกรรมได้รับประโยชน์ด้านราคา

กระทรวงพาณิชย์จึงเห็นว่า เพื่อให้เป็นไปตามมติครม.ดังกล่าว ควรให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ส่งเสริมสนับสนุนการผลิตน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เงินกองทุนในส่วนที่มีการผลิตน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นจาก 22 ล้านกระสอบ เป็น 25 ล้านกระสอบ เพิ่มขึ้น 3 ล้านกระสอบ เป็นเงิน 1,500 ล้านบาท มาดำเนินการ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวไร่อ้อย

นางพรทิวา ระบุว่าา ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบราคาจำหน่ายของโรงงานน้ำตาลทราย ยี่ปั๊วซาปั๊ว และ ร้านค้าปลีก เป็นประจำอย่างต่อเนื่องใน ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากพบว่ามีการจำหน่ายเกินราคาควบคุม ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยได้มีการดำเนินคดีไปแล้วหลายราย

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้มีการศึกษาโครงสร้างตลาดน้ำตาลทรายปัจจุบัน ที่อาจมีการจำกัดการแข่งขันหรือผูกขาด ทำให้ระบบการจำหน่ายน้ำตาลทรายไม่เป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรม และทำให้การค้าไม่คล่องตัว ซึ่งจะได้นำเสนอผลการศึกษาให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าพิจารณาต่อไป

Tags :

view