สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

นายกฯเมินใช้อปท.จ่ายน้ำท่วมครัวละ5พันบ.

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"อภิสิทธิ์"เผยตั้ง"สาทิตย์"ดูแลกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เมินใช้บริการอปท.จ่ายชดเชยครัวเรือนละ 5,000 บาท
ทำเนียบรัฐบาล -นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายว่า จนถึงวันนี้ยังตอบได้ไม่หมดเพราะมีหลายพื้นที่ที่พยายามกู้กันอยู่ แต่วันจันทร์ ที่ 1 พ.ย. ครม.เศรษฐกิจจะพิจารณาดูในประเด็นทั้งหมด สำหรับมาตรการการช่วยเหลือนั้นต้องแยกกัน ระหว่างมาตรการการช่วยเหลือผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกร ซึ่งปกติตามเกณฑ์จะได้ไร่ละ 600 บาท แต่ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะขอกลับไปทำหลักเกณฑ์มาใหม่และจะเสนอต่อที่ ประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันที่ 1 พ.ย.

ขณะเดียวกันก็จะมีมาตรการในเรื่องการพักหนี้ ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ( ธกส.)สหกรณ์ กองทุนหมู่บ้าน และมอบหมายให้ทาง ธกส.ดูเรื่องของวงเงินที่จะให้สินเชื่อถ้าเกษตรกรต้องการในอัตราที่ผ่อนปรน ส่วนจะเพิ่มจากไร่ละ 600 บาท เป็นเท่าไหร่นั้นในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ทางกระทรวงเกษตรฯ จะเป็นผู้เสนอมา แต่มาตรการการช่วยเหลือตัวครัวเรือนละ 5,000 บาท นั้นเป็นการช่วยเหลือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่อยู่อาศัยของ ประชาชน โดยใช้เกณฑ์ว่าน้ำท่วมขัง 7 วัน หรือน้ำท่วมฉับพลันไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินออกได้ พื้นที่ตรงนี้จะมีการสำรวจครัวเรือนทั้งหมด และจะให้การช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท เพื่อที่จะเป็นการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นวิธีการที่เราเห็นว่าจะทำได้เร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ก่อนหน้านี้ที่รัฐบาลระบุให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานและจะมีการจ่ายค่าชดเชยตามความเป็นจริง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าเป็นตามระเบียบเดิมจะชดเชยได้เฉพาะค่าซ่อมบ้านตามความเป็นจริงและไม่เกิน 20,000 บาท ขณะนี้จะเปลี่ยนเป็นว่าคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบคือน้ำท่วมฉับ พลัน หรือท่วมขังภายใน 7 วัน ทุกครัวเรือนจะได้ 5,000 บาท ส่วนรายละเอียดและมาตรการอื่นๆ ที่จะไปพันกับระเบียบอื่นนั้นก็มอบหมายใหหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปมาอีก ครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่าระเบียบเดิมการช่วยเหลือตามความเป็นจริงจะได้รับครัวเรือนละ ไม่เกิน 20,000 บาท แต่ครั้งนี้จ่ายเพียง 5,000 บาท ชาวบ้านจะรับได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นระเบียบเดิมที่จ่ายตามความเป็นจริงและไม่เกิน 20,000 บาทอีกทั้งต้องมีการสำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะได้รับกันน้อย ส่วนครั้งนี้การได้รับครัวเรือนละ 5,000 บาทแล้วจะได้เพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้นจากกระทรวงการพัฒนาสังคมนั้นก็เป็นอีก เรื่องหนึ่ง อย่างนี้อาชีพการเกษตรเราก็จะไปดูระเบียบใหม่ทั้งหมด เพียงแต่จะมีการช่วยเหลือ 5,000 บาทกับทุกครัวเรือนก่อนแม้แต่อาคารพาณิชย์ที่ได้รับความเสียหายซึ่งเดิมไม่ ได้รับการช่วยเหลือแม้ธุรกิจจะได้รับผลกระทบ แต่ครั้งนี้จะได้รับการช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่าการช่วยเหลือลักษณะแบบเหมาจ่ายแบบนี้ แต่คนที่ได้รับความสูญเสียจำนวนมากจะเพียงพอต่อสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังจะไปดูในรายละเอียด เพราะเราเลือกเอาทุกอย่างไม่ได้ ถ้าเราพยายามจะทำให้ละเอียดมันช้าแน่นอน เพราะต้องไปสำรวจและมีปัญหาในเรื่องของหลักฐาน เพราะชาวบ้านบางส่วนก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะถ่ายรูปไว้ได้ การช่วยเหลือจะมากน้อยแค่ไหนจะมีการดูกันต่อ แต่ก็ต้องเริ่มต้นก่อนและต้องระมัดระวังและดูกำลังเงินของรัฐด้วย เงินช่วยเหลือเบื้องต้นนี้ยังไม่รวมการช่วยเหลือเรื่องของการเกษตรและ มาตรการสำหรับผู้ประกอบการ

เมื่อถามว่าเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาทถือว่า จ่ายครั้งเดียวจบเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าในส่วนของอาชีพการเกษตรก็จะมีต่างหาก แต่สำหรับครัวเรือน รวมทั้งผู้ประกอบการก็จะมีต่างหาก เช่น มาตรการช่วยเหลือธุรกิจหรือการค้าได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี หรือผู้ประกอบการเล็กน้อยในเมือง ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ไม่เกี่ยวกับเกณฑ์ 7 วัน หรือท่วมแบบฉับพลันนั้นก็จะได้รับการช่วยเหลือตามเกณฑ์ปกติที่ยังมีอยู่คือ ไม่เกิน 20,000 บาท ตามความเป็นจริง

เมื่อถามย้ำว่า เงินเพียง 5,000 บาท จะเพียงพอต่อความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ เราต้องดูคร่าวๆ ก่อนเพราะประมาณการในขณะนี้จำนวนครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนอาจจะสูง ถึงล้านครัวเรือน ก็น่าจะใช้เงินถึง 5,000 ล้านบาทแล้ว และจะต้องมีเรื่องของการฟื้นฟูถนน โรงเรียน โรงพยาบาล สถานีอนามัย การเกษตรอีกต่างๆ ซึ่งเราจะต้องเจาะลึกลงไปเพิ่มเติมในกรณีที่จำเป็น เพราะจนถึงวันที่ 22 ต.ค.มีครัวเรือนได้รับผลกระทบถึง 580,000 ครัวเรือน และมาถึงวันนี้เชื่อว่ายังมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นอีกเยอะ และคิดว่าเงินช่วยเหลือดังกล่าวอย่างช้าที่สุดจะถึงมือชาวบ้านไม่เกิน 1 เดือน เพราะในการสอบทานก็จะใช้ตัวพื้นที่กับทะเบียนบ้าน โดยใช้การขีดวงพื้นทีที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเมื่อใช้วิธีการนี้แล้วก็อาจไม่จำเป็นต้องดูรายละอียดหลักฐานและรูปถ่าย ต่างๆ ทั้งนี้ การใช้หลักฐานเป็นทะเบียนบ้านแล้วคิดว่าจะไม่เกิดการจ่ายเงินซ้ำซ้อน ส่วนปัญหาการสวมสิทธิ์หากเจ้าหน้าที่ใช้การขีดวงพื้นที่ควบคู่กับทะเบียน บ้าน หากจะผิดพลาดก็เป็นเรื่องการอาศัยอยู่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้าน

เมื่อถามว่าจำนวนเงินในการช่วยเหลือและมาตรการฟื้นฟูต่างจะต้องใช้เงิน จำนวนเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้ารวมถึงเรื่องการฟื้นฟู ลงทุนเรื่องการเกษตรก็น่าจะอยู่ที่หมื่นล้านบาท

สำหรับจ่ายเงินและมาตรการเยียวยานั้นจะมีกระบวนการที่จะเสนอเข้ามาอีก ครั้งในการประชุม ครม.เศรษฐกิจ สามารถตรงไปที่ธนาคาร เช่น ธกส.ได้เลย ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ส่วนประธานที่จะแต่งตั้งเข้ามาดูแลกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย และแก้ไขปัญหานั้นจะแต่งตั้งให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะไม่ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ซึ่งความจริงรัฐบาลอยากจะโอนเงินให้เลย เพราะจะตัดปัญหาได้หลายอย่าง ซึ่งขณะนี้ทั้ง ธกส.และ ธอส. อยู่ในฐานะที่จะจ่ายเงินไปก่อนได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำว่า จนถึงวันนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้ คือยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดมากๆ เพราะเมื่อคืนวันที่ 25 ต.ค.ก็ยังมีฝนตกและระดับน้ำก็ยังสูงอยู่ห่างจากตลิ่งหรือคันกั้นน้ำไม่มาก ที่จะวางใจได้ โดยเฉพาะพื้นที่ตลอดแนวแม่น้ำ เช่นเดียวกับจังหวัดอุบลราชธานี ก็มีการติดตามสถานการณ์น้ำที่มาจากทั้งลำน้ำมูล ลำน้ำชี ซึ่งมีการแจ้งตลอดว่าน้ำก้อนใหญ่จะมาถึงเมื่อไหร่ แต่จากการคำนวนแล้วปริมาณน้ำจะมาไม่ถึงพร้อมกันก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งต้องดูระดับน้ำในแม่น้ำโขงด้วย มีการสั่งการให้เฝ้าระวังอยู่ และสั่งการให้รายงานระดับน้ำเป็นระยะ และแจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ทราบ

กรณีที่ ครม.มีคำสั่งให้ทบทวนการระบายข้าวว่า เป็นเพราะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของบริษัทเอ็มทีเซนเตอร์เทรด เพราะเดิมก่อนที่จะมีปัยหาน้ำท่วมหลักของเราคือพยายามระบายข้ามออก เพื่อไม่ให้ข้าวในสต๊อกเป็นปัญหากับการบริหารจัดการในอนาคต เพราะเราสังเกตว่าราคาพืชผลทางการเกษตรทั้งมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ปีนี้ดีหมด แต่ข้าวจะเป็นปัญหาตลอดเวลาที่มีการเก็บสต๊อกไว้เพราะจะมีการเก็งว่าจะมีการ ระบายออกมาเมื่อไหร่ราคาข้าวก็จะลง แต่เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมผลความเสียหายที่เกิดต่อผลผลิตซึ่งขณนี้ยังไม่ สามารถประเมินได้ทั้งหมด แต่เชื่อว่ามีมากพอสมควรเพราะพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมมีกว้างมาก และข้าวก็ได้รับความเสียหายมากเพราะส่วนหนึ่งในหลายพื้นที่มีการปลูกข้าวช้า เพราะได้รับการขอร้องในขณะนั้นว่ายังไม่มีน้ำจึงเริ่มปลูกช้า เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมผลผลิตก็ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวจึงเกิดความเสียหาย ขณะนี้กำลังเข้าสู่เดือน พ.ย.หลายพื้นที่จึงถือว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ ความเสียหายต่อภาพรวมของผลผลิตข้าวของประเทศจึงมีมาก ความจำเป็นต้องระบายข้าวออกมาและสิ่งที่ต้องคิดถึงการเก็บข้าวไว้ในสต๊อก เพื่อให้เกิดความมั่นใจจึงต้องเปลี่ยนไป จึงมีการแจ้งต่อที่ประชุม ครม.

Tags :

view