จาก คมชัดลึกออนไลน์
คมชัดลึก :ขณะเวลาปัจจุบัน ก็เข้าสู่ห้วงเวลาของการสรรหาคนเข้ามารับผิดชอบในการบริหารจัดการประเทศผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย (recruitment process) แต่ละพรรคก็โฆษณาหาเสียงกันอย่างครึกโครม ส่วนใหญ่ล้วนมุ่งเป้าไปที่นโยบายประชานิยม การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นเหมือนกับตลาดการค้าที่โหมประโคม ลด แลก แจก แถม กันแบบเกทับบลัฟแหลก พรรคนี้ลดภาษี พรรคโน้นแจกบัตรเครดิต อีกพรรคเพิ่มบำนาญ เพิ่มประกันราคา ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ทุกพรรคแอบแฝงไว้คือ ชีวิตแบบเป็ดง่อยแถมให้ฟรี
ประเทศจะพัฒนาไปได้อย่างมั่นคง เรื่องหลักๆ ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีพรรคใดเป็นรัฐบาล นั่นคือเรื่องของการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาการวิจัย การพัฒนาการค้นหาองค์ความรู้ของคน และการพัฒนาวินัยในคน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่แท้จริง เพราะชาติใดก็ตามหากประชาชนไร้วินัย ขาดการศึกษา ไร้ความรู้ที่ถูกต้องเหมาะสมกับแผ่นดิน เหมาะสมกับอารยธรรมตัวเองย่อมฉิบหาย ไปไม่รอดแน่นอน ดังนั้นการพัฒนาในเรื่องพื้นฐานจึงเป็นเรื่องใหญ่และการพัฒนาคน ดังที่อาจารย์ยักษ์ว่ามานี้ก็ไปสัมพันธ์กับการสรรหาคนมาบริหารประเทศ มาบริหารองค์กร ตั้งแต่เล็กสุด ไปจนถึงกลาง ไปจนถึงใหญ่ ตั้งแต่คนรักษาช้าง รักษาม้า ไปจนถึงอุปราช โดยเฉพาะเหล่าอำมาตย์นั่นไง ที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนา
ทว่า การศึกษาในปัจจุบันนี้ เราเห็นกันอยู่ชัดตา ไม่ต้องให้มีใครมาบอกก็รู้ว่า ล้วนสอนให้ทุกหมู่เหล่าตกอยู่ในโมหภูมิทั้งนั้น และนี่จึงเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศนี้ เพราะคนคุณภาพต่ำและคุณธรรมเลวร้ายลง และหากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว
อาจารย์ยักษ์ ชวนให้ดูประเทศกรีซ ที่ประชาชนจำนวนมหาศาลลุกขึ้นมาขับไล่ผู้บริหารประเทศ ขับไล่ ส.ส.ของตัวเอง เพราะสาเหตุว่า โกงกินกันอย่างมโหฬาร จนระบบเศรษฐกิจไปไม่รอด เศรษฐกิจทรุดตัวตกต่ำ แล้วพอเศรษฐกิจตกต่ำก็หันมาออกมาตรการประหยัด บังคับใช้กับประชาชนทั้งประเทศ ทั้งที่เหตุที่แท้นั้นมาจากตัวเองทั้งนั้น เมื่อมาถึงจุดหนึ่งประชาชนก็ทนไม่ไหวแล้ว ออกมารวมตัวกันบอกว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว และการลุกฮือขึ้นครั้งนี้จะเป็นไปเองโดยไม่ต้องจัดตั้ง ประชาชนจะลุกฮือกันขึ้นมาทั้งประเทศ ทุกคนจะชวนกันออกมานอกบ้าน ชวนกันผ่านสื่อออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก ผ่านทวิตเตอร์ หรือจากสื่อสารพัดรูปแบบเพื่อประท้วงขับไล่ผู้นำประเทศที่นำพาประเทศไปสู่หายนะ ประเทศไทยกำลังเดินไปตามเส้นทางนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ครั้งนี้อาจารย์ยักษ์ไม่ได้ทำนาย แต่ดูจากนโยบายการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เอาเรื่องเหลวไหล เอาเรื่องเอาใจกัน เรื่องอบายมาโฆษณากัน เอาเรื่องที่ทำให้คนฟุ่มเฟือย กระตุ้นให้คนใช้จ่าย แล้วบอกว่าเป็นไปเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงโอกาส เช่น โอกาสที่คนจะกู้เงินได้ง่ายๆ ถ้าเลือกฉันจะเอาบัตรไปยื่นให้ถึงบ้าน สุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้น รัฐก็จะสร้างประชาชนมักง่าย ด้วยนโยบายประชานิยม สังคมก็จะเหมือนเป็ดง่อย ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ได้ฝึกให้พึ่งตนเอง ไม่ได้ฝึกวินัยการเงิน มีคนเอามาป้อนให้ถึงปาก เช้ามาก็อ้าปากกลืนอาหาร กลางวันหัวค่ำก็ป้อนเอากิเลสตัณหาเข้าไป สุดท้ายแล้วชาวนาชาวไร่ก็จะไม่มีที่ดินเหลือเป็นของตัวเองเลย
แม้ขณะนี้ชาวนาก็ขายที่ดินกันอยู่แล้ว เพราะการทำไร่ ทำนาปัจจุบัน ไม่ได้ใส่ความรู้ที่ถูกต้องลงไป ไม่ใส่ปัจจัยที่จำเป็น เช่น ระบบน้ำ ระบบควบคุมอนุรักษ์ดินที่ถูกต้อง ซึ่งต้องทำอย่างแพร่หลายทั่วถึง การส่งเสริมเกษตรกรวันนี้มีแต่เรื่องของการโกงกันในกลไกรัฐ เพื่อที่จะเอาสารเคมีลงไปเร่งปฏิกิริยาในพืช สารพัดที่จะปู้ยี่ปู้ยำทำกับดินกับพระแม่ธรณี บวกกับเม็ดเงินที่อัดตูมลงไปอีกงวดนี้ รับรองว่าชาวนาจะไม่มีที่ดินเหลือเลย
ลองไปดูได้เลยว่า ตอนนี้ที่ดินที่เป็นของชาวนาแท้ๆ เลยครึ่งหนึ่งจะถึงหรือเปล่า เท่าที่สำรวจคร่าวๆ พบว่า ครึ่งหนึ่งของที่ดินชาวนาไทยสูญเสียไปแล้ว ชาวนาปัจจุบันต้องตกเป็นผู้เช่านาตัวเองทำ เพราะขายให้เขาไปแล้วแต่คนที่ซื้อไปเขาก็ไม่ได้ทำนา เพราะทำไม่เป็นเขาซื้อไปเก็งกำไร หรือไม่ก็ทิ้งร้างจนเต็มบ้านเต็มเมืองที่เราเห็นอยู่ขณะนี้ ที่นาซึ่งเหมาะสำหรับการผลิตอาหารก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์
ด้วยเหตุนี้ปัญหาก็ส่งผลกระทบไปทั่วประเทศ
"อาจารย์ยักษ์ มหาลัยคอกหมู"