สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปลูก หญ้าแพงโกล่า สลับนาข้าว เพิ่มคุณภาพดิน-มีกินตลอดทั้งปี

คมชัดลึก : การปลูกหญ้าแพงโกล่าเพื่อเป็นพืชอาหารสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ เป็นต้น เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เกษตรกรให้ความสนใจ เนื่องจากสามารถปลูกได้ทั้งในพื้นที่ลุ่มเขตชลประทานและพื้นที่ดอนที่มีการ ขุดสระกักเก็บน้ำ ที่สำคัญใช้น้ำน้อยกว่าการทำนาข้าวถึง 3 เท่า ลงทุนปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นาน 5-7 ปี และสามารถตัดขายได้ทุกๆ 45 วัน ในรอบ 1 ปีจะตัดหญ้าแห้งขายได้ 5-7 ครั้ง ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 25,000 บาทต่อไร่ต่อปี อีกทั้งยังสามารถปล่อยพันธุ์ปลาในสระเก็บน้ำเลี้ยงขายเป็นรายได้เสริมอีกทาง หนึ่ง
   ชาญ เห็นสิงห์ อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 10 ต.หนองมะโมง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท เกษตรกรผู้ปลูกหญ้าแพงโกล่า เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยทำนาข้าวแต่ประสบกับปัญหาเพลี้ยระบาดอย่างรุนแรงและขาดแหล่ง น้ำในหน้าแล้งทำให้เกิดการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง จึงได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกหญ้าแพงโกล่าแทน ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ได้เข้ามาแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการ ปลูกและผลผลิตที่จะได้รับ รวมถึงข้อดีของการปลูกหญ้าประเภทนี้

  "ในช่วงแรกได้ทดลองปลูกหญ้าควบคู่กับปลูกข้าว แบ่งเป็นอย่างละ 5 ไร่ เพื่อศึกษาผลที่จะได้รับว่าอย่างไหนดีกว่ากัน สุดท้ายก็พบว่าปลูกหญ้าดีกว่า จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 10 ไร่ และค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันปลูกเต็มพื้นที่ 80 ไร่ สลับหมุนเวียนกับการทำนาข้าว โดยปรับเปลี่ยนมาทำการเกษตรแบบอินทรีย์เต็มร้อย ไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรแต่อย่างใดทั้งในแปลงหญ้าและนา ข้าว ข้อดีของการทำนาหญ้าก็คือ ใช้น้ำน้อย ลงทุนน้อย ไม่มีปัญหาเรื่องโรคแมลง สามารถทำรายได้ตลอดทั้งปี"
 
  ชาญอธิบายรายละเอียดถึงขั้นตอนการปลูกหญ้าแพงโกล่าว่า เริ่มจากการเตรียมดินเช่นเดียวกับการทำนา โดยการไถดะ ปล่อยน้ำเข้าและตีเทือก หมักดินทิ้งไว้ 7-10 วัน ปรับระดับน้ำให้สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร ขั้นตอนนี้ควรจัดการให้ดีที่สุด ระวังอย่าให้มีวัชพืชปะปน เพราะอาจทำให้ราคาตกเมื่อเก็บเกี่ยว การปลูกใช้ท่อนพันธุ์หว่าน ในอัตรา 300-400 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านแล้วใช้ไม้นาบท่อนพันธุ์ให้พอจมน้ำ แช่ทิ้งไว้ 6-8 วัน จึงระบายน้ำออกจากแปลงให้น้ำท่วมผิวดินพอหมาดๆ สูงไม่เกิน 5 เซนติเมตร หลังปลูกได้ประมาณ 30 วัน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักให้ทั่วแปลง และเมื่อหญ้าอายุได้ 60 วัน ก็เริ่มตัดหญ้าครั้งแรกได้ โดยทุกๆ ครั้งหลังการตัด จะใส่ปุ๋ยคอกจากมูลโค-กระบือที่ทำไว้ หรือใช้น้ำมูลหมูใส่ลงในแปลงพร้อมกับการสูบน้ำเข้าพอให้ท่วมผิวดิน และทุกๆ 25-30 วัน ก็จะสามารถตัดหญ้าได้

 "ที่นี่จะทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ไว้ใช้เอง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลพลอยได้จากโรงผลิตปุ๋ยเคลื่อนที่อย่างโคและกระบือที่ เลี้ยงไว้จำนวน 75 ตัว เป็นกำลังสำคัญ โดยเอามูลมาทำเป็นปุ๋ยใส่ในแปลงหญ้า นอกจากนี้ยังนำน้ำมูลสุกรจากฟาร์มเลี้ยงใกล้ๆ บ้านมาหมักเป็นปุ๋ยชั้นเลิศอีกด้วย แต่ก่อนนำมาใช้ต้องผ่านการหมักพักไว้ในบ่อและใส่สารเร่งซูเปอร์ พด.2 ของกรมพัฒนาที่ดินที่แจกฟรีลงไปเสียก่อน หมักให้ได้ที่จึงจะนำมาใช้ นอกจากจะช่วยในการลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ฟื้นคืนกลับมามากขึ้นด้วย"

 เกษตรกรผู้ปลูกหญ้าแพงโกล่าคน เดิมยังย้ำด้วยว่า เมื่อดินฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นก็หยุดนาหญ้าแล้วหันกลับมาทำนาข้าว อีก ซึ่งผลผลิตที่ได้จะดีมาก เนื่องจากดินดี ต้นทุนน้อย ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ผลผลิตข้าวจึงสวยกว่าที่อื่น ที่สำคัญผลผลิตข้าวต่อไร่ก็เพิ่มขึ้น  จากเดิมได้ผลผลิตอยู่ที่ 40-50 ถังต่อไร่ ตอนนี้อยู่ที่ 90-110 ถังต่อไร่ โดยมีรายได้เฉลี่ยจากนาข้าวประมาณ 2 แสนบาทต่อปี ส่วนนาหญ้าทำรายได้ต่อวันละไม่ต่ำกว่า 800 บาท โดยมองว่าในส่วนของนาข้าวและโค-กระบือเปรียบเสมือนเงินออม สำหรับนาหญ้าก็คือเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน

 หากเกษตรกรท่านใดกำลังมองหาอาชีพที่ลดความเสี่ยงจากปัญหาขาดแคลนน้ำ ขอแนะนำอาชีพปลูกหญ้าไว้เป็นอีกทางเลือก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชาญ เห็นสิงห์ บ้านเลขที่ 53 หมู่ 10 ต.หนองมะโมง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท โทร.08-9958-5890, 08-2170-8011 ได้ทุกวัน

"สุรัตน์ อัตตะ"

Tags :

view