สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

มะเร็งจากยาฆ่าแมลง

จาก คมชัดลึกออนไลน์

 

คมชัดลึก : ท่ามกลางสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบันจะมีสักกี่ครัวเรือนที่ปรุงอาหารกินเอง และเลือกใช้ผักปลอดสารพิษหรือรู้วิธีการล้างผักผลไม้เพื่อลดสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงอย่างถูกวิธี และที่สำคัญเวลากินอาหารนอกบ้าน เคยสนใจกันบ้างหรือไม่ว่าผักผลไม้ที่กำลังรับประทานอยู่นั้นมียาฆ่าแมลงตกค้างอยู่มากน้อยเพียงใด
 ในบรรดายาปราบศัตรูพืชหรือยาฆ่าแมลงที่มีมากมายหลายประเภทนั้น เจ้าตัวร้ายที่มีรายงานว่ามีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งคือเจ้าสารออร์กาโนฟอสเฟต จากงานวิจัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศพบว่า การใช้และการสัมผัสยาฆ่าแมลงมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน มะเร็งสมอง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่น่าเป็นห่วงก็คือเด็กมีความเสี่ยงในการพบสารตกค้างในร่างกายได้สูงกว่าผู้ใหญ่

 จากผลสำรวจการใช้ยาปราบศัตรูพืชของเกษตรกรพบว่า สารเคมีที่ชาวสวนใช้มากเป็นอันดับหนึ่งร้อยละ 54 คือ สารออร์กาโนฟอสเฟต ที่น่าเป็นห่วงสำหรับเกษตรกรคือ ส่วนใหญ่ขาดความรู้ในการใช้สารเคมีหรือรู้แต่ละเลย โดยเฉพาะไม่ใช้เครื่องป้องกันในขณะที่ฉีดพ่น เช่น ไม่ใส่แว่นตาป้องกันละออง ไม่ใส่ถุงมือ ไม่ปิดจมูก จึงมีความเสี่ยงสูงที่สารเคมีจะเข้าสู่ร่างกายมากกว่าผู้บริโภค นอกจากเจ้าสารร้ายนี้จะมากับผักผลไม้แล้ว มันยังเป็นยาฆ่าแมลงที่ชาวบ้านคุ้นเคยจนแทบจะเป็นยาสามัญประจำทุกบ้านก็คือ พวกสเปรย์กำจัดยุง แมลงสาบ ปลวก มด มอด เพราะฉะนั้นในชีวิตประจำวันเรายากที่จะหนีเจ้าสารออร์กาโนฟอสเฟตได้พ้นจริงๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดด้วยการบริโภคผักปลอดสารพิษหรือล้างผักผลไม้เพื่อลดสารพิษอย่างถูกวิธี

 สถาบันมะเร็งแห่งชาติรณรงค์ให้ประชาชนกินผักผลไม้ครึ่งหนึ่งอย่างอื่นครึ่งหนึ่งในแต่ละมื้อ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็ง แต่ถ้าไม่จัดของแถมหนักๆ ประเภทนี้มาในผักผลไม้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง อยากจะฝากไปยังเกษตรกรทั่วประเทศให้หันมาใช้การปราบศัตรูพืชแบบชีวภาพกันให้มากขึ้น นอกจากนั้น ก็ได้แต่ภาวนาให้บรรดาพ่อค้าแม่ขายอาหารต่างๆ หันมาใส่ใจมีจิตสำนึกรับผิดชอบเรื่องนี้ให้มากขึ้นเช่นกัน เคยเห็นบางร้านไม่ล้างผักเลยก็มี มิหนำซ้ำบางร้านยังชอบฉีดยาฆ่าแมลงในตู้ก๋วยเตี๋ยวหรือตู้ขายอาหารตอนปิดร้านเพราะไม่อยากให้พวกมดพวกแมลงสาปเข้ามาวุ่นวายในตู้ อย่าคิดว่าวันรุ่งขึ้นก็ไม่เหลืออะไรตกค้าง เจ้าสารออร์กาโนฟอสเฟตจะสลายตัวหมดต้องใช้เวลาอย่างน้อย 72 ชั่วโมงหรือ 3 วันนะครับ สงสารผู้บริโภคกันบ้างเถอะครับ ไหนว่าลูกค้าคือพระเจ้าไง ไม่ต้องรีบให้ลูกค้าไปเฝ้าพระเจ้าเร็วกว่ากำหนดหรอกนะครับ บาปกรรมเปล่าๆ

 ท้ายที่สุด เจ้าของร้านอาหารที่มีวิสัยทัศน์โปรดฟังทางนี้ ลองขึ้นป้ายตัวโตๆ ที่หน้าร้านว่า ร้านนี้ใช้เฉพาะผักปลอดสารพิษหรือร้านนี้ล้างผักผลไม้ลดสารพิษอย่างถูกวิธี (ท้าพิสูจน์หลังร้าน) รับรองว่าขายดีกว่าร้านอื่นแน่นอน อย่างน้อยก็ได้ลูกค้าที่ห่วงใยสุขภาพเพิ่มขึ้น...เชื่อผมซิ

"นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ"

Tags : มะเร็งจากยาฆ่าแมลง

view