สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปิดอ่าว 3 เดือนปลาเพิ่มกว่า 4 หมื่นตัน

จาก เดลินิวส์ออนไลน์

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่ากรมประมง ได้ประกาศปิดอ่าวในระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์–15 พฤษภาคมของทุกปี ในอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 26,400 ตารางกิโลเมตรบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
   
ซึ่งมีการกำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิด ที่อาจส่งผลต่อการแพร่พันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์และสัตว์น้ำวัยอ่อนในท้องทะเล อ่าวไทย โดยเฉพาะ “ปลาทู” สัตว์น้ำที่มีคุณค่าและความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ ตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ สามารถที่จะช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืน กลับมาได้อย่างยั่งยืน ดังยืนยันได้จากผลการเก็บข้อมูลจำนวนประชากรสัตว์น้ำของกรมประมง ในช่วงหลังฤดูกาลปิดอ่าว เมื่อปี 2553 พบว่าปริมาณการจับสัตว์น้ำได้มีจำนวนมากถึง 43,115.1 ตัน ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนปิดอ่าว กว่าเท่าตัว (ก่อนปิดอ่าว จำนวน 20,771.5 ตัน) จึงแสดงให้เห็นว่ามาตรการดังกล่าวนี้สามารถสร้างความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร สัตว์น้ำในท้องทะเลให้คืนกลับมาได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้ชาวประมงมีรายได้ในการประกอบอาชีพได้อย่างดี
   
ด้านนางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่าเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุตามวัตถุ ประสงค์ จึงได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจฯ ขึ้นมา แบ่งตามภารกิจเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มประชาสัมพันธ์ ทำหน้าที่เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงและประชาชนเข้าใจถึงผลดีของการปิด อ่าว 2. กลุ่มควบคุมดูแลปราบปราม รับผิดชอบการควบคุมตรวจปราบปรามผู้กระทำผิดตามกฎหมาย 3. กลุ่มติดตามผลการดำเนินคดี รับผิดชอบในการติดตามผลการดำเนินคดีในการจับกลุ่มผู้กระทำผิด และ 4. กลุ่มประเมินผลทางวิชาการ ทำหน้าที่สำรวจ รวบรวมข้อมูล ศึกษาและประเมินสภาวะทรัพยากรสัตว์น้ำ ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มได้ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างบูรณาการ
   
และเพื่อให้กลุ่มชาวประมงและชุมชนชาวประมงในท้องถิ่นเกิดความรู้ความเข้าใจ ในมาตรการปิดอ่าว  และตระหนักถึงความสำคัญต่อการอนุรักษ์สัตว์น้ำ จึงได้สนับสนุนให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการทรัพยากร และจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงทุกกลุ่มคนอย่างกว้างขวาง.

Tags :

view