จาก โพสต์ทูเดย์
ประธานมูลนิธิข้าวไทย ห่วงชาวนาไทยสูญพันธุ์ กระตุ้นรัฐสร้างความมั่นคงให้ชาวนาไทย
นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยในการลงนามความร่วมมือระหว่างมูลนิธิกับกรมการข้าว เพื่อส่งเสริมและพัฒนาข้าวไทยและเกษตรกรไทยว่า ข้าวเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีความหมายมากกว่ามูลค่าและราคาในการส่งออก แต่หมายถึงชาติ เพราะคนไทย 62 ล้านคน รับประทานข้าวเป็นหลัก หากไม่มีข้าวก็อยู่ไม่ได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าวกับชาติถือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ปัญหาสำคัญคือปัจจุบันเกษตรกรชาวนาลดลง โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะสานต่อ จึงจำเป็นที่รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องให้ความสนใจเป็นลำดับต้นๆ ดังจะเห็นว่าพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะให้ความสำคัญกับด้านการเกษตรเป็นอย่างมาก
“การทำให้เกษตรกรและคนรุ่นใหม่เห็นความมั่นคงของอาชีพว่าการทำนาเป็น อาชีพที่มีรายได้ ที่เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งรัฐจะต้องเข้ามาช่วยดูแลว่าทำอย่างไรถึงจะเป็นอาชีพที่มั่นคงเลี้ยงตัว ได้ การช่วยเหลือในเรื่องของการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ดีให้ผลตอบแทนต่อไร่สูง ข้าวทนแล้ง ทนน้ำ ทนแมลง และที่สำคัญคือการจัดหาแหล่งน้ำที่เพียงพอต่อการผลิต ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ถ้าดินไม่ดีแก้ไขได้ แต่จะต้องมีน้ำ เพราะน้ำสำคัญที่สุด” นายสุเมธ กล่าว
ประธานมูลนิธิข้าวไทยฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรอยู่ดีกินดี คือการทำอย่างไรให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น ย้อนกลับไปสู่ตัวเกษตรกรด้วย เช่น ข้าวราคาดี แต่ทำไมเกษตรกรชาวนาไทยยังจน ขณะที่พ่อค้า ผู้ส่งออกร่ำรวย การส่งเสริมการแปรรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์จึงสำคัญ ต้องรู้จักสร้างมูลค่าเดิม การสร้างเรื่องราวของสินค้าจะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อย่าคิดแต่เอาข้าวใส่กระสอบขาย ล่าสุดมูลนิธิได้ตั้งโรงสีข้าวขึ้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงทุน 30ล้านบาท เพื่อสอนเกษตรกรชาวนานำไปพัฒนาตนเองเช่นเมื่อนำเมล็ดข้าวเข้าไปสีแล้วไม่ เหลืออะไรทิ้งได้เลย เช่น รำ จมูกข้าว จะมีการแยกขนาดจำจำหน่าย การทำน้ำมันรำข้าว และท้ายสุดแกลบนำไปเผาผลิตไฟฟ้า
ทั้งนี้ แนวคิดนี้หากองค์กรท้องถิ่นคิดว่าดีก็น่าจะนำไปปรับปรุงและจัดทำเพื่อท้อง ถิ่นของตนเอง และเมื่อเร็วนี้ได้รับความสนใจจากห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี นำข้าวจากโรงสีไปจำหน่าย ภายใต้ชื่อแบร์นภัทรภัทร ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับมาก จนขณะนี้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าหากเกษตรกรรู้จักปรับปรุงและพัฒนาสินค้า ก็จะได้รับผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น
นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า ในความร่วมมือกับมูลนิธินั้นประกอบด้วย 1. การ สร้างมาตรฐานงานวิจัยข้าวไทยให้เข้มแข็ง 2. การส่งเสริมและพัฒนาข้าวและชาวนาไทย 3)
การ ส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าวไทย 4. การอนุรักษ์และคุ้มครองพันธุ์ข้าวไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวนาไทย และสร้างความมั่นคงในฐานทรัพยากรชีวภาพของประเทศ 5. การสร้างชาวนารุ่นใหม่ โดยปลูกจิตสำนึกให้กับเยาวชนไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของข้าวและวัฒนธรรม การผลิตและการบริโภคข้าว ส่งเสริมให้ลูกหลานชาวนาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี และการทำนาที่ทันสมัย สร้างชาวนารุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสูงสืบทอดอาชีพทำนาได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
