สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สามัคคีโหมกระแส น้ำท่วม

จาก โพสต์ทูเดย์

“โอกาส” ใน “วิกฤต” ก่อตัวและถูกหยิบฉวยมาใช้ประโยชน์กันอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะจากฝ่ายการเมือง จนหลายสี หลายฝ่าย หันมาโหนกระแส “น้ำท่วม” ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินเกมการเมืองให้สอดรับกับกระแสสังคมที่จับจ้องเท ความสนใจไปยังมหันตภัยครั้งใหญ่ของประเทศ

โดย...ทีมข่าวการเมือง

“โอกาส” ใน “วิกฤต” ก่อตัวและถูกหยิบฉวยมาใช้ประโยชน์กันอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะจากฝ่ายการเมือง จนหลายสี หลายฝ่าย หันมาโหนกระแส “น้ำท่วม” ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินเกมการเมืองให้สอดรับกับกระแสสังคมที่จับจ้องเท ความสนใจไปยังมหันตภัยครั้งใหญ่ของประเทศ

จากมูลค่าความเสียหายกว่า 1 หมื่นล้านบาท ที่ส่งผลกระทบต่อหลายครัวเรือนในพื้นที่หลายสิบจังหวัดทั่วประเทศ นำมาสู่ธารน้ำใจที่หลั่งไหลไปสู่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ควบคู่ไปกับการฉกฉวยชิงจังหวะหาประโยชน์จากความเดือดร้อนครั้งนี้

น้ำเหนือ น้ำหนุน น้ำฝนที่ท่วมท้นอยู่ในเวลานี้ ผลอีกด้านหนึ่งกลับทำให้อุณหภูมิการเมืองที่กำลังร้อนแรงในโค้งสุดท้ายก่อน พิจารณาชี้ชะตาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ต้องเย็นลงกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อกระแสการเมืองที่มีความพยายามจะจุดประเด็นต้องถูกกลบด้วยข่าวน้ำท่วม เสียสนิท

หลายความเคลื่อนไหวทางการเมืองจำใจต้องหยุดเดินหน้า เมื่อไม่อาจต้านทานกระแสน้ำท่วม หลายความเคลื่อนไหวหันมาเกาะกระแสน้ำท่วมในการทำกิจกรรม เมื่อรู้แล้วว่าย่อมได้รับการตอบรับ และไม่ถูกต่อต้านหากโหนกระแสน้ำท่วม

“คลิปฉาว” 5 ชุด ที่พยายามจะเชื่อมโยงให้เห็นว่ามีการล็อบบี้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการ ตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กลับไม่เปรี้ยงปร้างอย่างที่ควรจะเป็น ไม้สอง ไม้สาม ที่หวังจะออกมาซ้ำแผลเก่าด้วยการเปิดตัวละครใหม่ๆ โยงใยเงื่อนงำความสัมพันธ์ในคดี ต้องแผ่วลงตามไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

ไม่น่าแปลกที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะจับสัญญาณตรงนี้ได้เร็ว พร้อมชิงจังหวะทวิตเตอร์ข้อความวอนสงบศึกการเมือง เพื่อเร่งช่วยประชาชนที่ประสบอุทกภัย พร้อมกำชับ สส.เพื่อไทย เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือราษฎร และให้ความช่วยเหลือผ่านมูลนิธิไทยคม “ผมใคร่ขอร้องให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ หยุดคำนึงถึงการเมือง ...ผมเองอยู่ไกลไปเยี่ยมไม่ได้ ก็ได้แต่ส่งกำลังใจมา พร้อมกับส่งตัวแทนมาเยี่ยม”

ถัดมาที่ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม “เสื้อแดง” หลายกิจกรรมที่ถูกกำหนดตารางไว้ในช่วงกระแสน้ำท่วม ถูกปรับเปลี่ยนเนื้อหากิจกรรมให้สอดรับสถานการณ์อย่างทันท่วงที เมื่อรู้ว่าไม่อาจฝืนกระแสเดินหน้ากิจกรรมการเมืองเต็มรูปแบบในช่วงนี้

ทั้งกิจกรรมผูกผ้าแดงทุกอาทิตย์ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาจัดที่ปากซอยวิภาวดี 16 (โชคชัยร่วมมิตร) ได้เพิ่มกิจกรรมรับบริจาคสิ่งของเสื้อผ้า อาหารจากประชาชน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

บก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ แกนนำคนวันอาทิตย์สีแดง เปิดเผยว่า ได้ปรับกระบวนการทำงานเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาก ขึ้น ทั้งงานด้านสิ่งแวดล้อม อาสาสมัคร

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมปลูกป่าลดโลกร้อน เคลื่อนตัวจากหน้าบึงพลาญชัยเข้าสู่รอบตัวเมืองในเขตเทศบาลร้อยเอ็ด ก่อนไปปลูกป่าประมาณ 200 ต้น ที่วัดป่ามีชัย อ.เชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด

ที่น่าสนใจ คือ หลังน้ำลดจะมีการนำคนเสื้อแดงเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมในทุก จังหวัด เป็นอาสาสมัครร่วมเคลียร์พื้นที่หลังน้ำลด ทำความสะอาดบ้าน ซ่อมแซมฟื้นฟูอาคารบ้านเรือน และให้คำปรึกษาแก้ปัญหาระยะยาวหลังน้ำลด เช่น เรื่องหนี้สินของผู้ประสบภัย โดยกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ทั้งหมดจะเป็นผู้เข้าไปให้ความช่วยเหลือ

แน่นอนว่ารูปแบบ “กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์” ที่กลุ่มวันอาทิตย์สีแดงพยามปลุกปั้นเดินมาได้ระดับหนึ่งย่อมถึงทางตัน ทั้งในเชิงจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมกิจกรรม ไปจนถึงรูปแบบกิจกรรมที่ไม่สามารถจุดกระแสให้ได้รับความสนใจต่อเนื่อง หากไม่มีการเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ๆ

ยิ่ง “แผลเก่า” เมื่อครั้งถูกตีตราให้เป็นคนเผาบ้านเผาเมือง ยิ่งปิดกั้นให้คนทั่วไปหันมาสนใจร่วมกิจกรรมเสื้อแดง

การดึงประเด็นการมีส่วนร่วมในสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม งานอาสาสมัคร ช่วยงานชุมชน ที่เห็นประโยชน์ชัดเจนจับต้องได้ย่อมสามารถสร้างมวลชนดึงการมีส่วนร่วมได้ ง่ายกว่ากิจกรรมเชิงสัญลักษณ์อย่างที่เคยทำ

ยิ่งจับปัญหาเฉพาะหน้าเรื่อง “น้ำท่วม” ที่ทุกคนกำลังประสานใจให้ความช่วยเหลือ และไม่ว่าใครทำย่อมไม่มีใครกล้าออกมาคัดค้านต่อต้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัย มีแต่จะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย การโหนกระแสน้ำท่วมจัดกิจกรรมแดงจึงเป็นจุดลงตัวที่ดีที่สุดในเวลานี้

ไม่เฉพาะ “เสื้อแดง” หรือพรรคเพื่อไทย ที่จับ กระแสตรงนี้ชิงจังหวะออกมาให้ความช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ในวันที่ “รัฐบาล” กำลังถูกโจมตีเรื่องการแก้ปัญหาที่เป็นไปอย่างล่าช้าและไม่ทั่วถึง รวมถึงเงื่อนไขที่หลายเรื่องต้องนำเข้าที่ประชุม ครม. วันที่ 26 ต.ค.นี้

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ติดอยู่ใต้ชายคาบ้านเลขที่ 111 ออกมาเปิดตัวในฐานะประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย ร่วมกับ สส. สก. สข. พรรคเพื่อไทย เปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมปล่อยคาราวาน 10 คัน ไปยังพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมใน กทม.

ยังไม่รวมกับโครงการต่อเนื่องประสานกับวิทยาลัยอาชีวะเปิดตัวโครงการ “อาชีวะอาสา” ซึ่งนอกจากแก้ปัญหาเด็กตีกันแล้ว ยังดึงความสามารถของเด็กเหล่านี้มาช่วยแก้ปัญหาภายหลังน้ำท่วม ทั้งการซ่อมเครื่องมือ เครื่องจักรกล เครื่องมือทางการเกษตร และเครื่องใช้ไฟฟ้า

การโหนกระแสน้ำท่วมเคลื่อนไหวมูลนิธิไทยพึ่งไทยเป็นศูนย์กลางรวบรวมสิ่ง ของบริจาค และจะมีจุดย่อยอีกกว่า 100 จุด ผ่านสำนักงาน สก. สข. และวัดในพื้นที่ต่างๆ จึงเป็นอีกการทำงานเชิงรุกทางการเมืองที่ได้ใจชาวบ้านที่เดือดร้อนและชาว บ้านทั่วไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การเมืองที่ใช้แต่ “น้ำลาย” มุ่งเน้นโจมตีสร้างความแตกแยกในสังคม นับวันมีแต่จะถูกปฏิเสธ และสูญเสียแนวร่วมเพิ่มขึ้นทุกวัน หากยังจะยืนยันเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ

ไม่เว้นแม้แต่ประเด็นเคลื่อนไหวของภาคสังคมกับการผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ที่เป็นปัญหาถกเถียงกันไม่จบสิ้น ถึงขั้นขยายวงเป็นรอยร้าวในแวดวงบุคลากรทางสาธารณสุข

สุดท้าย เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ สหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.) ออกมาเห็นพ้องกันว่าจะหยุดการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ออกไปจนกว่าสถานการณ์น้ำ ท่วมจะดีขึ้น

วิกฤตจาก “น้ำท่วม” วันนี้ จึงเป็น “โอกาส” ดีที่ได้ชะลอความขัดแย้ง และกลายเป็นโอกาสให้ฝ่ายการเมืองออกมาโหนกระแสเคลื่อนไหวทางการเมือง

Tags : สามัคคีโหมกระแส น้ำท่วม

view