จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
ไชน่าเดลี่ (25 ต.ค.) - เจ้าหน้าที่ระดับสูงเผย อุทกภัยที่จีนประสบในปีนี้สาหัสมาก จีนจึงเปลี่ยนจากการใช้มาตรการระบายน้ำด้วยแม่น้ำสายใหญ่ หันมาพึ่ง “แม่น้ำลำคลอง” ขนาดเล็กและขนาดกลางแทน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจาง เส่าชุน เผยงบประมาณที่รัฐบาลกลางอนุมัติสำหรับการควบคุมระดับน้ำในปีนี้ สูงถึง 5,000 ล้านหยวน (25,000 ล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลหันมาให้ความสำคัญกับ แม่น้ำขนาดกลางและขนาดเล็กหรือ “คลองระบายน้ำ” มากขึ้น
พร้อมกันนั้นก็ได้สำรองงบประมาณไว้สำหรับปีหน้าอีก 3,000 ล้านหยวน (15,000ล้านบาท) ซึ่งภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ รัฐบาลท้องถิ่นต้องมีโครงการป้องกันน้ำท่วม และทุกโครงการต้องลุล่วงก่อนหน้าน้ำหลากในปีหน้า
หลังจากน้ำท่วมขนานใหญ่ในปี 2541 จีนได้พยายามอย่างยิ่งในการจัดการแม่น้ำสายใหญ่ เช่น แม่น้ำแยงซี และแม่น้ำเหลือง ขณะที่แม่น้ำสายย่อย หรือคลองทั่วไป ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของรัฐบาลท้องถิ่นไม่ได้รับการเหลียวแลมานับสิบปี
ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกภัยของกระทรวงทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า “การจัดการแม่น้ำลำคลองขนาดกลางและเล็กของจีนยังล้าหลังอยู่มาก เงินงบประมาณที่เคยได้รับก็มุ่งไปสู่แม่น้ำสายใหญ่เป็นหลัก”
ตัวเลขจากกระทรวงทรัพยากรน้ำระบุ จีนเป็นประเทศที่มีแม่น้ำมากที่สุดในโลกกว่า 8,600 สาย ซึ่งรัฐบาลจะให้ความสำคัญ ในมาตรการป้องกันน้ำท่วม
รายงานข่าวกล่าวว่า ในปี 2552 จีนจัดสรรงบเพื่อจัดการแม่น้ำลำคลองสายย่อยไปแล้วถึง 15,000 ล้านหยวน (75,000 ล้านบาท) โดยแยกเป็นงบจากรัฐบาลกลางกว่า 10,000 ล้านหยวน (50,000 ล้านบาท) รวมกับงบประมาณจากทางการท้องถิ่นอีก 5,000 ล้านหยวน (25,000ล้านบาท)