จาก โพสต์ทูเดย์
ครม.เศรษฐกิจเบรกขึ้นราคาสินค้า สั่งพาณิชย์เกาะติด น้ำมันปาล์ม นม ชุดนักเรียน ปุ๋ยเคมี มะพร้าว
ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจมีมติเบรกการขึ้นราคาสินค้า 5 รายการ และมอบให้กระทรวงพาณิชย์ศึกษาโครงสร้างและผลกระทบการขอขึ้นราคาสินค้า 5 รายการ คือ น้ำมันพืช ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์ เครื่องแบบนักเรียน ปุ๋ยเคมี และมะพร้าว เพื่อมารายงานที่ประชุม ครม.
นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นจนต้องปรับราคาสินค้า แต่นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ศึกษาโครงสร้างต้นทุนก่อนจะประกาศขึ้นราคา
กระทรวงพาณิชย์้ชี้แจงว่า กลุ่มผู้ค้าน้ำมันพืชต้องการปรับราคาขึ้นเพราะภัยแล้งผลผลิตน้อย ส่วนน้ำนมดิบขอขึ้นอีก 50 สตางค์ เครื่องแบบนักเรียนอ้างขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น 2030%
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่า 1% จะทำให้ราคาสินค้าลดลง 0.10.2% ขณะที่ปัจจุบันค่าเงินบาทที่แข็งค่า 10% ซึ่งน่าจะทำให้ราคาสินค้าปรับตัวลดลงได้ 1% แต่ที่ไม่สามารถปรับราคาลงได้เพราะราคาน้ำมันสูง
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นราคานมสดยูเอชทีและนมสดพาสเจอไรซ์ ที่ยื่นขอปรับราคาเข้ามา เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบกิโลกรัมละ 50 สตางค์ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก 12-13 สตางค์ แต่อาจไม่ให้ปรับขึ้นทุกขนาด เพราะจะกระทบต่อประชาชนมากเกินไป โดยจะอนุมัติปรับขนาดที่ประชาชนบริโภคไม่มาก ไม่ใช่ขนาดยอดนิยม
นางวัชรีได้ยืนยันต่อนายกรัฐมนตรีว่า สินค้ากว่า 90% จะยังคงตรึงราคาจนถึงเดือน มี.ค.ปีหน้าเนื่องจากต้นทุนไม่ผันผวนมากนัก อีกทั้งภาวะการค้าขณะนี้ชะลอตัว มีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้าไม่ได้มากนัก ส่วนสินค้าอีก 10% มีบางรายการที่มีปัญหาคือกลุ่มน้ำมันพืช และมะพร้าว ซึ่งนายกฯสั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด และหากกลุ่มไหนจำเป็นต้องปรับก็ให้พิจารณาอย่างเป็นธรรม
อย่างไรก็ตาม สินค้า 10% ที่มีต้นทุนพุ่งนั้น ขณะนี้ทางผู้ประกอบการกลุ่มยางรถยนต์ สายไฟฟ้า แบตเตอรี่ ยืนยันที่ตรึงราคาสินค้าออกไปอีก 3 เดือน เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนแล้ว ขณะที่สินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ได้ชี้แจงต่อครม.เศรษฐกิจถึงสาเหตุที่สินค้าไม่ได้ปรับลดราคาลงมา เนื่องจากได้ใช้มาตรการตรึงราคาสินค้ามาตั้งแต่ปลายปี 2552 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าได้ปรับขึ้นไปมาก แต่ก็ไม่ได้มีการปรับขึ้นราคา อีกทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าไม่ถึง 1 เดือน ทำให้สินค้ากลุ่มเหล่านี้ไม่ได้ประโยชน์จากค่าบาทเท่าไหร่ จึงไม่ได้มีการปรับลดราคาลงมา
นางวัชรี กล่าวว่า ในวันที่ 22-24 ธ.ค.นี้ กรมจะจัดงาน “มหกรรมสินค้าเกษตร ต้อนรับปีใหม่ 2554” ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ ตามนโยบายของรมว.พาณิชย์ ที่ให้กรมดำเนินการส่งเสริมสินค้าไทยภายใต้โครงการ 12 เดือน 12 โครงการ กินของไทยใช้ของไทย ซึ่งภายในงานจะมีการนำสินค้าเกษตรมาจัดเป็นกระเช้าปีใหม่ และจำหน่ายสินค้าช่วยลดค่าครองชีพให้ผู้ประโภค เช่น หมูเนื้อแดง กก.ละ 90 บาท น้ำมันปาล์ม 37 บาท/ขวด น้ำตาลทราย 22.50 บาท/กก. เป็นต้น
รายงานแจ้งว่า กระทรวงพาณิชย์จะอนุมัติให้นมยูเอชทีและนมพาสเจอไรซ์ ขึ้นราคาได้กล่องละ 25 สตางค์
