สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

นายกฯสั่งโยกงบ5.3หมื่นล้านแก้น้ำท่วม

จาก โพสต์ทูเดย์

นายกฯ สั่งโยกงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐานกระทรวง5-10% และเงินที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างหน่วยงานต่างๆที่เหลืออยู่ 5.3 หมื่นล้านบาทมาใช้แก้ปัญหาน้ำท่วม

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีการหารือกันถึงปัญหาน้ำท่วม โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้แต่ละกระทรวงจัดสรรงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมา 5-10% รวมทั้งให้นำเงินกันที่ยังไม่ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างของหน่วยงานต่างๆ ของปี 2551 และ 2552 ที่คาดว่าจะเหลืออยู่ประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท มาใช้เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม

ทั้งนี้ เงินกันจำนวนดังกล่าว สำนักงบประมาณได้รายงานว่าขณะนี้มีเหลืออยู่ 5.8 หมื่นล้านบาท หักเป็นเงินเบิกจ่ายโบนัสข้าราชการ 5,000 ล้านบาท เหลือ 5.3 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้ยังอาจไม่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด เพราะบางโครงการเปิดประมูลไปแล้ว ดังนั้นจึงให้สำนักงบประมาณกลับไปดูมาอีกครั้งว่าเหลือนำมาใช้ได้อยู่จำนวนเท่าไหร่ และให้นำมาเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ฝากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปสำรวจพื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและวาตภัยในภาคใต้ ว่าหลังน้ำลดแล้วจะมีมาตรการฟื้นฟูและเยียวยาอย่างไรได้บ้าง โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานในที่ประชุม ครม.ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ว่าพื้นที่ใดที่สามารถเพาะปลูกได้ทันทีหลังน้ำลด โดยภาครัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น ให้เม็ดพันธุ์พืชแก่เกษตรกรไปเพาะปลูกทันที

"ในปีนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพืชได้น้อยลง เพราะช่วงแล้งก็ห้ามปลูกพืช พอปลูกได้น้ำก็ท่วมจึงได้ให้กระทรวงเกษตรฯ ไปสำรวจดูว่าพื้นที่ไหนเพาะปลูกได้ทันที ให้นำเมล็ดพันธุ์ไปแจกกเกษตรกรทันที"นายวัชระ กล่าว

ส่วนมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาวนั้น ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปศึกษาดูว่าจะสามารถทำโครงการแก้มลิงเพิ่มเติมตรงไหนได้บ้าง แต่อาจจะมีปัญหากับคนในพื้นที่ในการดำเนินการ จึงให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนในการศึกษาความเป็นไปได้ในแต่ละพื้นที่  

ขณะเดียวกันยังฝากให้กระทรวงการคลังไปศึกษาดูมาตรการช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งจากปัญหาน้ำท่วมและวาตภัย ว่ามีมาตรการทางภาษีอะไรบ้างที่จะสามารถช่วยเหลือได้ และฝากให้กระทรวงมหาดไทยช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องการนำถุงบริจาคน้ำท่วมของผู้บริจาคน้ำท่วมมาเปลี่ยนตราใหม่ว่าข้อเท็จจริงแล้วเป็นอย่างไร

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการรายงานให้ทราบถึงภารกิจของกระทรวงในการกำกับดูแลและพัฒนาอุตสาหกรรมใน 6 หัวข้อหลักคือ 1.ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมแม้ว่าจะยังมีการขยายตัวอยู่แต่จากปัญญหาค่าเงินบาททำให้ได้รับผลกระทบ จึงจำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้า 2.พัฒนากำลังคนในภาคอุตสาหกรรมให้ตรงตามความต้องการ 3.รายงานการแก้ปัญหาภาวะน้ำตาลตึงตัว 4.รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหามาบตาพุด 5.การพัฒนาความสามารถเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และ6.พัฒนาอุตสาหกรรมระยะยาว 20 ปี โดยใช้ยึดตามฐานความรู้ นวัตกรรมและความยั่งยืน

Tags :

view