สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

13เขื่อนยังวิกฤต-ขอ280ล้านซื้อเรือช่วย

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

พนังกันน้ำสาม โคก,อ.เมืองปทุมธานีพังครั้งที่สอง น้ำทะลัก "สาทิตย์"เผยจะขออนุมัติงบ280ล้านซื้อเรือ1หมื่นลำ สุขา กระสอบทราย ช่วยประสบอุทกภัย
เมื่อ เวลา 00.30 น. วันนี้(26 ต.ค.) ฝนตกหนักระดับน้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น คันกั้นน้ำตลอดแนวตั้งแต่เขตอำเภอสามโคกและอำเภอเมืองทั้งสองฝั่งแม่น้ำ พนักงานหน่วยงานรัฐและอบต. เทศบาลได้ระดมคนงานออกมาช่วยเสริมคันกั้นน้ำให้สูงกว่าเดิม โดยเฉพาะในตลาดสดศิริวัฒนาพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปทุมธานี คันกั้นเกิดพังลงมาเป็นรอบที่สองส่งผลให้ข้าวของเสียหายเพิ่มมากขึ้นไปอีก และเจ้าของร้านต่างออกมาช่วยกันผลัดเวรยามเฝ้าคันกั้นน้ำที่จะพังลงมาได้ ตลอดเวลาและเครื่องสูบน้ำก็ทำงานตลอดเวลาไม่ได้หยุดพักเลย

นายสมร ชูสว่าง รองนายกเทศบาลเมืองได้ออกมาตรวจสภาพน้ำในเขตรับผิดชอบได้บอกว่าในช่วง อาทิตย์นี้ไม่ได้พักผ่อนต้องออกช่วยในพื้นที่ทั้งวันทั้งคืนซึ่งได้เป็นห่วง พื้นที่ตลอดแนวเขตเทศบาลที่จะจะไหลเข้าท่วมพื้นที่รับผิดชอบได้ตลอดเวลา จึงต้องออกตรวจทั้งคืน

สมุทรสาครวางเครื่องสูบน้ำรอบเมืองรับมือทะเลหนุน

นายทองแทน เลิศลัทภรณ์ รองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ฐานะตัวแทนรับมือภัยน้ำท่วม รายงานสภาพเตรียมการรับมือเหตุน้ำท่วมพื้นที่ ซึ่งใกล้จะเข้าสถานการณ์น้ำทะเลหนุนแม่น้ำท่าจีนสูงประจำปี ในช่วงปลายเดือนตุลาคม หรือตั้งแต่ 28 ต.ค.ไปถึงสัปดาห์แรกของ พ.ย.ว่า ล่าสุดได้พร้อมหน่วยงานออกซ่อมแซม และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ไว้เตรียมระบายน้ำซึ่งหากทะเลหนุนสูง ตามข้างคูคลองแลประตูสูบระบายน้ำ รอบเมืองมหาชัย (ราว 6จุด) เพื่อบรรเทาปัญหาให้แก่ประชาชนหลังสภาพน้ำทะเลทะลักท่วมตลาดสดมหาชัย และ ต.มหาชัย ชั้นในสูงราว 40 -60 ซม.โดยมีบ้านเรือนและข้าวของเสียหาย ขณะที่การค้าหยุดชะงัก (ช่วงเช้าถึงบ่าย) ก่อนน้ำลด 3 -5 ชม.ที่ผ่านมา

"คงหลีกได้ยากกับสภาพน้ำทะเลหนุนสูง ประจำปี ซึ่งจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามหากมีการระบายน้ำจากเหนือที่กำลังทำความเดือดร้อนให้ประชาชน อยู่นี้ หรือรัฐบาลจำเป็นต้องระบายน้ำจากเจ้าพระยา ลงมาฉับพลันโดยติดตามจับตาอยู่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ห่วง ส่วนที่ต้องเฝ้าระวังจับตาและติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ก็คือ ช้างคลองลัดป้อม และเขตรอยต่อตำบลท่าจีน ที่บริเวณคลองขุด ที่ยังไม่ได้ทำประตูน้ำ และท่อระบายน้ำ โดยมีนำกระสอบทรายกั้นเป็นแนวผนังแก้ไขเฉพาะหน้า ขณะเดียวกันได้แบ่งภารกิจออกแจกกระสอบทรายแล้วบางส่วนซึ่งอย่ารื้อออก โดยได้ฝากแจ้งประชาชนเกาะติดข่าวสารอุตุนิยมวิทยา ทั้งยังสามารถนำบัตรและทะเบียนบ้าน เข้ารับกระสอบทราย ได้รายละ 20 ถุงบ้านเรือน ขณะที่จุดเสี่ยงเริ่มทยอยขนสิ่งของเตรียมขึ้นที่สูงเพื่อลดความสูญเสียน้อย ที่สุด"

นายทองแทน กล่าวอีกว่า ปีนี้มั่นใจตะวันออกจะยืนในเดือน พ.ย. จึงคาดจะทำให้น้ำทะเลจะหนุนเข้ามามากกว่าปีก่อนๆ หรือเดือนตุลาคมนี้ จะต้องจับตาอย่างกระชั้นชิด ที่หวั่นคือพายุในทะเล เพราะสมุทรสาครห่างทะเลแค่ราวไม่เกิน 1- 2 กิโลเมตร ฉะนั้นเมื่อทันที่เกิดลมทะเลพัดขึ้นที่สูง จะทำให้หอบน้ำเช้าฝั่งมาด้วยทันที่ ดังนั้นเทศบาลต้องเฝ้าติดตามซึ่งแรงหนุนท่วมจึงเกี่ยวกับแรงกรรโชกของพายุลม ทะเลด้วย

ด้าน นายจลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้กำชับศูนย์ป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัด และให้ผู้เกี่ยวข้องว่า เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน ขณะที่กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และ อปท.ร่วมประสานเฝ้าระวังเหตุก่อนรายงานระดับน้ำ แจ้งเตือนประชาชนทุกระยะตลอดจนติดตามดูแล อาทิ การติดตั้งเครื่องสูบน้ำริมคูคลอง และประตูน้ำสำคัญๆ เกือบทั่วเมืองราว 36 จุดที่ติดตั้ง ทั้งนี้หากพื้นที่เสี่ยงทะเลหนุน ทำให้คูคลองน้ำเอ่อล้น เร่งจัดนำกระสอบทรายออกช่วยบรรเทาปัญหากันตั้งแต่เนิ่น ๆ

รัฐบาลของบ 280ล้านบาท ซื้อเรือ 1หมื่นลำ ช่วยน้ำท่วม

ที่รัฐสภา ก่อนการประชุม นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมว่า หลังจากหารือกับทางคชอ.เสร็จแล้วตนก็ได้หารือกับกรมป้องกันภัยเนื่องจากนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำใน 4 เรื่องที่จะต้องจัดหาให้ได้ อาทิ เรื่องสุขา เรื่องเต๊นท์ที่พัก เรื่องกระสอบทราย และเรื่องเรือ โดยก่อนหน้านี้กรมป้องกันภัยได้รับงบประมาณช่วยเหลือประมาณ 70 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตนจะเร่งให้เสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งวันนี้ก็จะมีการเสนอของบประมาณอีก 280 ล้านบาท ซึ่งจะมีการซื้อทั้งเรือพาย เรือท้องแบน อลูมิเนียมติดเครื่อง รวมถึงสุขา แต่ปัญหาเรื่องสุขาขณะนี้คือบริษัทที่ผลิตค่อนข้างหายาก

"วันนี้จะมีการของบในการจัดซื้อเรือ ประมาณ 10,000 ลำ เพราะเรือพายเป็นสิ่งที่ต้องการ รวมทั้งเรือเครื่องด้วย ส่วนกระสอบทรายกั้นน้ำ เท่าที่ดูมีความต้องการประมาณ 2 ล้านใบ แต่กรมป้องกันภัยหาได้ประมาณ 1 ล้านใบ ซึ่งผมได้ประสานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ช่วยหาและได้เพิ่มมาอีกประมาณ 5 แสนใบ” 

นายสาธิต กล่าวอีกว่า ตามระเบียบสำนักนายกฯ ว่าด้วยคณะกรรมการช่วยเหลือ โดยเงินที่บริจาคนั้นจะเข้ามารวมในส่วนดังกล่าว ซึ่งในวันนี้จะมีการเสนอแก้ไขระเบียบ 2 ประการด้วยกัน คือ 1.ตัวบุคคล 2.แก้ไขหลักเกณฑ์การใช้จ่ายให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันต้องมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเงินบริจาคขณะนี้มีประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนที่บริจาคใหม่มีประมาณ 60 ล้าน แต่เงินที่เข้าบัญชีจริงๆมีประมาณ 20 ล้าน ส่วนที่เหลือต้องรอติดตามเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้เรื่องการเยียวยาเบื้องต้นจะมีการนำเสนอเข้าครม. ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ที่แล้วหลังจากมีการนำเข้าครม. เพราะมีมติให้กลับไปดูในเรื่องหลักเกณฑ์ โดยมีหลักเกณฑ์ 3 แบบ คือ 1.อาจมีน้ำท่วมฉับ พลัน 2.ท่วมขังเกิน 7 วัน และ 3.จำนวนคนที่จะเยียวยา ซึ่งวงเงินประมาณเท่าไรนั้นจะดูในส่วนของครม.ตามหลักเกณฑ์ ที่สำคัญคือจำนวนของคนที่จะเยียวยาเพราะเบื้องต้นมีอยู่ประมาณ 5 แสนครัวเรือน ซึ่งนายกฯคิดว่าตัวเลขยังไม่นิ่ง ทั้งนี้ต้องดูตามหลักเกณฑ์

13 เขื่อนใหญ่ยังวิกฤติ
(ข้อมูล ณ วันที่ 25 ตุลาคม2553)
ตรวจ สอบจากเวบ กรมชลประทาน (ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำกรมชลประทาน) เขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศที่มีหลายสิบแห่ง แต่มี 13 เขื่อน ที่สถานการณ์ยังวิกฤติน้ำล้น เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนมากกว่า 100 %

1. เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่ ความจุอ่าง 101%
2. เขื่อนกิ๋วคอหมา จังหวัดลำปาง ความจุอ่าง  108%
3. เขื่อนห้วยหลวง จังหวัดอุดรธานี ความจุอ่าง 101%
4. เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ความจุอ่าง 109%
5. เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ความจุอ่าง 112%
6. เขื่อนลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ความจุอ่าง 119%
7. เขื่อนลำพระเพลิง จังหวัดนครราชสีมา ความจุอ่าง  105%
8. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ความจุอ่าง 114%
9. เขื่อนทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี ความจุอ่าง 106%
10. เขื่อนกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี ความจุอ่าง 115%
11. เขื่อนคลองสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา ความจุอ่าง 102%
12. เขื่อนหนองปลาไหล จังหวัดระยอง ความจุอ่าง 102%
13. เขื่อนประแสร์ จังหวัดระยอง ความจุอ่าง 105%
อนึ่ง...เขื่อน ภูมิพล จังหวัดตาก ความจุของน้ำอยู่ในระดับ 60% ส่วน เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ความจุอยู่ในระดับ 81% (น้ำยังไม่ล้น)

แห่ตกปลาหน้าเขื่อนบางแก้วรายได้งาม
จากเหตุน้ำท่วม จังหวัดอ่างทองน้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหลายพันครอบครัวและพื้นที่การเกษตรเสียหาย นับแสนไร่นั้น แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ใช้วิกฤตเป็นโอกาสหารายได้อย่างงามคือนักล่าปลา โดยเฉพาะที่บริเวณหน้าเขื่อนคลองบางแก้วซึ่งเป็นเขื่อนที่รับน้ำจากแม่น้ำ เจ้าพระยาไหลเข้าสู่คลองมหาราช จ.อยุธยา ซึ่งตอนนี้มีการเปิดประตูระบายน้ำและปล่อยน้ำลงคลองบางแก้วเป็นจำนวนมาก ทำให้นักตกปลาต่างมาตกเป็ดกันเป็นจำนวนมากเพราะปลาขนาดใหญ่จะไหลมากับน้ำที่ บริเวณหน้าเขื่อน ซึ่งสร้างรายได้เฉลี่ยคนละหลายร้อยบาทต่อวัน

นายเอกพจน์ ชาวบ้านต.บ้านอิฐ กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่มาตกปลาที่หน้าเขื่อนบางแก้วแห่งนี้ เพราะหากได้ปลาครั้งหนึ่งก็จะได้ปลาตัวใหญ่มากน้ำหนักไม่ตำกว่า 5 กก. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปลาค้าว และปลาสวาย ซึ่งมีราคาแพง ขายได้อย่างน้อยไม่ตำกว่า 3 ร้อยบาท หากได้หลายตัวก็จะได้มากทำให้บรรดานักล่าปลามาตกปลาเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่ได้ ทุกคน

สำหรับการตกปลานั้นก็แค่ใช้เบ็ดตกปลา ธรรมมาแต่เพิ่มตัวเบ็ดให้หลายตัวและเหวี่ยงไปหน้าเขื่อนและดึงขึ้นมาหากเบ็ด ไปเกี่ยวกับตัวปลาที่ไหลลงมาตามเขื่อนก็จะติดเบ็ด จากนั้นก็ใช้ตะขอจับขึ้นมา และนำไปขายในตลาดอ่างทองทันที่เพื่อไม่ให้ปลาตาย

Tags :

view