สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เบื้องหลัง !ปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 9 บาท เป็นขวดละ 47 บาท

จากประชาชาติธุรกิจ

 ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์ม น้ำมัน ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน ได้พิจารณาให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ ปริมาณ 30,000 ตัน ภายในสิ้นเดือนม.ค.54 เพื่อแก้ปัญหาสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศตึงตัว พร้อมทั้งให้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาปรับราคาน้ำมันปาล์มให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง   

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันพืชบริโภค ภายใต้ คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)  เปิดเผยว่า ในที่ประชุมมีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด 9 บาท หรือขวดละ 47 บาทจากราคาเดิมที่กำหนดไว้ 38 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่ปรับสูงขึ้นตามราคาผลปาล์มดิบในช่วง ปลายฤดูกาล  โดยให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 54 ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวถือว่าเป็นราคาเพดาน  กรมฯ จะมีการพิจารณาทบทวนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอีกครั้ง ในเดือนมี.ค. หลังจากผลผลิตปาล์มน้ำมัน ฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาด  

“การปรับราคาเป็นไปตามต้นทุนผลปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มที่ขึ้น และมีความเป็นเป็นธรรมทั้งต่อผู้บริโภคและผู้ผลิต เพราะได้คำนวณจากต้นทุนการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากมาเลเซียที่กก.ละ 36.50 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาน้ำมันปาล์มในไทยที่ตก กก.ละ 48 บาท “นางวัชรีกล่าว  

นอกจากนี้กรมฯจะเป็นตัวกลางเจรจาให้ห้างค้าปลีกรายใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) ลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการในการจำหน่ายน้ำมันปาล์มลง เพื่อไม่ให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจตามห้างร้านต่างๆ เพื่อติดตามไม่ให้มีการจำหน่ายเกินกว่าราคาที่กำหนด และไม่ให้มีการกักตุนสินค้า   พร้อมกันนี้ได้เห็นชอบให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนรักษา เสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์ม เพื่อเป็นมาตรการระยะยาว โดยหลังจากได้ข้อสรุปการศึกษารูปแบบกองทุน และหน้าที่ในการดำเนินการ จะเสนอให้ ครม. พิจารณาต่อไป   อย่างไรก็ตาม นางวัชรี เชื่อว่าในการปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแน่นอน เนื่องจากกรมการค้าภายในได้มีมาตรการในการควบคุมราคาสินค้า  

ส่วนการปรับขึ้นราคาสินค้าประเภทอื่น โดยเฉพาะน้ำตาลทรายตามที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) จะพิจารณาให้ราคาน้ำตาลทรายเป็นแบบกึ่งลอยตัว โดยหลักการกรมการค้าภายในไม่ขัดข้อง แต่การปรับราคาน้ำตาลทรายขึ้นหรือลง ต้องยึดหลักสถานการณ์ตลาดโลก เพราะจะเป็นการขึ้นลงของราคาตามกลไกตลาด ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ ปริมาณน้ำตาลทรายในตลาดมีปริมาณไม่เพียงพอ จนสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้บริโภคที่ไม่สามารถหาซื้อน้ำตาลทรายได้ ดังนั้นการปล่อยให้ราคาน้ำตาลทรายเป็นแบบกึ่งลอยตัวจะต้องบริหารจัดการให้ น้ำตาลทรายมีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดก่อน  

ด้านนายอนุกูล แต้มประเสริฐ ผู้อำนวยการคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่อคส.จะประชุมร่วมกับผู้ประกอบการโรงกลั่น เพื่อรวบรวมข้อมูลว่าผู้ประกอบการมีความต้องการน้ำมันปาล์มปริมาณเท่าใด ภายหลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้อนุมัติให้ อคส.นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จากต่างประเทศ แก้ไขน้ำมันปาล์มในประเทศขาดแคลน โดยต้องอยู่ในโควตานำเข้า 30,000 ตัน และคาดว่าจะดำเนินการสั่งซื้อภายในเดือนม.ค.นี้ และระบายให้กับผู้ประกอบการได้ทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ โดยการนำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์จะมาจาก 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย   

ด้านนางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์ม ประเทศไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอีก 9 บาททันที จะช่วยบรรเทาปัญหาปริมาณน้ำมันปาล์มที่ตึงตัวในขณะนี้ได้ แต่สำหรับราคาที่อนุมัติให้ปรับขึ้น 9 บาท ยังต่ำกว่าต้นทุนของการผลิตของผู้ประกอบการ  ประเทศที่ลิตรละ 55-59 บาท จากต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบในประเทศขณะนี้อยู่ที่ ลิตรละ 43 บาท รวมกับค่าบริหารจัดการอีกลิตรละ 12-16 บาท รวมแล้วต้นทุนการผลิตต่อขวดอยู่ที่ 55-59 บาท ส่วนต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันปาล์มนำเข้าอยู่ ลิตรละ 39 บาท รวมกับค่าขนส่งอีกลิตรละ 3 บาท และค่าบริหารจัดการซึ่งคำนวณให้อีกลิตรละ 12 บาท 54 บาท   

“การให้ปรับขึ้นราคา ควบคู่ไปกับการอนุมัติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ ถือว่าเป็นการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะหากไม่ให้นำเข้าก็อาจจะเป็นสาเหตุให้ผู้ประกอบการขอปรับขึ้นราคาได้อีก การนำเข้าในช่วง 1-2 อาทิตย์ก็คงทัน และจะช่วยลดแรงกดดันเรื่องสต็อกได้ ผลิตได้ถึง 33 ล้านลิตร แต่หลังจากนี้ปัญหาระยะยาวต้องปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เพราะไม่อย่างนั้นก็คงจะต้องแก้ทุกๆ ปี”   นางวิวรรณ กล่าวว่า แนวทางการจัดตั้งกองทุนรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์ม ก็มีการหารือกันมานานนับ 10 ปี (นับจากปี 2543) โดยล่าสุดมีแนวคิดว่าให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ไปศึกษาแนวทางและร่างพ.ร.บ. น้ำมันปาล์ม โดยใช้โมเดลเดียวกับ พ.ร.บ. ยางพารา พ.ศ....เพื่อให้ดูแลทั้งระบบ ซึ่งจะคลอบคลุม 3 ด้านคือ การวิจัยและพัฒนา ทุน และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  

“กองทุนปาล์มมีแนวคิดมาตั้งแต่ปี 43 เห็นด้วย เพราะจะเป็นประโยชน์กับชาวสวนปาล์มมาก จะทำให้เหมือนกองทุนยาง ที่เรียกเก็บจากภาษีส่งออกมาตั้งต้น หรือรัฐบาลจะให้งบในการเริ่มต้นก่อน เพื่อให้สนับสนุนให้เป็นรูปเป็นร่าง แต่คงไม่ใช่เรียกเก็บจากผู้บริโภค” นางวิวรรณกล่าว   

รายงานข่าว ระบุว่า อคส. ได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม เพื่อจัดสรรปริมาณนำเข้าให้กับสมาชิกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม คาดว่าจะมีผู้ขอรับจัดสรรปริมาณ 5-6 ราย รายละ 5,000-6,000 ตัน ในราคาลิตรละ 36.50 บาท รวมค่าขนส่งแล้วน่าจะอยู่ที่ลิตรละไม่เกิน 50-52 บาท โดยผู้ประกอบการจะร่วมกันเปิดแอลซีในชื่อของอคส. เพื่อให้กระบวนการรวดเร็วที่สุด  

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในครั้งนี้ได้ ดำเนินการบนพื้นฐานของข้อตกลงร่วมกันว่า เมื่อผลผลิตปาล์มสด ฤดูกาลใหม่ออกมาในเดือนมี.ค.นี้แล้ว ผู้ประกอบการต้องปรับลดราคาลงให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลงเช่นกัน แต่หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขนี้ กระทรวงพาณิชย์ก็จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาดเช่นกัน เพราะน้ำมันปาล์มยังเป็นสินค้าควบคุมที่มีการประกาศเพดานราคาจำหน่าย หากไม่ปฏิบัติผู้ประกอบการไม่ทำตามก็ถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว    

“ ได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและสถานที่จัดเก็บน้ำมันปาล์มทั้งหมด ร่วมกับกรมการค้าภายใน โดยจะเริ่มออกตรวจสอบโรงงานผลิตและแหล่งค้าปลีก สถานที่จัดเก็บ หากพบว่ามีการกักตุนน้ำมันปาล์ม โดยเฉพาะสต็อกเก่าที่ผลิตก่อนเดือนพ.ย.53 จะดำเนินคดีทันทีตามพ.ร.บ.ราคาสินค้า ฯ  มีโทษ ปรับ 1.4 แสนบาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ “ นางพรทิวา กล่าว  

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันจะมีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะปัจจุบันความต้องการใช้น้ำมันปาล์มมีอยู่เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะการนำไป ทำเป็นไบโอดีเซล  ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร

Tags :

view