จาก โพสต์ทูเดย์
หอการค้าไทย ส่งสัญญาณสินค้าเกษตรปี 2554 แพงขึ้น 10% ผลพวงโลกร้อน น้ำมันแพง แย่งพืชไปผลิตพลังงานทดแทน
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรในปีหน้า ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่ว ปาล์มน้ำมัน และยางพารา มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น 10% จากปีนี้ ซึ่งเป็นผลจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัญหาสภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง ราคาน้ำมันดิบโลกปรับสูงขึ้น และการนำพืชไปใช้ผลิตพลังงานทดแทนมากขึ้น
สำหรับปัจจัยจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ถือเป็นปัจจัยควบคุมยากสุด เพราะการเกิดภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งอุทกภัย หรือภัยแล้ง เป็นอุปสรรคต่อการกำหนดปริมาณผลผลิตการเกษตร และอาจทำให้สินค้าเกษตรได้รับความเสียหาย มีปริมาณลดลงและเกิดราคาผันผวน ซึ่งประเทศไทย แม้จะมีพื้นที่เพาะปลูกมาก แต่ก็ขาดการวางแผนรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งขาดมาตรการป้องกันน้ำท่วม และแผนรองรับความเสียหายจากสินค้าเกษตร
ขณะที่ปัจจัยรองลงมา คือราคาน้ำมันโลกที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อได้ในปีหน้า ซึ่งกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรให้เพิ่มตาม โดยปีหน้าประเมินว่าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกน่าจะสูงเกิน 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกอาจขึ้นราคาอีก เพื่อให้ครอบคลุมกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน หลังจากสหรัฐใช้มาตรการดูแลค่าเงินให้อ่อนค่าลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
“เมื่อสินค้าเกษตรต้องใช้น้ำมัน เป็นต้นทุนปัจจัยการผลิต และการขนส่งจะต้องมีราคาเพิ่มขึ้นแทน
ขณะเดียวกันผลจากราคาน้ำมันแพง ยังทำให้ทั่วโลกหันมามุ่งผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการนำพืชไปใช้ผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแย่งชิงสินค้าเกษตรระหว่างการนำไปใช้ผลิตพลังงานทดแทน กับการอุปโภคบริโภคของคนและสัตว์ อีกทั้งปัจจุบันสัดส่วนผลผลิตของพืชทางเลือก เช่น ปาล์ม มันสำปะหลัง และถั่ว ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ทำให้ความต้องการใช้ยังสูงต่อไปอย่างน้อย 3-4 ปี
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาสินค้าเกษตรจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาสินค้าปศุสัตว์ เช่น หมู ไก่ และสัตว์น้ำ ยังไม่แน่นอนว่าจะปรับเพิ่มขึ้นตาม เพราะราคาสินค้าเนื้อสัตว์จะแยกออกจากราคาสินค้าเกษตรชัดเจน ซึ่งเกษตรกรต้องพิจารณาหลายด้าน เพราะหากเห็นว่าราคาแนวโน้มดี แต่หันมาเลี้ยงมากขึ้นจนปริมาณล้นตลาด ก็ทำให้ราคาลดลงมาได้เช่นกัน ขณะที่ราคาอาหารสัตว์ยังไม่น่าปรับขึ้นในช่วงนี้ แม้วัตถุดิบที่ใช้ผลิตจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ต้องดูองค์ประกอบอื่นร่วมด้วยในการขึ้นราคา
