ชาวสวนบุกกระทรวงเกษตรฯ จี้สกัดมะนาวเวียดนามตีตลาด
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สมาคมพืชสวน ร้องกระทรวงเกษตรฯ เร่งแก้ปัญหาราคามะนาวตกต่ำ หลังเวียดนามส่งผ่านกัมพูชาทะลักตามแนวชายแดนตีตลาดทั่วประเทศ
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของสมาคมพืชสวนและกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวภาคตะวันตกว่าได้มีการหารือถึงปัญหาราคามะนาวในช่วงนี้ตกต่ำ ซึ่งเป็นผลมาจากการทะลักเข้ามาของมะนาวจาก เวียดนามที่ส่งผ่านมาทางกัมพูชาและส่งขายทั่วประเทศ ซึ่งปัญหานี้กระทรวงเกษตรได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ไข ปัญหาต่อไป
นอกจากนี้สมาคมพืชสวนยังเสนอให้กระทรวงเกษตรฯออกใบรับรองแปลงเพาะปลูกพืช ที่ดีและเหมาะสมหรือจีเอพีจากเดิมเป็นรายพืชเป็นหลายกลุ่มพืช เช่นพืชกินใบ กินราก กินผล เป็นต้น เนื่องจากเกษตรกรแต่ละรายปลูกพืกผักหลายชนิด วิธีการรับรองเป็นรายพืชจะทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงและการรับรองไม่มี ประสิทธิภาพ ในขณะที่การรับรองควรเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญมีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้มีการกระจายการรับรองในพื้นที่ได้มากขึ้น
เรื่องดังกล่าวกระทรวงเกษตรอยู่ระหว่างการปรับปรุงโดยในเบื้องต้นจะให้ การรับรองเป็นกลุ่มเกษตรกร และจะนำข้อเสนอของสมาคมดังกล่าวมาประกอบการพิจารณารวมทั้งยังมีแผนที่จะ กระจายการรับรองไปสู่ภาคเอกชนอยู่แล้ว ทั้งหมดนี้จะกำหนดเป็นระเบียบต่อไป
นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนกล่าวว่า มะนาวถือ เป็นสินค้าที่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อสินค้าเกษตร 23 รายการตามที่ไทยได้เปิดเสรีภายใต้เขตการค้าอาเซียนตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2553 ดังนั้นการนำเข้าจากเวียดนามจะต้องได้รับการตรวจสอบละประเมินความเสี่ยงตามพ รบ.กักพืช ก่อนเพราะถือว่าเป็นพืชในตระกูลส้ม ซึ่งเรื่องนี้ทางเวียดนามรับรู้ระเบียบ นี้เป็นอย่างดีจึงเลี่ยงการส่งออกผ่านกัมพูชาที่ไทยมีสัญญาให้นำเข้าและส่ง ออกมะนาวได้เนื่องจากไทยเห็นว่ากัมพูชาไม่มีแหล่งปลูกมะนาวและผลผลิตในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการ
ต่างกับไทยที่แต่ละปีมีผลผลิตมะนาวอย่างเพียงพอไม่มีประวัติการนำเข้า ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้มะนาวในประเทศราคาตกต่ำ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด หากรัฐบาลปล่อยให้สถานการณ์นี้ล่วงเลยในที่สุดเกษตรกผู้ปลูกมะนาวจะหมดไป อีกทั้งมะนาวเวียดนามเป็นมะนาวไข่ที่เปลือกหนา น้ำน้อยและไม่หอมต่างจากของไทยที่เป็นมะนาวแป้นเปลือกบาง ให้น้ำเยอะ
นายนิวัติ ปากวิเศษ ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวภาคตะวันตก กล่าวว่า ในขณะนี้ราคามะนาวเฉลี่ย ที่ผละละ 12 บาท ถือว่าตกต่ำอย่างที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับราคาในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านๆมา ที่ระหว่างนี้ราคาจะพุ่งสูงขึ้นประมาณผลละ 4-5 บาทเป็นอย่างต่ำ ทั้งนี้เพราะมีมะนาวจาก เวียดนามทะลักเข้ามา โดยจากการตรวจสอบที่ด่านนำเข้าภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมาพบว่ามีการบรรทุกด้วยรถสิบล้อมากถึง 3 คันทะเบียนรถกัมพูชาผ่านเข้ามาอย่างง่ายดายไม่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ กักกันพืช หลังจากนั้นรถจะเลี้ยวเข้าตลาดทันที่เพื่อกระจายด้วยรถกระบะขนาดบรรจุประมาณ 3-4 ตันต่อตันรถเพื่อส่งไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคอื่นๆทั่วประเทศ
ทั้งนี้จากการสอบถามผู้ประกอบการพบว่ามีการนำเข้าในลักษณะนี้มานานประมาณ 1 ปีแล้วแต่มีมะนาวจำนวนมากในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับที่ผลผลิตมะนาวของ ไทยราคาเริ่มตกต่ำ โดยสังเกตได้จากในช่วงเข้าพรรษาปี 53 ราคามะนางพุ่งสูงสุด ผลละ 2 บาท ทำให้เกษตรไม่เก็บผลเพื่อเก็งราคาขายช่วงออกพรรษาที่คาดว่าราคาจะพุ่งสูง ขึ้นอีก แต่สถานการณ์กลับกันราคามะนาวลดลงเหลือผลละ 0.50 บาท
แต่ช่วงนั้นยังไม่ผิดสังเกตเกษตรกรยังมีความหวังในช่วงแล้งซึ่งพบว่าราคา ปรับเพิ่มจริงเป็นผลละ 1 บาท แต่ราคาดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าต้นทุนและเกษตรกรไม่สามารถอยู่ได้ เพราะการปลูกมะนาวที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนสูงประมาณ 4.5 แสนบาท/เดือน และต้องรองรับการขาดทุนในช่วงที่มะนาวออกสู่ตลาดมาก เพื่อรอผลกำไรในช่วงแล้งแต่เมื่อมีมะนาวเวียดนามมาดั้มพ์ตลาดทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายและกระทรวงเกษตรฯควรแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ราคามะนาวของเวียดนาม 1 กระสอบพลาสติกบรรจุ 400 ผล ราคา 450 บาท ขณะที่มะนาวไทยราคา 1,200 บาท