สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทีดีอาร์ไอวิพากษ์จำนำข้าวคอร์รัปชัน ทุกระดับ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ทีดีอาร์ไอเรียกร้องรัฐบาลเลิกจำนำข้าว หานโยบายอุดหนุนเฉพาะชาวนายากจน ระบุมีข้าวสวมสิทธิ 3.3 ล้านตัน เปิดช่องทุจริต
นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีอีอาร์ไอ) กล่าวในโครงการอบรมพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วานนี้ (28 ก.ค.) ว่า ทีดีอาร์ไอต้องการให้รัฐบาลยกเลิกนโยบายจำนำข้าว  โดยต้องการให้มีนโยบายช่วยเหลือเฉพาะเกษตรที่ยากจนไม่ใช่ช่วยเกษตรกรทุกคนเหมือนในปัจจุบัน  ซึ่งให้อุดหนุนช่วยเหลือชาวรายเล็กที่มีที่ดิน 10-15 ไร่ มีผลผลิตข้าวปีละ 10 ตัน  เพราะชาวนาที่มีผลผลิตปีละ 20 ตัน ถือเป็นรายใหญ่

ปัจจุบันมีชาวนารายเล็กประมาณ 80% ของชาวนาทั้งหมด  รวมทั้งต้องการให้รัฐบาลใช้ระบบประกันราคาแทนการจำนำ  ซึ่งถ้าเห็นว่าเป็นโครงการของรัฐบาลชุดที่แล้วก็อาจเปลี่ยนชื่อโครงการก็ได้               

นายนิพนธ์ กล่าวว่า นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีแนวคิดจำนำข้าวแบบจำกัดจำนวนก็อาจทำให้ปัญหาคอร์รัปชันลดลงแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้  โดยที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นโครงการไหนมีการทุจริตในทุกระดับมากเท่านี้มาก่อน  และเห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรมอบหมายให้องค์กรอิสระที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียไปตรวจสอบว่ามีการทุจริต  

ตั้งแต่ปี 2554 เมื่อรัฐบาลรับจำนำข้าวเป็นข้าวเปลือกแล้วสีเป็นข้าวสารจะได้ 10.2 ล้านตัน ในจำนวนนี้นำไปส่งออก 5.1 ล้านตัน บริโภคในประเทศ 7.4 ล้านตัน รวมข้าวทั้งหมด 22.7 ล้านตัน แต่ผลผลิตทั้งปีมีเพียง 19.4 ล้านตัน  โดยตั้งข้อสังเกตว่าปริมาณข้าวสารเพิ่มมาจากไหน 3.3 ล้านตัน  ซึ่งอาจมาจากการลักลอบนำเข้าข้าวจากเพื่อนบ้านมาสวมสิทธิจำนำในไทยและอาจมีการลักลอบนำข้าวในสต็อกรัฐบาลไปส่งออก

รัฐบาลชุดปัจจุบันเริ่มใช้นโยบายจำนำข้าวนาปีในเดือน ต.ค. 2554  ซึ่งเมื่อพิจารณาการส่งออกข้าวในเดือน ต.ค. 2554 ถึง ก.ค. 2555 พบว่าไทยส่งออกข้าวได้ 4.7 ล้านตัน มูลค่าการส่งออก 100,000 ล้านบาท ลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2553 ถึง ก.ค. 2554 ที่ส่งออกได้ 9.4 ล้านตัน มูลค่าการส่งออก 160,000 ล้านบาท

"ถ้ารัฐบาลยังคงดำเนินการตามนโยบายเช่นนี้ต่อไปจะทำให้คุณภาพข้าวที่ได้ต่ำลงต่อเนื่อง  เพราะเกษตรกรมั่นใจว่าผลิตข้าวมาอย่างไรก็ขายข้าวได้อยู่แล้วจึงไม่เกิดการแข่งขันเพื่อผลิตข้าวที่มีคุณภาพ  แต่เกษตรกรจะเร่งการผลิตเพื่อให้ได้ปริมาณมาก  รวมทั้งเกษตรกรที่ปลูกพืชชนิดอื่นจะหันมาปลูกข้าวคุณภาพต่ำไปจำนำกับรัฐบาล  และทำให้พื้นที่การปลูกพืชชนิดอื่นลดลงและทำให้ภาคเกษตรล่มสลายได้"

นายนิพนธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลมีข้าวสารในสต็อก 10 ล้านตัน  โดยราคาข้าวส่งออกเวียดนามในเดือน ก.ค.ปีนี้ อยู่ที่ตันละ 405 ดอลลาร์ และถ้าไทยขายข้าวสูงกว่าราคาข้าวของเวียดนามตันละ 50 ดอลลาร์ จะทำให้ไทยต้องขายข้าวที่ราคาตันละ 480 ดอลลาร์ และจะทำให้รัฐบาลขาดทุนประมาณ 87,000-100,000 ล้านบาท

เขากล่าวว่า ต่างชาติรู้ว่าไทยมีสต็อกข้าวจำนวนมาก และถ้าไทยเริ่มระบายข้าวออกมาจะรู้ว่าไทยเริ่มมีปัญหาสต็อก จึงทำให้ต่างประเทศไม่จำเป็นต้องเร่งซื้อข้าวไทย และเมื่อมีปริมาณข้าวเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น จะทำให้ราคาข้าวตกลงอีก  

นายนิพนธ์ กล่าวว่า โอกาสที่ไทยจะขยายข้าวแบบรัฐต่อรัฐในปีนี้มีน้อยลง  โดยกระทรวงพาณิชย์ประกาศว่าปีนี้จะขยายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ 4 ล้านตัน แต่ประเทศที่จะซื้อแบบรัฐต่อรัฐมีฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและจีนรวม 4 ล้านตันและทั้ง 3 ประเทศซื้อข้าวไปแล้ว 3.4 ล้านตัน จึงเหลือข้าวที่จะซื้อเพียง 600,000 ตัน  รวมทั้งมีเวียดนามที่ต้องการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐด้วย จึงเป็นเรื่องยากที่ไทยจะขายข้าวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ขณะนี้ รัฐบาลเก็บข้าวไว้มากและรอการขายเท่ากับการเก็งกำไร  ซึ่งนักการเมืองหรือข้าราชการไม่ได้มีหน้าที่เก็งกำไรสินค้าเพราะถ้าเกิดความเสียหาย ถือเป็นภาษีของประชาชน  รวมทั้งรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าไม่ให้รัฐทำการค้าแข่งขันกับภาคเอกชน

"ถ้ารัฐบาลระบายข้าวออกมาแล้ว ราคาข้าวในตลาดโลกตกแน่นอน ก็ควรทบทวนนโยบายจำนำข้าวและชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ"


รักษ์ไม้,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,มูลไส้เดือนดิน,การเลี้ยงไส้เดือน,ปุ๋ยอินทรีย์,ปุ๋ยชีวภาพ



Tags : ทีดีอาร์ไอ วิพากษ์จำนำข้าว คอร์รัปชันทุกระดับ

view