จาก โพสต์ทูเดย์
เครือข่ายเกษตรกรเสนอทบทวนสร้างเขื่อนเพิ่มและรื้อสิ่งกีดขวางทางน้ำแก้น้ำท่วมระยะยาว พร้อมให้หนุนพันธุ์ข้าวพื้นเมืองทนน้ำท่วมด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าเวลา 12.00 น. วันที่ 3 พ.ย.สำนักงานปฏิรูประบบเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร ชุมชนและสังคม (สปกช.) ร่วมกับมูลนิธิเพื่อบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ มูลนิธิชีววิถีและสมาคมชาวนาไทย ประชุมเสนอแนะทางออกในการแก้และเยียวยาปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนแก่รัฐบาล
นายจิตติ มงคลชัยอรัญญา ผู้อำนวยการ สปกช.กล่างถึงข้อเสนอของที่ประชุมว่าให้มีวอร์รูมจัดการปัญหาน้ำที่มีอำนาจ สั่งการชัดเจนเนื่องจากขณะนี้มีหน่วยงานถึง 9 กระทรวงที่มีอำนาจในการจัดการน้ำทำให้ขาดเอกภาพและไม่มีใครสั่งการได้
ขณะเดียวกันเสนอให้ทบทวนข้อเสนอให้มีการสร้างเขื่อนเพิ่มเติมของกรมชล ประทาน เนื่องจากเขื่อนหลายเขื่อนเก็กกักน้ำไว้ถึง 90% จนต้องปล่อยน้ำลงมาท่วมพื้นที่ใต้เขื่อนอย่างรุนแรง รวมทั้งต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานใหม่ รื้อสิ่งกีดขวางทางน้ำและขุดคลองผันน้ำลงพื้นที่ชุ่มน้ำหรือแก้มลิงโดยต้อง ทำภายหลังจากศึกษาผลกระทบอย่างเพียงพอและผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการลุ่ม น้ำ
“หลักคิดง่ายๆคืออย่าไปฝืนกระแสน้ำหลาก ทุกประเทศมีภาวะน้ำท่วม-ฝนแล้งเหมือนกันหมด พื้นที่แก้มลิงจะช่วยบรรเทาความรุนแรงได้แต่ต้องทำให้ถูกหลักคือใช้พื้นที่ น้ำท่วมขังให้เป็นประโยชน์ ระบายน้ำเข้าไปแต่ก็ต้องจ่ายชดเชยผู้ได้รับผลกระทบด้วย รัฐต้องจัดการอย่างเป็นระบบมากกว่านี้ถ้ารู้ว่าน้ำมาต้องมีแผนชัดเจนว่าที่ ไหนให้น้ำท่วม ที่ไหนให้คนอยู่ ทุกวันนี้เห็นมีแต่จ.อุบลราชธานีเพียงจังหวัดเดียวที่มีการอพยพประชาชนหนี น้ำ แต่จังหวัดอื่นๆรู้ล่วงหน้าตั้งหลายวันแต่ก็ไม่เห็นมีใครทำเลย”นายจิตติ กล่าว
ส่วนระยะยาวเสนอให้รัฐสนับสนุนการวิจัยพันธุ์ข้าวขึ้นน้ำซึ่งเป็นพันธุ์ ข้าวพื้นเมืองที่ถูกละเลยมานาน เช่น พันธุ์ปิ่นแก้ว พันธุ์เล็บมือนาง พันธุ์นางฉลอง และพันธุ์ตะเภาแก้ว โดยทำควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้เกิดศูนย์ขยายพันธุ์ข้าวชุมชนและธนาคาร พันธุ์พืชระดับครอบครัวและชุมชนเพื่อป้องกันปัญหาการผูกขาดเม็ดพันธุ์โดย บริษัทข้าว
