สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พาณิชย์ชี้ขึ้นค่าแรงราคาสินค้าพุ่งแน่

จาก โพสต์ทูเดย์

พาณิชย์โร่แจงข้อมูล ครม.  ชี้ผลกระทบราคาสินค้าขึ้นแน่ หากปรับค่าแรง 8-17 บาท ยันยังไม่อนุมัติขึ้นราคาน้ำมันปาล์ม

นางพรทิวา นาคาศัย  รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า  วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ไม่ได้นำเสนอเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  แต่กระทรวงได้รายงานการศึกษาข้อมูลผลกระทบราคาสินค้า หากมีการปรับขึ้นค่าแรง 8-17 บาท ให้ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในการตัดสินใจ โดยได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค และเครื่องใช้ทั่วไป ซึ่งหากมีการปรับค่าแรงตามตัวเลขดังกล่าว เบื้องต้นจะกระทบต่อกลุ่มเครื่องใช้ทั่วไป  เช่น ชุดนักเรียน

ขณะที่กลุ่มสินค้าเกษตรอย่างข้าวเปลือกก็กระทบมากเช่นกัน อยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อตัน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูความชัดเจนของการปรับค่าแรงก่อนว่าอยู่ที่เท่าไรจึงจะเปิดเผยตัวเลข ผลกระทบที่ชัดเจนได้ รวมถึง กระทรวงพาณิชย์จะพยายามตรึงราคาสินค้าให้ได้มากที่สุด

นางพรทิวา ยังกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มแต่อย่างใด เนื่องจากเห็นว่าการที่ผู้ประกอบการขอปรับขึ้นราคาขวดละ 10บาทนั้น ถือว่ามากเกินไป ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการเรียกตัวแทนจากโรงสกัด โรงกลั่น และเกษตรกรนำข้อมูลมาหารือกันอีกครั้ง

เตรียมเรียกผู้ประกอบการถกผลกระทบสัปดาห์หน้า

นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า กรมจะเชิญกลุ่มผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภครวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรง งาน เช่น สิ่งทอ มาประเมินสถานการณ์และรับฟังปัญหา หลังจากที่รัฐบาลจะพิจารณาเพิ่มอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 8-17 บาท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2554 เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ประกอบกับแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องเรียกหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ต้นทุนใหม่

การเรียกประชุมครั้งนี้ จะมีนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์เป็นประธาน ซึ่งจะเปิดรับฟังปัญหาและพิจารณาต้นทุนที่แท้จริงของผู้ประกอบการและอุตสา กรรมที่ไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนต่อไปได้ หลังจากที่ขอให้มีการตรึงราคาสินค้าตลอดปี 2553 แต่การปรับขึ้นราคาคงไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากยังมีการแข่งขันด้านตลาด ที่ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายยังไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าทันที หรือยังสามารถแบกรับภาระตรึงราคาไว้ก่อนได้ แต่กลุ่มที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นปีหน้า เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช น้ำมันปาล์ม และสินค้าเกษตร กรมจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พร้อมกันนี้ กรมจะตั้งคณะทำงานชุดต่างๆ ภายหลังเอกชนบางกลุ่มไม่สามารถแบกภาระต้นทุนและขอปรับราคาสินค้าเข้ามา ซึ่งจะพิจารณาในการปรับราคาสินค้าให้เป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน ส่วนมาตรการช่วยเหลือประชาชนจะยังคงเน้นการจัดงานธงฟ้า ที่นำสินค้าราคาถูกมาจำหน่ายให้ประชาชน ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้ และคงไม่กระทบกับอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้นมากนัก

Tags :

view