จาก คมชัดลึกออนไลน์
คมชัดลึก :ศูนย์ ข่าวภาคใต้ - กลุ่มสหกรณ์กองทุนสวนยาง จ.สงขลา ขาดทุนยับ 40 บาท/กิโลกรัม เหตุต้นทุนวัตถุดิบสูง เผยผู้ส่งออกหยุดซื้อ เหตุสต็อกล้น สกย.ส่งเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาแนะหยุดการผลิตป้องกันขาดทุน
นายวลิต ขวัญสุข ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยาง บ้านป่ายาง จำกัด อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" สหกรณ์ทำธุรกิจด้วยการรับซื้อน้ำยางจากเกษตรเพื่อนำมาผลิตเป็นอย่างแผ่นรม ควัน ซึ่งผลกระทบจากการราคาปรับลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางสหกรณ์ฯมียางแผ่นรมควันเหลืออยู่ในสต็อกที่ไม่สามารถนำออกไปขาย ได้ประมาณ 10,000 กิโลกรัม
"เหตุที่เราไม่สามารถขายได้เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่เราซื้อมาสูง ในขณะที่ราคายางแผ่นรมควันตอนนี้ลดลงมา เฉลี่ยหากเราขายวันนี้เราจะขาดทุนกิโลกรัมละ 40 บาททันที ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไง เพราะขายก็ขาดทุน"
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือตอนนี้ยางแผ่นรมควันที่ผลิตแล้วไม่สามารถนำไปขายที่ตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ ได้ เนื่องจากไม่มีพ่อค้าที่เข้ามาประมูลยางแผ่นรมควันที่ตลาดแห่งนี้ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้ทางตลาดกลางไปร้องขอให้บริษัทเอกชน 1 รายเข้ามาทำการซื้อ ทำให้มีการกดราคา จึงไม่สามารถขายได้
นายนิยม ขวัญรัตน์ ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านทอนไม้ไผ่จำกัด อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา กล่าวว่า โชคดีที่กลุ่มได้หยุดการผลิตมาประมาณ2 เดือน เนื่องจากประสบปัญหาขาดคนงาน แต่กลุ่มสหกรณ์อีก 2 กลุ่ม ในพื้นที่ ซึ่งจากสอบถามทั้ง 2 กลุ่ม ได้รับผลกระทบ จากราคายางที่ปรับ
ลดลง กลุ่มละประมาณ 500,000 บาท
"โชคดีที่กลุ่มของผมหยุดไปก่อนที่จะเกิดปัญหา ไม่งั้นเดือดร้อนแน่ เพราะราคามันไม่แน่นอน ขายไม่ได้ ผู้ส่งออกไม่ซื้อ ร้านค้ากดราคา"
นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ ผอ.สกย.สงขลาเขต 1 กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เพื่อไปดูแลกลุ่มสหกรณ์ฯของเกษตรกร โดยขอให้หยุดการรับซื้อและผลิตยางแผ่นรมควันในช่วงนี้ เนื่องจากเสี่ยงที่เกิดปัญหาขาดทุน เนื่องจากราคายางที่แกว่งในแต่ละวัน
"ประมาณ 1 เดือนมาแล้ว ที่ผู้ส่งออกยางในจ.สงขลา หยุดซื้อยางเนื่องจากไม่มีที่เก็บ เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ส่งออกมีการซื้อจำนวนมาก แต่หลังจากที่เกิดปัญหาจีนชะลอการซื้อ และสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้ส่งออกมียางในสต็อกจนล้นโกดัง และไม่สามารถส่งออกได้"
ทำให้ภาพที่เคยเกิดขึ้นคือมีรถยนต์เข้าคิวกันหน้าโรงงงานรับซื้อยางเป็นแถว ยาวเป็นกิโลเมตรตอนนี้ไม่มีแล้ว ทำให้ราคายางปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว และล่าสุดแผ่นดินไหว และสึนามิที่ญี่ปุ่น