จาก โพสต์ทูเดย์
84สายพันธุ์พื้นเมืองของไทยเฉลิมฉลองในหลวง84พรรษา
เตรียมจดทะเบียนดีเอ็นเอข้าวไทยพันธุ์พื้นเมืองเพิ่ม 84 สายพันธุ์
นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า เตรียมถวายการจดทะเบียนดีเอ็นเอของโมเลกุลข้าวไทยพันธุ์พื้นเมือง 84 สายพันธุ์ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หนึ่งในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมข้าวของไทย หรือสายพันธุ์ข้าวของไทย
หลังจากนี้ หากมีประเทศใดนำไปใช้ประโยชน์หรือไปขยายการเพาะปลูกก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นข้าวที่มาจากไทย เพราะดีเอ็นเอของข้าวแต่ละสายพันธุ์จะไม่เหมือนกัน เหมือนกับของมนุษย์เช่นกันที่ดีเอ็นเอจะไม่เหมือนกัน แต่จะสืบได้ว่ามีบิดา มารดาเป็นใคร
สายพันธุ์ข้าวทั้งหมดกรมการข้าวได้รวบรวมไว้ 3,000 กว่าสายพันธุ์ จะได้ทยอยจดทะเบียนดีเอ็นเอทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้กรมการข้าวได้เคยถวายการจดทะเบียนดีเอ็นเอข้าวในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาไปครั้งหนึ่งแล้ว 80 สายพันธุ์
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการปรับระบบปลูกข้าวใหม่ ล่าสุด นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ รองอธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า กรมชลประทานได้รายงานผลสำรวจข้อมูลความต้องการเข้าร่วมโครงการของเกษตรกร ในปี 2554 มีเกษตรกรสมัครใจแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการ จำนวน 42,939 ราย พื้นที่ รวม 1,215,011 ไร่
เกษตรกร จำนวน 24,234 ราย มีความต้องการปลูกพืชหลังนา/พืชปุ๋ยสด รวม 444,981 ไร่ อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินโครงการจัดระบบการปลูกข้าวสามารถดำเนินการได้อย่างตรง พื้นที่เป้าหมาย และถึงตัวเกษตรกรได้อย่างแท้จริง จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานไประบุพื้นที่เป้าหมายทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ให้ชัดเจน จะได้รวบรวมข้อมูลอย่างเป็นทางการ
โครงการนี้เป็นโครงการสมัครใจ ทำให้เกษตรกรบางส่วนไม่สนใจ เพราะก่อนหน้านี้เกษตรกรประสพอุทกภัยทำให้อยากทำนากันให้ได้ผลผลิตมากแต่ของ โครงการจะทำได้เพียงสองครั้ง
ในการดำเนินการโครงการ ได้มีการตั้งคณะกรรมการและอนุกรรมการขึ้นมา 5 คณะ เพื่อรับผิดชอบในแต่ละแผนงานและกิจกรรม และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารฯ เพื่อพิจารณาตลอด โครงการโดยเฉพาะการตั้งคณะอนุกรรมการด้านการตลาดพืชหลังนา ขึ้นมาอีก 1 คณะเพื่อดูแลผลผลิตของพืชหลังนาที่เกษตรกรจะดำเนินการปลูกหลังเก็บเกี่ยว ข้าวเพราะจำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงกับตลาดด้วย เบื้องต้นสมาคมอาหารสัตว์สนใจในเรื่องการปลูกข้าวโพดมา
โครงการดังกล่าวตั้งเป้าหมายไว้ 9 ล้านไร่ ดำเนินการในปี 2554 จำนวน 3 ล้านไร่ และปีต่อไปปีละ 3 ล้านไร่ มีรายงานว่าเหตุที่เกษตรกรเข้าร่วมน้อยจากเป้าที่ตั้งไว้ 3 ล้านไร่ในปีแรก เพราะต้องการเร่งปลูกข้าวชดเชยความเสียหายจากน้ำท่วมกันมาก เนื่องจากจำกัดการปลูก 2 ครั้งต่อปี
โครงการดังกล่าวเกษตรกรจะปลูกข้าวได้เพียงปีละ 2 ครั้งและครั้งที่ 3 จะสนับสนุนให้ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดหวาน และข้าวโพดฝักอ่อน เพื่อเป็นการเพิ่มปุ๋ยให้กับดินในพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร โดยกรมชลประทานจะจัดระบบการส่งน้ำที่ชัดเจน
