สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

วีระ(กานต์)วิจารณ์เสื้อแดง

จาก โพสต์ทูเดย์

“มีคนมาบอกผมว่า คน 2พันล้ำหน้า ถ้าล้ำคืออะไร ล้ำอาจจะมีความรู้สึกว่าไม่เอาสถาบัน ..ไม่ได้นะ ... คุณมาคิดสนุกแบบนี้ไม่ได้  คุณคิดไม่รับผิดชอบเวลารับผิดชอบ ใครต้องรับผิดชอบ แล้วคนอย่างเราก็ต้องรับผิดชอบ”

โดย... ชัยฤทธิ์ ยนเปี่ยม

ขบวนการเสื้อแดง ยังเป็น ตัวแปรสำคัญในหัวเลี้ยวหัวต่อของประเทศ ทั้ง ช่วงเลือกตั้ง และช่วงตั้งรัฐบาลใหม่  มีคำถามว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล การเมืองไทยจะวุ่นวายอีกเพียงใด  ม็อบแดงจะเคลื่อนแค่ไหน
       
วีระกานต์ มุสิกพงศ์ หรือ วีระที่คุ้นชื่อ นักประนีประนอมที่ยึดมั่นในแนวทางสันติมากที่สุดในหมู่แกนนำเสื้อแดง อ่านสถานการณ์การเมือง  สถานการณ์เสื้อแดงผ่าน “โพสต์ทูเดย์”  ทุกคำวิจารณ์ของเขา มีน้ำหนัก ในฐานะ อดีตประธานนปช.  “คนใน” ที่คลุกคลีเสื้อแดงทุกมิติ   
 
 

0 มองช่วงรอยต่อ ช่วงใกล้เลือกตั้งว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนอย่างไร มีปัจจัยอะไรสำคัญบ้าง
 

ความ ยุ่งยากทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถาบันต่างๆ ในสังคม หรือ ตัวบุคคลในสังคมในมันวุ่นวายเป็นวิกฤตอยู่ ทางออกทางหนึ่งที่ดีก็คือ การเลือกตั้ง กล่าวคือ การเลือกตั้งจะสามารถเข้ามาลดวิกฤตความสับสนต่างๆ ของสังคมลงได้   ปัญหามีอยู่ว่า เลือกตั้งแล้วจะเกิดอะไรขึ้น คือ มันจะก่อวิกฤตรอบใหม่หรือ คลายวิกฤต ซึ่งก็มีเหตุปัจจัยอยู่ว่า 

1.การเลือกตั้งมันบริสุทธิ์ ยุติธรรมพอที่จะเป็นที่ยอมรับได้ของทั้งสองฝ่ายหรือไม่ แน่นอน จะมีเล็กๆ น้อยๆ ก็ไปฟ้องกันใบเหลือง ใบแดงซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มาก ก็ถือว่า ปกติมันก็ว่ากันได้ เมื่อรับได้แล้ว 2. ผู้ที่ได้รับชัยชนะมาเป็นลำดับที่ 1 จะได้สิทธิ์ในการจัดตั้งรัฐบาลก่อนหรือไม่ ถ้า เขาจัดแล้วไม่สำเร็จ ชวนใครไม่ได้  เขาก็ต้องสละสิทธิ์ไป เหมือนที่เป็นมาในอดีต คือประเพณีของเรามีมาก่อนว่า เสียงอันดับหนึ่งต้องจัดรัฐบาลก่อน  แต่เมื่อจัดไม้ได้แล้วคนอื่นก็มีสิทธิ์ชอบธรรมที่จะจัด ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าเป็นไปตามครรลองที่ว่านี้ ผมว่า วิกฤตก็หดหายไปเยอะ เกือบจะเรียกหมด ก็ว่าได้

ส่วนปัจจัยที่3 คือ เรื่องของคนเสื้อแดงซึ่งขณะนี้ก็เป็นพลังมวลชนก้อนโต  ที่จริงมันเคยมีอยู่สองก้อน คือ พวกพันธมิตรเสื้อเหลืองก็เคยเป็น แต่ว่า ปัจจุบันนี้มันจะเสื่อมไปเยอะ ไม่เป็นพลังมวลชนก้อนโตที่จะมาคอยกำกับ ดูแลการเมืองรวมของประเทศว่า มันจะไปทิศไหน ฉะนั้นมันก็เหลือเสื้อแดง  ซึ่งก็ดูต่อไปว่า แกนนำเสื้อแดงที่เป็นทางการ กับ มวลชนเสื้อแดง จะอยู่ในกฎเกณฑ์กติกาที่ดีหรือไม่ ถ้าเขาอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ดี คือ เป็นพลังมวลชนที่คอยดูความผิดปกติทางการเมือง ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็ทักท้วง ถ้ามันถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตยก็สนับสนุน มันก็จะเป็นพลังผลักดันประชาธิปไตยให้เป็นไปในทางที่ดีได้ แต่ถ้าแกนนำและมวลชน ถือว่า ตัวเองเป็นผู้มีพลังอำนาจหนึ่งในทางสังคม ที่จะผลักให้สังคมไปทางไหนก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์กติกาที่ดีงามก็อาจจะพลาดไปเหมือนอย่างพันธมิตรเสื้อ เหลืองที่เสื่อมพลังลง

ถ้าเสื้อแดงเสื่อมพลังลงไปก็น่าห่วงสำหรับการเมืองประเทศไทยต่อไปอีกว่า การเมืองในระบบรัฐสภา โดยลำพังของมัน ชักจะด้อยลงไปเรื่อย ถ้าไม่มีพลังของประชาชนนอกสภา หรือ การเมืองภาคประชาชน มันอาจจะไม่สมบูรณ์เท่าที่ควรก็อาจเป็นการสูญเสียโอกาสครั้งสำคัญของประเทศ ไทยไปอีก แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ดี ไม่หลง เหลิงอำนาจ ก็จะประคับประคองให้ระบอบประชาธิปไตยมันเดินไป ผมจึงคิดว่า ช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อครั้งสำคัญของการเลือกตั้งที่จะถึง หลักๆ ก็อยู่ที่3เรื่องนี้ นอกนั้นก็เป็นเรื่องปลีกย่อย เช่น พวกทหาร

0 ที่ห่วงเรื่องการหลงอำนาจของแกนนำเสื้อแดง มันมีสัญญาณอย่างนั้นเกิดขึ้นไหม
 

ไม่ มีขณะนี้ แต่ว่า มันเป็นบทเรียนจากประวัติศาสตร์ เราเคยเห็นมาในอดีต ทุกครั้งที่การเมืองนอกสภามีพลังเข้มแข็ง ก็จะเกิดการหลงอำนาจแล้วทำให้ตัวเองเสื่อมอย่างน่าเสียดาย หรือ ถูกเขาทำลายได้ง่าย

0 กลุ่มพลังนอกสภาไหนที่เคยเสื่อม

ตั้งแต่พลังนักศึกษา 14 ตุลา เป็นต้นมา แล้วก็มาพลังเสื้อเหลือง ก็หลงไป ก็น่าเสียดาย

0 โอกาสที่แกนนำจะทราบความหวังดีอย่างนี้ ไม่ให้ติดยึดกับเรื่องของความนิยมของตัวเองมีสูงไหม

มันก็คงมีการให้ความเห็นเรื่องนี้จากหลายทิศทาง แต่จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มันไม่ค่อยได้ผล ปัญหาอยู่ที่ว่า เสื้อแดงจะซ้ำรอยหรือไม่ ถ้าไม่ซ้ำรอยก็โชคดี

อย่าเป็นอย่างเหลือง -อย่าให้เหมือนแดงสยาม

0 มองเสื้อเหลืองอย่างไรเพราะเขาพยายามเดินสองขา 

เสื้อแดงเขาก็เดินสองขา แต่เสื้อแดงเขามีเข็มทิศและกิจกรรมต่างกัน คือ เสื้อเหลืองไปยกเอาประเด็นปราสาทพระวิหารมาปลุกคนไทย ซึ่งมันไมได้ผล คือ กระแสมวลชนเท่าที่ผมสังเกตดูส่วนใหญ่เขาก็รับได้ว่า ในเมื่อศาลโลกตัดสินว่าเป็นของกัมพูชาไปแล้ว เขาก็ไม่ให้ความสนใจอะไรอีกต่อไป แต่ไอ้นี้ก็มาปลุกระดมท่าเดียวว่า เขาพระวิหารยังเป็นของไทย ศาลโลกไม่ยุติธรรม แล้วเราจะต้องเอาเขาพระวิหารคืนมาให้ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ปลุกไม่ขึ้น จนนาทีนี้ก็ปลุกให้รบเขมรเพื่อแสดงความรักชาติ  คนเขาก็ไม่เห็นด้วยเลย กระสุนเลยด้าน และเมื่อพันธมิตรปลุกประชาชนไม่ขึ้นแล้ว ก็หันไปรบกับรัฐบาลที่ตัวเองเคยสนับสนุนขึ้นมา รัฐบาลเขาก็ถอยหนีไม่ยอมเป็นมิตรด้วย ก็ขาดมิตรหลายด้าน อย่างนี้เป็นตัวอย่างว่า ประเด็นที่ยกขึ้นมาต่อสู้ มันไม่ใช่ประเด็นที่เรียกความสามัคคีจากคนส่วนใหญ่ได้

เสื้อแดงก็มีประเด็นของเสื้อแดง คือ  เรื่องรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เรื่องความเป็นธรรมในสังคม ซึ่งเป็นเรื่องสากล เรื่องนี้ถ้าเสื้อแดงไม่หลงทางเสียเอง ยังคงยึดแก่นแกนอย่างนี้อยู่ ก็จะมีคนสนับสนุนอยู่พอสมควร แล้วก็อย่าลืมว่า เสื้อเหลืองที่เขาพลาดอย่างยิ่งก็คือ เรื่องการเมืองใหม่ คือ เขาไม่เอาระบบเลือกตั้ง แต่ไปสนับสนุน ระบบแต่งตั้ง ไอ้นี่มันเป็นการเมืองที่คนเขารับไม่ได้ แต่พวกเสื้อแดงเขาต้องการระบบเลือกตั้ง จะดีชั่วก็ไปปรับปรุงเอา ก็คิดว่า ยังพอไปได้
 
0 ขบวนการเสื้อแดงที่ผ่านมาใหญ่โตอย่างรวดเร็ว แกนนำก็มีหลายปีก หลายความคิด บางส่วนก็ไม่ได้มารวมกับนปช. เป็นแดงสยาม อย่างที่คุณวีระเคยพูดบนเวทีที่ผ่านฟ้า ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับ แดงสยาม หรือ กลุ่มเสธ.แดงที่เชื่อเรื่องการใช้ความรุนแรง วันนี้สถานการณ์ในเสื้อแดงเป็นอย่างไร 

ผมยังยืนยันอยู่ ที่เราประกาศว่า พวกเสธ.แดง พวกแดงสยาม ไม่ใช่พวก แดงนปช.ทั้งแผ่นดิน อันนี้ประกาศไปตามมติของแกนนำนปช. เพราะเราเห็นว่า พวกนี้ใช้แนวทางความรุนแรง และมีแนวทางของการโค่นล้ม หรือ การปฏิเสธบางสถาบัน ซึ่งนปช.ไม่ใช่อย่างนั้น นปช.นี่เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่แน่ ล่ะเมื่อเสื้อแดงมันใหญ่โต มโหฬาร มันก็จะมีคนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นแนวร่วมนปช.หรือ แม้แต่แฝงอยู่ในนปช. แต่ไม่ได้อุดมการณ์อย่างที่ผมบอก  เรื่องนี้มันเป็นเรื่องยากที่เราจะผลักให้ออกไป เพราะว่า เราไม่รู้ เนื่องจากในมวลชนมากๆ เขาเข้ามาปะปน เราไม่มีองค์กร ไม่มีเครื่องมือ เราไม่เหมือนกองทหาร ไม่ใช่กองทัพ แบ่งสีได้ว่า ใครสีเขียวทหารบก สีขาวทหารเรือ  ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่จะต้องทำ คือ การโฆษณาเป็นประจำเรื่อยๆ ว่า ใครประกาศตัวชัดอย่างไร  ไม่ตรงกับแนวทางก็ต้องผลักออก

ที่ผมผลักเสธ.แดงออกตอนนั้น ก็เพราะเสธ.แดงชอบพูดเรื่องอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ชอบพูดเรื่องการทำร้ายคนนั้น คนนี้ จริงหรือไม่ ไม่รู้ แต่พูด  ถ้าพูดแบบนี้ไม่ใช่สันติวิธี เราก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่พวกเดียวกัน เช่นเดียวกับแดงสยามก็ชอบพูดท้าทายหมิ่นเหม่  เราบอกว่า เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงไม่เข้าเรื่อง    แต่ของนปช.คือ เรื่องการเมืองแท้ๆ คือ รัฐธรรมนูญ หรือ ใต้สถาบันลงมา ที่เราเรียกว่า อำมาตยาธิปไตย อันนี้เราพูดได้ แต่ถ้าไปมากกว่านี้ มันเกินเป้าหมายเรา ฉะนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ แกนนำที่ทำอยู่ทุกวันนี้ จะต้องไปปรับคุณภาพของเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆ จากปริมาณที่มากให้ได้มาตรฐานใกล้เคียงกัน ก็คือ การตั้งโรงเรียนนปช.นั่นเอง ด้วยการเปิดโรงเรียนขึ้นมาอีกรอบ ทบทวนนโยบายแล้วเอาปฏิญาณ 8 ประการไปขยายความก็จะทำให้เกิดความชัดเจนว่า  อันไหน แดงนปช. อันไหนไม่ใช่แดงนปช. 

อย่างผมก็ แดงนปช.ของผม  อย่างเวลาถูกไอ้พวกนี้ ฟาดฟันทางเวปไซด์อะไรต่างๆ ผมไม่สนใจนะ ก็มันคนละพวกนี่  คุณจะบ้าอะไรไปของคุณก็บ้าไปซิ แต่พวกผมไม่ใช่  คุณจะด่าผมก็ด่าไป  แต่ว่า แดงนปช.เราเข้าใจ

0 ภารกิจของคุณวีระคือ พยายามตีกรอบตรงนี้ให้ชัด

ใช่ๆ เราก็จะพูดย้ำเสมอ ผมก็พูดภาษาง่ายที่สุดแล้วว่า ประชาธิปไตยของผม คือประชาธิปไตยแบบพระยาพหลฯ ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475  พวกแกนนำฝ่ายเปลี่ยนแปลงการปกครองเขาประชุมกันแล้วเขาก็ลงมติว่า ประเทศนี้ต้องปกครองโดยระบอบกษัตริย์เป็นประมุข ไม่ใช่ปกครองด้วยระบบประธานาธิบดี เขาตัดสินใจก่อนที่จะยึดอำนาจ เมื่อยึดอำนาจแล้ว เขาก็เอาพระมหากษัตริย์มาไว้ใต้รัฐธรรมนูญ ก็ดำรงตำแหน่งประมุขไปอย่างเดียว เราต้องการแค่นั้น ส่วนใครต้องการไกลไปกว่านั้น เชิญตามสบาย เราไม่เกี่ยว

0 ท่านถูกมองว่า เป็นสายสันติวิธีมากที่สุดในบรรดาแกนนำ ได้บอกกับแกนนำบางส่วนที่อาจจะพูดแล้วชวนให้เกิดการตีความในลักษณะที่ทำให้ ขบวนการเสีย เช่น ไปหมิ่นสถาบันหรือไม่

ก็ เตือนได้บ้าง แต่ว่าเขาจะฟังหรือไม่ ก็ต้องปล่อยเขา ก็โตๆ กันแล้ว แต่เราก็ต้องสะกิดนิดๆ หน่อย

0 สะกิดเตือนอย่างไร
 
ก็สะกิดบ้าง คือ ใช้คำอย่างนี้ว่า “ก่อน นี้ เราเคลื่อนไหว เราปฏิเสธแดงสยาม แต่เดี๋ยวนี้ แดงสยามซาลงไปแล้ว แล้วทำไมเราจะต้องมาแสดงบทบาทแทนแดงสยาม ในเมื่อเราไม่ใช่อย่างนั้น” 

0 ถูกว่ากลับไหม

เขาไม่ว่า แต่พวกแดงสยาม มันคงว่า คือ พวกที่เล่นตามเวปไซด์อะไร ไม่ใส่ชื่อ  มันไม่ต้องรับผิดชอบอะไรนี่

0 หลักของเสื้อแดงที่ประกาศคือ ใช้สันติวิธี แต่พอสู้ไปนานๆ ข้างนอกขอบที่เป็นแนวร่วมนปช. มันไหลเข้าไปข้างในหมดแล้ว แล้วจะกันอย่างไร เพราะคนที่มาชุมนุมก็ใส่เสื้ออะไรต่างๆ มีรหัสลับมากมาย

บังเอิญว่า ช่วงนี้ มีการเลือกตั้ง เสื้อแดงก็ต้องแปรรูปการเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นการสนับสนุนการเลือกตั้ง เมื่อสนับสนุนเราก็ได้ประกาศชัดกับ สังคมว่า หนุนพรรคเพื่อไทย  บรรยากาศ 45-60  วันต่อไปนี้ก็จะเป็นการเคลื่อนไหวในบรรยากาศการเลือกตั้ง ดัง นั้น กิจกรรมที่น่ากลัวต่างๆ หรือ สุ่มเสี่ยง หรือ การที่จะไปมีใครบางคนไปพูดจาให้มันหมิ่นเหม่ก็จะหายไปโดยอัตโนมัติ เพราะมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องพูดไปนอกกรอบของการหาเสียง ทีนี้เมื่อ 60 วันผ่านไป ก็จะต้องกลับมาเป็นกิจกรรมของตัวเองอีกครั้ง เพราะภารกิจสนับสนุนจบแล้ว ตรงนี้ก็ต้องค่อยๆ กลั่นกรอง คนที่ไม่ใช่เนื้อแท้ออกไป

0 ดูหลักอย่างไร เพราะหลายคนก็สู้มาด้วยกัน

ใช่ๆๆ.. ก็ใครก็ตามที่แสดงบทบาทโดยเปิดเผยก็จะเห็นกัน เหมือนที่เราเคยเห็นเสธ.แดงว่า ไม่ใช่เนื้อนปช. แล้วเราก็ไม่เคยเห็นเนื้อแดงสยามว่า ว่าเป็นนปช. ฉะนั้น ความชัดเจนมันก็เกิดขึ้น มันก็ต้องมีการประชุม สัมมนาแกนนำเพื่อปรับอะไร ต่างๆ ที่มันบริสุทธิ์ในแง่ของอุดมการณ์ว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ก็เรา ถ้า ไม่ใช่ ก็ไม่ใช่

0 ที่ห่วงขบวนเสื้อแดงว่า ถ้าวันหนึ่งเกิดหลงตัวเอง มันจะทำให้เสื้อแดงค่อยๆ เสื่อมอย่างนั้นหรือ แม้ว่า เสื้อแดงจะใหญ่โต

มันเสื่อมได้ทุกองค์กร พรรคการเมืองก็เสื่อมได้ เสื้อแดงเป็นการเมืองภาคประชาชน ทำไมจะเสื่อมไม่ได้ แม้แต่เครื่องมือหนึ่งของเสื้อแดงที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ เช่น วิทยุชุมชน ผมเห็นว่า เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์แน่นอน  ตอนมันเกิด 4 ปีแรกมันต่างคนต่างเกิด ไม่มีกฎหมายรองรับ นอกจากรัฐธรรมนูญ ระหว่างรอกฎหมาย มันก็เกิดพรึบพรับ ก็ถือว่า เป็นวิทยุเถื่อนแล้วกัน เขาก็ต้อนวิทยุเถื่อนเข้ามาสู่กรอบ ผมก็เห็นว่า เมื่อมาถึงวันนี้ สถานีวิทยุชุมชนของเราก็ควรจะอยู่ในกรอบของกฎหมายเหมือนกับคนอื่นเขา ทีนี้เมื่อเข้ามาอยู่ในกรอบกฎหมายแล้ว  เราก็สามารถเผยแพร่ความคิดเสื้อแดงได้มีประสิทธิภาพ แต่ ทีนี้สมมติว่า ใครคนหนึ่งทำผิดกฎหมายหรือสถานีใดสถานีหนึ่งละเมิดกฎหมาย เสื้อแดงก็ไม่ควรที่จะไปปกป้องเพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย  แต่เสื้อแดงมีความชอบธรรมที่จะไปปกป้องสถานีที่เขาไม่ได้ทำผิด แต่ถูกกลั่นแกล้ง  สิ่งที่ผมต้องการก็คือ ว่า  คนเสื้อแดงต้องอย่าลืมที่จะเคารพกฎหมาย ถ้าเราคิดว่า แสื้อแดงมีพลังของเราเพียงพอแล้ว เราไม่ต้องกลัวใคร ระยะยาวมันจะไปไม่ได้ ต้องเคารพกฎหมาย

0 ที่พูดถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วอันดับสอมาจัดเป็นรัฐบาล สถานการณ์ก็จะคลี่คลายลง แล้วในแง่ของเสื้อแดงมีความชอบธรรมที่จะเคลื่อนไหวไม่ยอมรับรัฐบาลใหม่หรือ ไม่ 

เสื้อแดงส่วนใหญ่ยืนยันแล้วว่า เลือกตั้งแล้ว ก็ต้องเคารพมติของประชาชน ใครชนะอันดับหนึ่งก็เป็นรัฐบาล แต่สมมติว่า พรรค อันดับหนึ่งจัดไม่ได้  พรรคอันดับสองจัดก็เอาไป เสื้อแดงจะไม่มาวอแว ในเรื่องนี้ แต่เสื้อแดงยังมีภารกิจที่จะต้องดูต่อไปว่าแล้วรัฐบาลใหม่ ไม่ว่า ใครมาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ให้มีหลักการที่สอดคล้องกับประชาธิปไตย เพราะรัฐธรรมนูญ 2550 มันมีหลายมาตราใช้ไม่ได้

0แต่ณัฐวุฒิ บอกว่า ถ้าเสียงของประชาชน ให้พรรคใดเป็นที่หนี่ง พรรคนั้นต้องได้เป็นรัฐบาล มือที่มองไม่เห็นอย่ามายุ่ง มิฉะนั้นจะพังกันทั้งกระดาน

ก็ถูกแล้ว ถ้ามีมือที่มองไม่เห็นมาจัดการ แต่ผมมองว่า ครั้งนี้ไม่น่าจะมี (เน้นเสียง) และผมมองว่า ถ้ามีก็โง่อย่างยิ่ง เพราะคนเขารู้ทันนี่ คราวที่แล้วเขาก็รู้ สื่อก็รู้ แม้แต่คุณประสงค์ สุ่นศิริ ก็ออกมาประจานเพราะพวกเดียวกัน ว่า ทหารจัดรัฐบาลกันในกองทัพ แกก็คอนเฟริม์สิ่งที่พวกเราพูดมาก่อนเพราะเขาเป็นคนใน ดังนั้น ถ้ามันมีแสดงก็แสดงว่า มือที่มองไม่เห็นยังบอด ทืบ จนละเลยประชาชน ประชาชนก็คงไม่ยอมหรอก  แต่อย่างที่ผมบอกถ้า 1. การเลือกตั้งบริสุทธิ์พอในระดับที่รับได้ 2. ไม่มีใครมาก้าวก่ายให้เป็นไปตามธรรมชาติ ตั้งรัฐบาลได้ก็ตั้ง ถ้าตั้งไม่ได้ก็ถอยไป  ถ้าเป็นแบบนี้เนี่ย อยู่ได้

ทักษิณเล่นเกมเสี่ยง- พท.ต้องไม่คิดแก้แค้น 

0 โดยที่ภารกิจของเสื้อแดงไม่ควรมาคัดค้านรัฐบาลใหม่ แต่ไปสนใจแก้รัฐธรรมนูญพอ

เขาจะไม่มายุ่งในการจัดตั้งรัฐบาล คือ เสื้อแดงต้องไม่เป็นมือที่มองไม่เห็นเสียเอง รังเกียจมือที่มองไม่เห็นเข้ามาจัดการ แล้วถ้ามาทำหน้าที่นี้เสียเองก็แย่ คนเขาก็จะรังเกียจ คนกลางๆที่เขารักความยุติธรรมเยอะแยะไป เขาก็จะทนไม่ได้

0 การที่คุณทักษิณวางตัวน้องสาวเป็นคู่ชิงนายกฯ และใช้เสื้อแดงนำในการหาเสียง คิดว่า จะประสบความสำเร็จหรือไม่

ผมก็อยากดูเหมือนกัน พูดจริงๆนะ ผมก็ไม่กล้าที่จะบอกว่า มันจะสำเร็จหรือไม่ แต่ผมพูดได้ว่า เขากล้าหาญ และก็เสี่ยงพอควร  แต่ก็ดีที่เขาไม่อำพราง เปิดตรงไปตรงมา เมื่อประชาชนเห็นแล้ว ประชาชนก็ ตัดสินใจได้ ไม่ต้องไปเที่ยวค้นหาให้ปวดหัว

 

0 คุณทักษิณมีความเสี่ยงอย่างไร 

ก็ถ้าเกิดคนที่เขาไม่ชอบ เขาเห็นว่า เสื้อแดงกับพวกเพื่อไทย ซึ่งเขาไม่เลือกเพื่อไทยอยู่แล้ว ก็ชัดเจน แต่ถ้ามันอยู่ห่างกัน  คนก็อาจจะตัดสินใจอีกอย่าง เพราะคนบางพวกบอกว่า เขาหนุนเสื้อแดงนะ แต่เขาไม่ได้ชอบทักษิณ ขณะที่บางพวกบอกว่า เขาชอบทักษิณ แต่เขาก็เป็นกลางๆ กับเสื้อแดง ก็มีอยู่ ทีนี้ทำอย่างไรให้คนที่เขาชอบฝ่ายเดียว ก็สามารถจะลงคะแนนได้  ดังนั้น เมื่อคุณทักษิณหรือ แกนนำเสื้อแดงประกาศว่า ครั้งนี้เขาหนุนเพื่อไทย  ส่วนเพื่อไทยก็บอกว่า เขาเอาเสื้อแดง ดังนั้น ในช่วงเลือกตั้งก็ต้องถือว่า เป็นหนึ่งเดียว พอเป็นอย่างนั้น คนที่ไม่ชอบเสื้อแดงเขาบอกว่า เขาไม่ลงให้  เขาก็จะไปลงพรรคอื่นหรือ คนที่ชอบเสื้อแดง แต่ไม่ชอบทักษิณ เขาก็บอกว่า จะไปลงให้พรรคอื่น

0 ดังนั้น คุณทักษิณและเสื้อแดง ควรอยู่ห่างเพื่อไทยดีกว่าไหม

 ผมว่า ช่วงเลือกตั้งเขาตัดสินใจไปแล้วว่า เขาจะต้องใกล้ชิดกัน

0เพื่อไทยจะได้เสียงเท่าไร 

ต้องสองร้อยขึ้น  บวกลบยังไม่รู้แต่ใกล้ถึงกึ่งหนึ่ง 

0เชื่อไหมว่า จะมีการรุมสกัดเพื่อไทย
 
เต็มที่แหละหลายคนบอกว่า ให้ดูวันเลือกตั้งวันสุดท้าย  แต่ว่า อย่าให้มันประเจิดประเจ้อก็แล้วกัน ถ้า มันรุมสกัดอย่างออกนอกหน้าอย่างประเจิดประเจ้อ  ก็จะเป็นมือที่มองไม่เห็นอีก  แล้วถ้าคนเขาเห็นตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ทีนี้ การเลือกตั้งมันก็จบลงไม่สวยอีกแล้ว

0 ตอนนี้มี2 สูตรสำหรับแนวทางของคุณทักษิณเพื่อไทยและเสื้อแดง คือลุยไปเลย กดดันต่อรอง   บางคนมองว่า ต้องยอมเฉลี่ยอำนาจ ประนีประนอมกัน เป็นแบบไหนดี
 
ผม ว่า  ตามระบอบประชาธิปไตยมันเป็นระบอบประนีประนอม ปรองดอง ประชาธิปไตยไม่ใช่หลุดไปทางขั้วใดขั้วหนึ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าเดินแนวทางนี้ และ เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง มันก็แปลว่า ชอบสันติ ดังนั้น มันก็ต้องมีพื้นที่ให้กับ คนอื่นเขาบ้าง มันไม่ใช่ว่า สงครามในสมัยโบราณที่ยึดอำนาจได้แล้ว ก็ประหัตประหารฝ่ายตรงกันข้าม ไม่มีพื้นที่ให้เขาเลย มันก็ไม่ถูก  ตามระบอบประชาธิปไตยแล้วมันต้องมีพื้นที่ให้คู่ต่อสู้

0 แต่ถ้าคุณวีระ เลือกได้ จะเดินแบบปรองดอง ไม่เปิดหน้าชน

ไม่รู้ซิ คือ เราไม่อาจเข้าไปจัดการเรื่องนี้ได้ มันต้องระดับข้างในเขา ผมมันเสื้อแดงก็จริงอยู่  แต่ขนาดอยู่ในกลุ่มเสื้อแดงนะ ก็ยังอยู่นอกแกน เพราะผมลาออกไปแล้ว ก็เป็นเพียงเสื้อแดงคนหนึ่ง

0ถ้าเพื่อไทยมีอำนาจ ต้องทำอย่างไร

เพื่อไทยต้องทำให้คนอื่นรู้สึกว่า เขาก็อยู่ในแผ่นดินนี้ได้ เสมอภาคกัน เขาจะได้รับมิตรไมตรี ก็คือหลักประชาธิปไตยที่เรียกว่า ภราดรภาพ  เสรีภาพ  เสมอภาค เพื่อไทยต้องสร้างบรรยากาศภราดรภาพ ไม่ใช่สร้างบรรยากาศของความเป็นศัตรู คู่อาฆาต ถ้าเป็นอย่างนั้น ถึงใครก็ไม่ประสบความสำเร็จ ต้องดูบทเรียนของ คมช. หรือ รัฐบาลชุดนี้ที่สืบเนื่องมาจาก คมช.และใช้หลักบริหารประเทศผิดๆ คือ ปฏิบัติต่อคนอื่น เหมือนเป็นชนชาติศัตรู ไม่เปิดพื้นที่ให้กับไทยรักไทย หรือ ทักษิณแล้ว 5 ปีที่ผ่านไป มันก็ไม่สงบ แต่ถ้าเขาคิดว่า  ก็เป็นคนไทยเหมือนกันก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ แล้วอะไรที่มันผิดกฎหมายก็ว่าไตามกระบวนการที่กฎหมายสากล ผมว่า มันก็พอไปกันได้ ไทยรักไทยเขาก็พอมีที่อยู่ นี่ มันฟันไทยรักปไทยเสร็จแล้ว มาฟันพลังประชาชน แล้วกำลังจะฟันเพื่อไทย แม้คุณจะทำได้ แต่คุณต้องอย่าลืมว่า เขามีคนหนุน กี่ล้านคน มีสส. 180 คน  มันไม่สำเร็จแน่

0 ในเพื่อไทยหรือเสื้อแดงมองว่า ถ้าไปยอมเขา ก็จะถูกเขารุกไล่ไปเรื่อยๆ ฉะนั้นพื่อไทย เสื้อแดง ต้องกดดันกลับ  มิฉะนั้น มันจะไม่เหลืออะไร

ใช่ แต่จะเอาอะไรมาไล่เขาหล่ะ..  เพื่อไทยหรือเสื้อแดงนี่ ถ้าจะเอาแนวคิดแบบที่ว่า แข็งกร้าว รุกไล่ เอาอะไรมารักไล่เขา

0มวลชน กดดัน ชุมนุม

มันก็ได้แค่นี้ มันก็เจ็บ ก็ตายกันไปเรื่อยๆ ก็ไม่สันติซะที  ต้องมาย้อนถามว่าเราต้องการสันติหรือไม่ เราต้องการความสงบสุขหรือไม่ เพราะทุกคนทำทุกอย่างเพื่อความสงบสุข เพื่อความสันติ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ทุกคนก็ต้องตั้งใจว่ามันต้องไม่มีการล้างแค้น อาฆาตแค้น เราสู้ด้วยปัญญา สู้ด้วยเหตุผล ดีกว่าจะมาสู้ด้วยกำลัง หรือสู้ด้วยความรุนแรง

0ทางออกของวิกฤตคืออะไร นิรโทษกรรม ใช่ไหม
 
นิรโทษ มันอาจจะมีนะ แต่ว่าไม่ใช่เป้าหมายของนปช.  นปช. ยังเห็นด้วยกับการเลือกตั้ง แล้วทำรัฐบาลให้ถูกต้อง ที่เหลือเราก็ทำตามกฎหมายปกติ มีกฎหมายอะไรก็ว่ากันไป ใครผิดอะไรก็ว่ากันไป มีการตั้งกรรมการสอบสวนไม่ตั้งองค์กรพิเศษ ไม่ออกกฎหมายพิเศษมาจัดการ แนวความคิดที่จะนิรโทษกรรม เนื่องมาจากว่าบางคนก็มองปัญหาง่ายๆ เอ้อ รบกันเสร็จสรรพแล้วดีกัน แต่ดีกันโดยที่ต่างคนต่างมีความผิดอยู่ เพื่อให้สบายใจกันทุกฝ่ายก็นิรโทษกรรม ความคิดแบบนี้มันไม่หลักการ เลยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ใครผิด มันต้องจำแนก

ผมชอบกรรมการชุด อ.คณิต ชื่อกรรมการอิสระแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อการปรองดอง ชื่อนี้แหละต้องเอาชื่อนี้  ถ้าทำได้ตามนี้จะมีประโยชน์ คือมันต้องเป็นคนกลางที่มีอิสระ ปลอดการแทรกแซงทางการเมืองเสียก่อน แล้วไปแสวงหาข้อเท็จจริง แล้วนำไปสู่การปรองดอง ทีนี้การปรองดองที่ว่า ถ้ามันได้ข้อเท็จจริงชัดแล้ว อาจจะนิรโทษกรรมก็ได้ไม่แปลก แต่ถ้านิรโทษกรรมเสียก่อนการแสวงหาข้อเท็จจริง มันก็กลบปัญหา เราไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก อย่างพวกเสื้อแดงแน่นอน เขายืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นคนเผาตึก ก็ต้องรู้เสียก่อนว่าใครเผา ในทางตรงกันข้ามใครฆ่า ก็ต้องรู้อีกว่าใครฆ่า และเมื่อถึงวันนั้นมันชัดเจนแล้วว่าใครทำ ก็นิรโทษกรรมก็ได้ นี่ผมสมมตินะ  ข้อนิรโทษกรรม ไม่ใช่ข้อเรียกร้องของเสื้อแดง แต่เป็นข้อเรียกร้องของคนอื่น ดังนั้นถ้าเป็นประโยชน์จริง ภายหลังรู้ข้อเท็จจริงแล้วมันก็โอเค

0 ถ้าเพื่อไทยได้เป็นฝ่ายค้านอีกครั้ง คิดว่าพลังของพรรคเพื่อไทยหรือเสื้อแดงจะซาลงหรือไม่
 
ถ้า มองในแง่ซาก็หมายถึงไม่ดุเดือดหรือว่าลดความเคลื่อนไหวลง ก็ถือว่าซาได้ เพราะว่าเมื่อเขายอมรับกติกว่า เลือกตั้งแล้ว เขายอมรับในรัฐบาลใหม่ เขาก็จะต้องไม่เอะอะเหมือนกับก่อนเลือกตั้ง  ซึ่งก็อาจจะดูว่า พลังมันหมดแล้ว  แต่ที่จริงคือ พลังนี้มันจะถอยจากการเลือกตั้งไปสู่การเฝ้าดู การปรับบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ถ้ามันจะแรงมันก็จะแรงตรงนั้น มันก็ต้องไปขยายฐานมวลชนออกมา แล้วกลับมาเรียกร้อง ว่าไงเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย อันนี้ก็ไปห้าเขาไม่ได้ 

0บรรยากาศโดยรวมตามที่วิเคราะห์มา ก็อาจมีทั้ง คลี่คลายหรืออาจเกิดวิกฤตได้อีก

เกิดวิกฤตได้อีกเหมือนกันในทางตรงกันข้าม ซึ่งผมคิดว่า วิกฤตมันไม่ควรเกิดแล้วเพราะว่าทุกฝ่าย ต่างก็ได้รับบทเรียน คนฉลาดต้องไม่ก่อให้เกิดความโง่ซ้ำซาก ให้กติกามันโปร่งใสหน่อยมันก็ไปได้

0บทเรียนของวิกฤตครั้งนี้ คืออะไร
 
บทเรียน ของผมก็คือว่า ต้องไปดู 19 กันยา 49 การยึดอำนาจมันผิดหลัก การยึดอำนาจในตัวของมันเองผิด แต่เขาอ้างว่าต้องยึด  เพราะรัฐบาลทักษิณ ทำผิด 4 ข้อ  เวลาผ่านมา 49-50- 51  ก็มาพิสูจน์กันว่าเขาผิดจริงหรือเปล่า  ปรากฏว่าใน 4 ข้อ  3ข้อพิสูจน์แล้วมันไม่ผิด แต่อีกข้อยังคลุมเครือ ก็ยังไม่จบ ก็คือว่ายังเป็นการทุจริตอะไรต่างๆ ก็ยังเถียงเป็นคดีความอยู่ แต่ว่าเราควรหยุดพูดประเด็นนี้ แล้วมาตกลงว่า 4-5 ปี มันแก้ปัญหาอะไรได้บ้างไหม อันนี้ คือบทเรียน มันก็จะบอกเราว่า ในที่สุดวิธีที่ว่านี้มันแก้ไม่ได้ เมื่อแก้ไม่ได้ เราจะไปทำซ้ำอีกทำไม

ความหมายของผมคือ พวกทหารต้องมาทบทวน หนึ่ง การรัฐประหารมันไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา  พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน  สารภาพแล้วว่าผมก็เป็นส่วนหนึ่ง สร้างปัญหาให้ประเทศนี้ ก็จะขอแก้มือ  เพราะฉะนั้น คนอื่นก็อย่ามาทำซ้ำ  เรื่องยึดอำนาจก็ควรจะเลิกกันไป สอง ก็คือการใช้อำนาจเผด็จการ เช่น  การใช้กฎหมาย ที่ขาดหลักนิติธรรม อย่าไปใช้ นี่คือบทเรียนที่เป็นประโยชน์ ถ้าใช้บทเรียนนี้เป็นประโยชน์ ตั้งแต่วันเลือกตั้งเป็นต้นไป ก็อย่าไปทำสิ่งเหล่านี้  เท่านั้นก็ดีขึ้นเยอะแล้ว

แต่สมมติว่ารัฐบาลใหม่  เข้ามาเพื่อทำชั่วอีก ใช้กฎหมายที่อยู่ในขณะนั้นๆ ใช้กระบวนการตรวจสอบ  จากองค์กรอิสระที่ยังมีอยู่ แต่ว่าเป็นองค์กรอิสระภายใต้เผด็จการเห็นมั้ยว่าล้มเหลว ฉะนั้น องค์กรอิสระต้องเริ่มต้นปรับจิตใจ ปรับจุดยืนใหม่ ให้เข้าสู่ความเที่ยงธรรมให้มากที่สุด การตรวจสอบของฝ่ายค้าน แน่นอนถ้าประชาธิปัตย์ไปเป็นฝ่ายค้านก็เก่งจะตาย   แต่ถ้าเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่อย่างเดิมก็ไม่เลวนะเขาก็ทำได้ แล้วเราก็ยังมี สื่อกับภาคประชาชน เป็นองค์กรตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ทุกอย่างเดินไปได้ดี มันทำได้ทั้งนั้น ขอให้เรื่องมันถูกจุดเท่านั้นเอง

0รัฐบาลใหม่จะอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน
 
อย่าไปกังวล มันจะอยู่ได้ปี 1-2 ปี หรือยุบสภาแล้วเลือกใหม่ ไม่เป็นไรขอให้เลือก ความจริงถ้าทนได้นิดหน่อย มันกรองตัวมันเอง  ประชาธิปไตยสามารถครองเชื้อโรคด้วยตัวมันเอง  คนก็จัดการเอง

เบื้องหลังเหตุการณ์พ.ค.เลือด –เสธ.แดงป่วน-ทักษิณต่อสาย

0 เหตุการณ์ชุมนุมราชประสงค์ 2554 ตอนที่ท่านหายไป ทิ้งขบวนนปช. เพราะอะไร
 

ผม ก็ไปนั่งโต๊ะเจรจา ก็ต่อรองกันไปมา ใช้ระยะเวลา 10 วันได้ ในที่สุดผมเห็นจุดความเหมาะสมว่า  ถ้าเขามายุบสภาในเดือนก.ย. แล้วเลือกตั้งในกลางเดือนพ.ย.   ผมก็ว่า สมควร  แต่พรรคพวกขอเพิ่มปลีกย่อยบางข้อ ซึ่งผมบอกว่ามันไม่สวยนะ  เป็นเหตุผลที่มันไม่งามนะ  แต่เมื่อหลายเสียงเขาบอกว่าไม่ยอม   ผมเลยบอกว่า งั้นผมก็หมดสถานภาพที่จะเป็นประธานนปช. ผมก็เลยออก บอกว่า ตั้งแต่ วันนี้เป็นต้นไป ผมกลัวว่ามันจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น และก็จะมีคนเจ็บและมีคนตาย เพราะฉะนั้น ที่ผมลาออกเพราะผมไม่ต้องการรับผิดชอบต่อคนเจ็บและคนตายที่เพิ่มอีกแล้ว เพราะถ้าเราหยุดวันนี้ก็คือเจ็บตายเท่าที่เป็นไปผ่านมาแล้ว  แต่หยุดวันนี้คือไม่มีใครตาย ข้อหนักใจของผมก็คือว่า เราไม่มีเหตุผลที่จะอธิบายต่อมหาชน เพราะเราชุมนุมเพื่อให้ยุบสภา เมื่อเขาตัดสินจะยุบสภาและเร็วขึ้นกว่าที่เขาพยายามจะดึง ก็คือ  4-5 ต่อจากวันนั้น เราก็ควรรับได้ ทีนี้เมื่อเสนอแล้ว ไม่เอากัน ก็ไม่เป็นไร ผมก็กระโดดลง

0 ตอนนั้นแกนนำนปช.อยากให้ท่านไปเจรจากับรัฐบาล เพราะต้องการให้จบ
       
รัฐบาล ก็ทาบทามมาตลอด ตั้งแต่ครั้งที่ไปคุย สามต่อสาม  ก็เป็นเหตุว่า ต้องคุยต่อให้จบ เป็นมติลับๆ ของทั้งสองฝ่ายเพราะคุยกันทางทีวีก็ไม่รู้เรื่อง  แต่เมื่อจบสองรอบ แล้วตกลงเป็นความลับ ว่าเอาอย่างนี้นะ ต่อไปนี้ เราให้มีการติดต่อคุยกันต่อไป  แต่ไม่ออกทีวีแล้วก็ใช้คนน้อยลง อย่าปิดกั้นประตูโดยเด็ดขาด  ทางเราก็มาประชุมแล้ว ลงมติให้ผมไปเจรจา ทางโน้นด้วยความร้อนรน เขาก็ติดต่อมา เขาก็อยากให้เลิก เชิญมาเราก็ไป  วุฒิสภาเองเป็นกลาง ก็พยายามติดต่อ ให้ไปเจรจากันหน่อย  แต่ในเวลานั้น พวกอยู่หลังเวทีก็ต้องพูดแรงหน่อย ปลุกระดมกันจนคนอารมณ์ขึ้น  แต่ความจริงการเจรจากำลังต่อรองได้ข้อสรุป

0เจรจาที่บ้านใคร
 
เขาห้ามพูด เป็นการตกลงตอนเจรจา ว่าห้ามพูดเรื่องใช้ที่ไหน เป็นที่เจรจา เราก็ต้องเก็บเป็นความลับ

0 ของรัฐบาลมีใครบ้าง

ที่นสพ.เปิดไปแล้วก็มีกอรปศักดิ์ สภาวสุ แต่ที่ยังไม่มีชื่อ มีอีกหลายคน แต่เขาขอ ห้ามพูด ใครที่สื่อพูดแล้วก็เปิดไป เขาก็บอกเปิดได้ เราก็ต้องรักษาคำพูด

0ทางฝ่ายชนชั้นนำที่คุยกับคุณวีระโดยตรงมีไหม

ก็คุยกันระดับใช้ได้ทั้งนั้น ระดับที่มีอำนาจตัดสินใจ

0แกนนำที่เห็นด้วยกับคุณวีระที่ให้ม็อบยุติการชุมนุมมีกี่คน
 
ความจริงก็มีหลายเสียงนะ แต่ว่าเป็นเสียงประเภทลังเลมีเยอะ  คือ เอาด้วยกับผมเพราะหลักการถูกต้องหมด แต่ว่าไม่อาจจะออกมาได้ อ้างว่าเป็นห่วงมวลชน กลัวเขาจะบาดเจ็บล้มตาย ผมก็อธิบายแล้วว่า  การห่วงมวลชนก็คือ การยอมรับเงื่อนไขการเลือกตั้ง ทุกคนก็จะไม่เจ็บไม่ตาย  แต่ทุกคนบอกว่า ให้อยู่ประคองไปก่อน ก็กลายเป็นลังเล แต่ถ้าถามหลักการแล้วเขาเห็นด้วยกับผม 80%  เช่น วิสา คัญทัพ  อดิศร  เพียงเกษ  นพ.เหวง  โตจิราการ ก่อแก้ว พิกุลทอง

0 เมื่อคุณวีระลาออกจากประธาน นปช. โดนโจมตีกระหน่ำว่า ทรยศต่อคนเสื้อแดง
 

ขาย ตัวไปแล้ว ไปเอาเงินอภิสิทธิ์แล้ว ผมก็หัวเราะ ไม่เป็นไร เพราะแกนนำ 20 คนรู้ว่าผมไปทำอะไร เว้นแต่จะพูดรึไม่พูดว่า เราไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย แต่จะอยู่ 2 วันที่ผมป่วย

0 ข่าวว่า คุณวีระ หนีไปใต้

ไม่มี (ขึ้นเสียง) ผมอยู่กรุงเทพทักวัน ก็รอบๆ เวที

0ก็เสื้อแดงปล่อยข่าวว่าวีระไปแล้ว

ใช่ๆๆ ก็นั่นแหละพวกเขาแหละ  รวมทั้งไอ้เมธีด้วย นี่ก็ไม่เบา มันคนไม่เต็มบาท พอถูกจับก็ให้ข่าวเลอะเทอะเลย

0 เขาเลยตัดสินใจไปพร้อมกับท่าน

ก็ตามหลังผมมา บางคนก็มาตอนรุ่งขึ้นมาอีกวัน

0 แกนนำที่ชุมนุมต่อ นอกจากเหตุผลปลีกย่อยแล้ว มีการสั่งการจากต่างประเทศ (ทักษิณ ชินวัตร)หรือไม่
 

ไม่รู้... เรื่องคุยกับต่างประเทศ เขาก็คุยตลอดเวลา แต่ผมคิดว่าเขาไม่น่าจะสั่งการเพราะเขาไม่เคยสั่ง เขาบอกว่า คนที่อยู่ในพื้นที่รู้เหตุการณ์อะไรดีหมด เพราะฉะนั้นต้องช่วยกัน ตัดสินใจเอาเอง แต่ที่ผมเห็นเขา ยืนยันหนักแน่นมากที่สุดคือ เขาต้องการให้สุเทพ อภิสิทธิ์ ไปขึ้นศาล  เขาบอกว่าถ้าพวกนี้ไม่ไปขึ้นด้วยเราไปขึ้นฝ่ายเดียว ก็ไม่ได้นะ เขาอ้างเหตุผลนี้ แข็งมากเลย บอกว่า ผมไม่ยอมนะ ต้องให้ไปขึ้นศาล ทีนี้ผมก็ตกอยู่ในที่นั่งที่จะต้องไปอธิบายแทน คือ  ที่เราเรียกร้องให้เขาไปขึ้นศาลด้วย มันเป็นข้อที่เป็นไปไม่ได้โดยกฎหมาย เพราะว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีเวลามีเรื่องไปขึ้นศาล  สมมติว่าเราไปแจ้งความดีเอสไอทั้งสองหน่วยงานจะต้องส่งเรื่องให้ ปปช. อันนี้คือกฎหมายที่ข้ามขั้นตอนนี้ไม่ได้ เมื่อไปปปช.แล้วก็จะไปอัยการและศาล

แต่เรื่องนี้มันไปศาลไม่ได้ทันที เพราะมันต้องไปปปช. พอไปถึงมันก็จมเรื่อง อย่างน้อย ก็ -3-4  เดือน จมไว้นาน พร้อมพวกเราไม่ได้ พวกเราประชาชน มันไม่ต้อง ไปดีเอสไอ ไปอัยการ ไปศาลเลย แพลบเดียวมันเอาเราเข้าคุกแล้ว อันนี้  คือเหตุผลทางกฎหมาย แต่ผม บอกเขาว่า เราจะเป็นห่วงอะไร เพราะว่าอายุความมันมี ไม่ใช่ว่าเราขึ้นศาลติดคุกแล้ว อภิสิทธิ์กับสุเทพ จะอยู่รอดปลอดภัย อายุความมันมี พอเลือกตั้งแล้วมีรัฐบาลใหม่ รัฐบาลใหม่ก็เดินหน้าต่อจนได้ ก็เรียกว่า เถียงกันในเรื่องปลีกย่อยไม่ใช่เรื่องหลัก

0ฝั่งที่สนับสนุนให้ชุมนุมต่อ มีใครบ้าง
 
ก็ อริสมันต์  ความจริงอริสมันต์ ลึกๆ มันไปมั่นใจทางอื่น เพราะมันยังไปเที่ยวกินกาแฟอยู่กับ เสธ.แดง  (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล)  และยังมีจตุพร ที่ยืนยันให้สุเทพ ขึ้นศาล ส่วนไอ้เต้น (ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) ความจริงก็เห็นด้วยกับผม ว่าถึงจังหวะที่เราควรลงได้แล้ว แต่ทีนี้ถ้าเพื่อนเขายังไม่ลง แล้วมันออกมาอีกคนก็ไม่ไหว  มวลชนจะมีปัญหา

0แรมโบ้ สุพร อัตาถงศ์ มีบทบาทตรงนี้ไหม
  
แรมโบ้มันผลักดันให้ผมไปเจรจาเพื่อจะยุติ มันขอร้องผมนะ  พอผมทำสำเร็จแล้ว มันขอบคุณเกือบตายแต่พอมาคืนที่เราโหวต มันกลับเปลี่ยนใจ มาขอโทษผม “ผมขอโทษนะ ผมต้องเปลี่ยนโหวต”  ผมก็บอกไปว่า ก็ตามสบายซิ เพราะเราเป็นเสรีชน ผมไม่โทษใครนะ คุณมาขอร้องให้ผมเจรจาสงบศึก ผมไปให้แล้ว และก็ได้มาแล้ว แต่คุณไม่เอาผม ผมก็ไม่โทษ ผมก็ไม่ได้ว่าไร แต่ว่าไอ้แรมโบ้ ทำไมมันเป็นอย่างงั้น คุณก็ลองไปถามดูดิ

0หรือเพราะแรมโบ้ไปอยู่กับอริสมันต์และเสธ.แดง ความคิดเลยคล้ายกัน
  
สงสัยเป็นอย่างนั้นนะ เพราะ มันไปประชุม แล้วมันเกิดมั่นใจหรือเปล่าว่า เสธ.แดงมีกำลังเยอะ ผมบอกว่า ห้ามสังฆกรรมนะ ไอ้เสธ.แดง ผมก็ไม่ให้ขึ้นเวที ไม่ให้มันเกี่ยวข้อง  แต่การที่มาเดินเตร่ไปเตร่มามา เราห้ามไม่ได้มันเสรีภาพเขา แต่ว่า ในปริมณฑลของเรา เราห้าม  ไอ้พวกนี้ แอบไปกินกาแฟกัน

0 ตอนนั้น เสธ.แดงบอกว่า ถ้าแกนนำพาม็อบกลับบ้านไปเมื่อไร เขาจะยึดเวที จะมีแกนนำรุ่นสองรุ่นสาม 

เขาคิดจะยึดโดยที่ยังไม่ไปด้วยซ้ำ คือ ระหว่างที่ผมไปเจราจา ข่าวของผมรายงานมาแล้วว่า พวกนี้ไปประชุมกันใกล้ๆ แล้วก็มีมติว่า ถ้า จังวะเหมาะ ก็ยึดเวทีเลย ผมก็เลยตอบไปไงว่า “มึงจะไปยึดทำห่าอะไร กูไม่ได้เอาเวทีนี้มา แล้วตั้งกองกำลังไว้ป้องกัน  คือ เวทีไม่ใช้เวทีที่กูยึดไว้ แต่เป็นเวทีที่ตั้งขึ้นโดยมติประชาชน”  ฉะนั้น ถ้าจะมายึดเอาไปแล้วประชาชนเขาอยู่ด้วยก็อยู่ไปสิ ไม่ได้ว่าไรนี่ ใช่ไหม  (ขึ้นเสียง) เราจะไปว่าอะไร มึงเอากองกำลังมา 20 คน ล้อมเวทีไว้ แล้วบอกว่า ต่อไปนี้วีระ ณัฐวุฒิ ห้ามขึ้นเวที  เราก็ได้กลับบ้าน แต่เราก็ต้องบอกประชาชนก่อนว่าเราจะกลับบ้าน  ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นประชาชนอยู่ก็อยู่ ประชาชนไม่อยู่ก็กลับหมด ถ้าประชาชนกลับหมดเหลือแต่เวที มึงจะยึดไปทำห่าอะไร

0เสธ.แดงขู่จะยึดเวที หากม็อบลง แล้วเขาจะยึดอย่างไร

ก็นั่นนะซิ  ถ้าจะยึดก็หมายความว่า เขาก็มาจับพวกผม  คือ ล็อคพวกผมสัก 6-7 คน แล้วเขาก็สามารถจะใช้เวทีตามสบาย แต่คุณอย่าลืมว่าเวทีนี้ชาวบ้านเป็นคนตัดสิน ถ้าสมมติว่า ไอ้พวกนี้ (เสธ.แดง) ขึ้นเวที เขาจะฟังมั้ยหล่ะ ถ้าเขาฟังเขาก็อยู่ ถ้าไม่ฟัง เขาก็กลับบ้าน เขาไม่มีความเกรงใจใครนี่  แล้วถ้าเขากลับเยอะ แล้วทีนี้จะอยู่กับใครหล่ะ

0 พอเราได้เตือนเขาเป็นไง

เขาก็เลยหยุดความคิด แต่ว่า ผมไม่ได้พูดกับเขาโดยตรงนะ  เพราะเราถือว่าเขาไม่ใช่พวกเรา เป็นคนละพวกกัน

0นอกจากเสธ.แดง อริสมันต์ แรมโบ้ มีเท่านั้นหรือไม่ที่ไปคุยกัน

มีอีก...มีพวกรักสนุก  คือ ชอบทำอะไรที่มันดุเดือด

0แนวร่วม หรือ แกนนำ

พวกอยู่ชายขอบ ระดับเกือบจะเป็นแกนนำนะ แต่ไม่ใช่  คือ  บางคน มันทำงานด้วยความสนุก  มันเห็นว่า มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ซึ่งเราก็บอกว่า ไม่ใช่อย่างนั้น นี่เขาทำเอาจริงกัน เรามาพูดเรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องเล่น  แต่ บางคนมันได้ถือปืน ถืออะไรมันสนุกนะ หรือ บางคนไม่ถือปืน แต่ถ้าวิ่งท้าทายแต่งชุดให้มันประหลาดๆ ก็สนุก การชุมนุมทุกที่มันเป็นแบบนี้ มีคนแบบนี้ปะปนอยู่เยอะ

0แต่ตรงนั้นเสธ.แดงก็ตั้งแนวร่วมเยอะเห็นไปฝึกอะไรกัน

เขาฝึกที่อื่น เขาจะมาเดินเฉพาะจังหวะดีๆ เขาก็เดินเฉียด  เขาเดินจากหัวถนนไปโรงแรม แต่เขาจะไม่เข้ามาที่เวที

0คนของเสธ.แดงเยอะไหม
 
ก็ปะปนอยู่ คือพวกการ์ดไง  เดิมที เดียวพวกนี้เป็นมวลชนลอยๆ อยู่ที่สนามหลวง ไม่มีอาชีพ คนที่นอนสนามหลวง  เสธ.แดง ก็ไปจับมาฝึกเป็นทหารพระเจ้าตาก ใช้ไม้พลองฝึก มันก็สนุก  อย่างนี้คือพวกสนุก สั่งซ้ายหันขวาหันหน้าเดิน แทงสั้นแทงยาว ก็ว่าไป ฝึกแล้วมันคึก ทีนี้พอมาชุมนุมปุ๊บ มันก็มาสมัครเป็นการ์ด เท่ากับเป็นลูกศิษย์เสธ.แดง แต่เราถือว่าพวกนี้ ไม่ใช่พวกมันสมอง ก็จ้างเขารายวัน อะไรก็ว่าไป แล้วแต่ฝ่ายการ์ดเขาดูแล แต่ทีนี้พวกนี้ก็สองจิตสองใจ มันแยกไม่เป็นว่า นปช. กับเสธ.แดง คนละพวก พวกนี้จะคิดว่า พวกเดียวกัน ตามความเข้าใจของเขา ไอ้เราบอกว่า คน อุดมการณ์ไม่ตรงกันไม่ใช่พวกเดียวกัน อุดมการณ์คุณ ต้องการประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่คุณจะใช้ความรุนแรงกับพวกสันติวิธี เป็นพวกเดียวกันไม่ได้ ถ้าเป็นพวกเดียวกันก็อันตราย แต่พวกนั้นคิดไม่เป็น

0 ยังมี พายัพ ปั้นเกตุด้วยใช่ไหมที่อยู่ด้วยกัน
 

อันนั้นก็โดดไปโดดมา ชอบทำอะไรแผลงๆ

0เวลาประชุมแกนนำนปช.ในตู้คอนเทนเนอร์เป็นไง

ถ้าอยู่ในห้องก็ดี  พายัพ พูดเหตุผลฟังรู้เรื่อง แต่เวลาออกจากห้องมันชอบทำอะไรแปลกๆ 

0 ทักษิณว่าอยางไร

วันที่ 10  พ.ค. ที่เกิดเหตุชุมนุม  ท่านก็โทรมา ผมก็บอกว่า ผมจะใช้วิธีให้ทุกคนโหวต เราเป็นประชาธิปไตย ก็โหวต กันว่า จะหยุดหรือไม่ ท่าน ก็บอกว่า...ช่วยดูดีๆ  หน่อยแล้วกัน  ท่านบอก ท่านได้ข่าวเหมือนกันว่ามวลชนจะล้ำหน้าแกนนำไปแล้วนะ  ผมก็บอกว่า ก็ท่านอยู่ไกล ท่านอาจได้ข่าวอย่างนั้น มีคนโทรไปฟ้องอ่ะ  แต่ผมใช้วิธีว่า ทุกคน 20 เสียง ก็ต้องโหวต โดยทุกคนต้องออกความเห็น  ผมไม่ใช่เอาตัวเองเป็นแกน  ท่านก็ขอบคุณๆ

0 หลักคิดของเสธ.แดง เขาเชื่อว่า ถ้าเบ็ดเสร็จทีเดียว ใช้ความรุนแรงก็จบเลย

เขาคงคิดแบบนั้นว่า ไอ้พวกนั้นไม่กล้า รัฐบาลไม่กล้าทำร้าย แต่ผมไม่ไว้ใจ  เพราะถ้าเรามือเปล่า เขาคงไม่กล้า แต่ถ้าเราแอบมีอาวุธ เขาก็เหตุที่จะปราบได้ หลักการมันต่างกันแค่นี้

0เวลาที่เสธ.แดงสามารถป้วนเปี้ยน เพราะส่วนหนึ่งแกไปหาทักษิณ แล้วก็เอาภาพมาโชว์    
              
อันนั้น มันก่อนหตุการณ์ ใครไปหาทักษิณได้ทั้งนั้น เขาเปิดนี่ ไปชนกัน

0คนก็เชื่อว่า เป็นพวกเดียวกัน เพราะทักษิณใช้หลายคน

ถูก  เสธ.แดง เขาต้องการสร้างภาพว่า เขาไปคุยกับทักษิณ มาแล้ว  เขาชอบพูดเสียด้วยซ้ำ

0ทางจตุพร เวลาพูดดูฮาร์ดคอร์

มันเป็นบุคลิกของแต่ละคน คำพูดแต่ละคน แนวทางก็จะต่างกันหน่อย

0 สิ่งที่ท่านได้เห็นทั้งหมด  มีอะไรเป็นบทเรียนสำหรับขบวนเสื้อแดงที่จะต้องปรับในอนาคต

สำหรับผมยืนยันว่า ถ้าหากชุมนุม ต้องสงบไม่มีอาวุธ เมื่อไรที่ผู้ชุมนุมมีอาวุธ เจ๊งเมื่อนั้น ผมก็ยืนหลักแบบนี้ และผมก็จะไม่ชวนให้คนมา ถ้าจะมาชุมนุม โดยพกอาวุธมา  ผมไม่เอา ผมถือว่าเป็นความโง่ที่จะพาคนบริสุทธิ์มาตาย ผมไม่เอาหรอก แต่ถ้าเราชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ  และโดยความสนุก เขาจะปราบเราจริง เขาก็จะแพ้เราในที่สุด

0ตอนนี้สถานะคุณวีระในนปช. คืออะไร

ไม่มี (หัวเราะ) ไม่ได้เป็นประธานแล้ว ก็ลาออกไปแล้ว  แต่เวลาเขาไปเชิญ บางทีเขาก็เชิญ ก็ไปบ้างไม่ไปบ้าง  เขาไม่เชิญก็แล้วไป

0 กีดกันคุณวีระบ้างไหม หรือเพราะไม่มั่นใจตัวคุณวีระ

มี..ก็แล้วแต่เขาจะมอง แต่ถ้าเอาผมไปผมก็ยืนยันแนวทางนี้ ใครบ้าบอเที่ยวให้ชาวบ้านก่อความรุนแรงต่างๆหรือไปหมิ่นเหม่สถาบันผมไม่เอา ถ้าพูดก็ต้องอยู่ในกรอบ  เราถือว่าเราได้ชัยชนะทางการเมืองในระดับที่จะทำให้อำมาตย์ หดมือหดตีนกลับไปแล้วก็เลือกตั้งกันโดยบริสุทธิ์ตั้งรัฐบาลของประชาชนขึ้นมา ก็พอแล้วแค่นี้

0ทั้งหมดที่ผ่านมาสำหรับคุณวีระ นี้ถือว่า...

โอ้ยคุ้มค่า เกินค่าเลย เราสู้มาตลอดชีวิต เราอยู่ในวิกฤตมากี่รอบ 14 ตุลาก็อยู่ ในหมู่เคลื่อนไหว มา 6 ตุลาอีกก็เรียกว่า 1 ใน 4 ที่เขาหมายหัวจะต้องน็อคให้ได้  แต่ก็รอดมา  ก็มา พฤษภาคุณก็เห็นว่าเรามาทำงานอะไรกัน ก็อยู่บนถนน  มาครั้งนี้มันยาวนานกว่าครั้งไหนๆ และเราก็ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดประโยชน์ที่สุด ถึงกระนั้นก็ยังสู้ไม่ได้คิดดูซิ แต่ก็ยังไม่เลิก

แกนนำอย่าหลงเสียงนาง -อย่าชุมนุมให้มีคนตาย

0 มองพัฒนาการ ของ2เกลอ ณัฐวุฒิ กับ จตุพร ที่เหลืออย่างไร เพราะเขาก็เคารพคุณวีระเป็นอาจารย์ด้วย

ใช่ๆ ..คือ เขาก็ยังเป็นวัยรุ่น  เป็นคนหนุ่ม ประสบการณ์ยังไม่ครบด้าน แต่ก็ถือว่าเป็นพลังที่สำคัญมาก  เราต้องให้สติอย่างเดียว นอกนั้น ก็สมบูรณ์  คือต้องใช้สติยับยั้งนิดหน่อย อันนี้มีแต่คนแก่ที่มีสติมากกว่า เพราะกำลังมันมีน้อย แต่พวกหนุ่มๆ มันกำลังมากสติมันน้อยหน่อยเราต้องคอยเตือนสติ

0เขายอมรับในคำเตือนของคุณวีระ

ก็ยังคุยกันได้อยู่

0 เห็นครั้งหนึ่งจตุพร เคยแขวะๆ ว่า ถ้าใจเสาะก็ออกไปซะ

ก็นั่นแหละ คนหนุ่มหละ

0 อย่างณัฐุวุฒิ เป็นแม่เหล็กของคนเสื้อแดง

ก็โอเค เขาก็รอบรู้ดี เต้นก็ดี  ไม่เป็นจุดที่ไม่น่าห่วง แล้วเขาฟัง

0 พอถึง จุดหนึ่ง มวลชนหลงใหล มีแฟนคลับเยอะๆ มันจะเกิดอย่างที่คุณวีระบอกว่า หลง

ผมใช้ศัพท์คำว่า “หลงเสียงนาง” หมายความว่าแฟนคลับ หรือมวลชน ผมเตือนข้อหนึ่งว่า เราจะไปตามเขาทุกเรื่องไม่ได้ เพราะมวลชนมันหยิบออกมาเป็นตัวเป็นตนไม่ได้ คนเยอะเป็นแสนคน เราไม่อาจจะรู้ว่า แสนคนจริงๆแล้ว เขาต้องการอะไร ตรงกันหรือเปล่า ผมก็เลยสมมติขึ้นมามันมี 2 พันคนที่อยู่หน้าเวที เป็นประเภทสู้ตาย  คือ เขาตั้งใจตายจริง แต่เขาไม่ได้เตรียมอาวุธ  ส่วนที่เหลือเขาบอกมาสู้ แต่เขาไม่พร้อมจะตาย  เขาสู้ตามคำเชิญชวนว่า ให้มาใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างสันติ เขามาแบบนี้เป็นแสน แต่ 2 พัน บอกว่าพร้อมจะตาย ทีนี้เราจะยอมยกไอ้ แสนคนมา ให้ 2พันได้อย่างไร

เพราะฉะนั้นเราตามใจ 2พันไม่ได้ ผมจึงบอกกับพวกนี้ว่าเราต้องนำมวลชนไม่ใช้ให้มวลชนนำเรา พวกนี้ชอบพูดเสมอว่า นี่ แกนนำเป็นแบบนี้ มวลชนเขาล้ำหน้าไปแล้ว อ่าว..ถ้าล้ำหน้าจริงก็ไปซิ  ผมไม่ห้าม  อันนี้เสรีนะ  แต่ผมจะลุกประกาศว่า ใครอยู่กับผมมาทางนี้ ใครล้ำหน้าแล้วไป  แต่ผมไม่เคยมาประกาศคำนี้  แต่ มีคนมาบอกผมว่า คน 2พันล้ำหน้า ถ้าล้ำคืออะไร ล้ำอาจจะมีความรู้สึกว่าไม่เอาสถาบัน ..ไม่ได้นะ ... คุณมาคิดสนุกแบบนี้ไม่ได้  คุณคิดไม่รับผิดชอบเวลารับผิดชอบ ใครต้องรับผิดชอบ แล้วคนอย่างเราก็ต้องรับผิดชอบ เราก็ต้องอธิบายได้ว่าทำไมเราถึงจะไม่เอาสถาบัน แต่ผมมีความเห็นว่า สถาบันยังมีความจำเป็นสำหรับประเทศนี้ แต่มันต้องปรับปรุงอะไรบางอย่างก็ว่าไป

ฉะนั้น ถ้าเราให้มวลชนนำ เราก็อย่าไปเป็นผู้นำซิ เราก็ลงไปเป็นสมาชิกธรรมดา ให้มวลชนนำ เลือกใหม่ แต่ถ้ามวลชนเขามาเพราะเรา เราต้องนำเขา ฉะนั้น อย่าไปหลงเสียงนาง ว่าพวกนี้เขายอมตาย ผมถาม ใช่เขายอมตาย แต่ว่าเราควรให้เขาตายไม่ได้ นี่คือสิ่งที่นักชุมนุมทั้งหลายควรต้องยึดมั่น เรา ต้องชุมนุมแล้วอย่าให้คนตาย ชุมนุมแล้วอย่าให้คนเจ็บ ให้มันได้เงื่อนไข ได้ชนะโดยที่ไม่มีใครเจ็บใครตาย นี่คือเป้าหมายสูงสุด ไม่ใช่ชุมนุมแล้ว ใครเป็นใครตายก็เสี่ยงเอา แล้วเราได้ชัยชนะ ผมก็ไม่เอา ชัยชนะที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ห่า เราอาจตายเองก็ได้ หรือคนอื่นตาย เราไม่ตาย แล้วเราโชคดี ไม่ใช่...แบบนี้ไม่ถูก...ไม่เอา ...ต้องตั้งเป้าว่าทุกคนปลอดภัย ถ้ามันเสี่ยงต้องมาคิดทบทวนว่า  เอ้ย..ไม่ถูกแล้วนะ ผมว่าไม่ได้หรอก.. มันมีพวกบ้าๆ บอๆ ที่มาเสนอให้ทำนั่นนี่ในขณะที่ผมอยู่ตอนนั้น  เรารู้ว่าเขาทำโดยไม่มีสติ เช่น ไปแหย่ทหาร แหย่ตำรวจ ผม ระงับหมด มันไม่ได้ วิธีนี้ไม่เอา คุณอย่ามาเสนอ ห้ามเด็ดขาด จะไปยิงธนูใส่เขาบ้าง  มันบ้าบอไหม เขามีปืนนะ มีประโยชน์อะไร หลายเรื่องซึ่งเราจะต้องขัดใจกับไอ้พวกปลีกย่อยพวกนี้

0แต่ตอนนั้นเสื้อแดงก็แหย่ทหารไปหลายรอบนะ

ก็อย่างว่า เราถึงบอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ก็คือ  นี่คือ นำเภทภัยมาสู่ส่วนใหญ่ แล้วมันจริงมั้ยหละ ปัดโผ่ เราผ่าน 6 ตุลา 14 ตุลามา  ความคึกคะนองบางอย่างเนี่ย มันทำให้คนส่วนใหญ่บาดเจ็บบางทีทำให้ผู้นำ แกนนำมวลชน บ้านนอกเสียชีวิตเพราะความคำนอง... ไม่ได้.. อย่าหลงเสียงนาง

0คุณวีระจะลงสมัครพท.

ผมยังอยู่ใน 111 อีก 1 ปี  ก็ช่วยพรรคบ้างแต่อยู่ห่างๆ  คือโดยตรงก็ไม่มีสิทธิอะไร แต่เขาก็ถามเราเราก็แนะนำให้ไปลองดูคนนั้นซิ  จะไปคลุกมากก็ไม่ได้

0 กับ พล.อ.ชวลิต  เข้าใจถึงเหตุผลหลักที่ลาออกไหม

เขาบอกว่าไม่มีอะไร ต้องการเซฟทั้งสองฝ่าย พวกเราก็หลงเสียงนางมากไปหน่อย ส่วนหนึ่งนะ แต่รัฐบาลกำลังฮึ่ม ๆ มากไปหน่อย  พอท่านถอนตัวกัน ทั้งสองฝ่ายก็ได้สติ  แต่ทางนี้ก็บอกว่าชักจะเลยเถิดเหมือนกัน  ไอ้ทางทหารก็เหมือนกับว่า จะเมามากไปแล้ว เสียสติ ก็ได้ตั้งหลักกันนิดนึง แต่ท่านไม่ได้เลิกการเมืองนะ ตั้งหลักเฉย ๆ แต่ท่านไม่เป็น ส.ส. เพราะว่าท่านทำบทบาทต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส.

0คุณทักษิณสามารถคุมทิศทางเสื้อแดงได้ไหม

ได้ซิ เพราะเสื้อแดงส่วนใหญ่ก็เอาทักษิณ ท่านก็โฟนอินมาเรื่อยๆ  ก็ยังเอาตามนั้นอยู่

0เขาบอกว่ามวลชนล้ำหน้ากว่าทักษิณแล้ว

ก็พูดกันไป มีส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่าถึงแม้ไม่มีทักษิณหรือทักษิณเลิก มวลชนจะอยู่ได้มั้ย เขาก็เลยมีคำตอบว่า เขาก็เดินหน้าต่อไปไม่มีทักษิณ  ฉะนั้น ถ้าไปบอกว่า ประชาชนข้ามทักษิณไปแล้วซิ แต่เท่าที่ผมไปดู ผมเห็นว่า เวลาโฟนมาชาวบ้านชอบจะตายห่า

0ได้คุยล่าสุดไหม

 (ตอบทันที) ไม่เคย ผมไม่คุยกันมาตั้งหลายเดือนแล้วผมเป็นคนคุยกับทักษิณน้อยที่สุด ผมจะคุยเมื่อจำเป็น  แล้วเมื่อจำเป็น ก็ไม่เคยขอคำตัดสินใจ ก็เล่าให้ฟัง

0ถ้าวันนี้ได้คุยท่านจะคุยอะไร

ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เท่าที่ผมดูที่ท่านออกอากาศ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ก็ชัดเจนว่า ประกาศแนวทางปรองดอง แล้วชัดเจนว่า การเมืองของผม คือ การเมืองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ผมว่าโอเค

0ฟันธงว่าทักษิณต้องได้กลับไทย ภายใน 2-5 ปี

 ต้องได้กลับสิ คนไทยต้องกลับไทย  ไม่ยาวขนาดนั้น ก็เขาเป็นคนไทย  แต่กลับไทยเมื่อบ้านเมืองมันมีบรรยากาศของประชาธิปไตย ทุกคนจะกลับไทยก็มาใช้กฎกติกาตามกฏหมาย

Tags : วีระกานต์ วิจารณ์เสื้อแดง

view