จาก โพสต์ทูเดย์
ช่วยหาดใหญ่ยังไม่ได้พายุจ่อกระหน่ำอีกลูกในหลวงรับสั่งเปิดพระคลังช่วยประชาชน
ใต้วิกฤตหนัก หลายพื้นที่ถูกตัดขาด คนนับแสนรอความช่วยเหลือ
ทุกภาคส่วนกำลังระดมสรรพกำลังไปช่วยเหลือ 3 จังหวัด คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รวมทั้ง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และอีกหลายพื้นที่ในภาคใต้ที่ตกอยู่ในสภาพถูกตัดขาด
โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่นั้น น้ำสูงถึง 3 เมตร ผู้คนนับแสนติดอยู่ชั้นบนของบ้านและอาคารสูงต่างๆ โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ และไม่มีน้ำประปา การติดต่อกับญาติมิตรก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะระบบสื่อสารล่มแต่กระนั้น ในวันที่ 2 พ.ย. ก็มีผู้โทรฯมาขอความช่วยเหลือที่หมายเลข 1111 วันเดียวมากถึง 34.000ราย
พายุดีเปรสชันได้ก่อให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่เหล่านี้หลายวันแล้ว และหนักสุดเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ลมพายุได้กระหน่ำจนบ้านเรือนจำนวนมากได้รับความเสียหาย และเกิดฝนตกหนักทำให้น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มทั้งหมดใน 7 จังหวัด รวม 34 อำเภอ 425 หมู่บ้าน
ที่ อ.หาดใหญ่ นั้น น้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่านในลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา เมื่อเวลา 07.00 น. เช้าวันที่ 2 พ.ย. สูงถึง 1,623.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ในปี 2543 ซึ่งเป็นปีที่น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ หนักสุด ปริมาณน้ำยังอยู่แค่ 970.85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น ประชาชนซึ่งไม่คิดว่าน้ำจะมากขนาดนี้จึงเตรียมการอพยพไม่ทัน
กรมชลประทาน และนายอภิรักษ์โกษะโยธิน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานคณะกรรมการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ระบุตรงกันว่ายังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอให้น้ำระบายลงทะเลไปก่อน แต่ช่วงนี้น้ำทะเลหนุน จึงคาดว่าสถานการณ์จะยังคงทรงตัวอยู่ในช่วง 12 วันนี้
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนว่า พายุดีเปรสชันซึ่งมีศูนย์กลางอยู่บริเวณ จ.พังงา จะทำให้ภาคใต้ทั้งสองฝั่งตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และวันที่ 56 พ.ย. จะมีพายุดีเปรสชันเข้ามาอีกระลอก โดยคาดว่าจะมีฝนตกจนถึงวันที่ 8 พ.ย.
เจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ทำอะไรได้ไม่มากนัก ทหารเรือได้ใช้เรือที่มีอยู่อย่างจำกัดออกช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ประสบอุบัติเหตุ เด็ก และคนชราก่อน เพราะไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด บางจุดคนที่พอมีอาหารก็แบ่งปันกันโดยใช้เชือกโยงส่งข้าวข้ามตึกให้กันทีละ ห่อ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติมอีก 5 ล้านบาท และรับสั่งให้ศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เบิกเครื่องอุปโภคและบริโภคจากท้องพระคลังของพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ บรรจุเป็นถุงได้ 5,000 ชุด ออกช่วยเหลือประชาชนแล้ว
สำหรับรัฐบาลได้ใช้เครื่องบินขนเรือท้องแบน 100 ลำ และถุงยังชีพ 2,000 ชุดจาก กทม.ไปช่วยเหลือ และส่งเรือหลวงจักรีนฤเบศร และเรือหลวงสุรินทร์ เป็นฐานบินลอยน้ำ โรงครัวเคลื่อนที่ ฯลฯ โดยจะเริ่มปฏิบัติภารกิจในวันที่ 3 พ.ย.
“มีผู้ต้องการความช่วยเหลือมาก อาจมีคนที่ติดอยู่ในบ้านพักถึง 1 แสนคน และมีผู้รอความช่วยเหลือเร่งด่วนอีกไม่น้อยกว่าหมื่นคน ภาคธุรกิจน่าจะได้รับความเสียหายนับหมื่นล้านบาท” นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ กล่าว
