จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
วว.เปิดตัวนวัต กรรมและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกอง เพิ่มมูลค่าผลผลิตการเกษตร กระทรวงวิทย์จับมือธนาคารอิสลามฯ นำร่องแก้ปัญหาผลผลิตชายแดนใต้ตกต่ำ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เปิดตัว “เครื่องล้างและปลิดขั้วลองกอง เครื่องคั้นน้ำลองกอง” พร้อมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกอง “เครื่องดื่ม แยม เยลลี่ ลองกองลอยแก้ว และลองกองแช่อิ่มอบแห้ง” ด้านกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ลงนามความร่วมมือกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ส่งเสริมและสนับสนุนพี่น้องเกษตรกร 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำร่องโครงการด้วยเทคโนโลยี วว. เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตลองกอง สนองนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาความยากจนของกลุ่มเกษตรกร
ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวชี้แจงว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ลงนามความร่วมมือกับภาคเอกชน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ในการนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยผ่านคลินิกเทคโนโลยี เข้าไปช่วยแก้ปัญหาความยากจนของพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล
ช่วงแรกของการดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือนี้ จะนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกองผลงานวิจัยของ วว. ไปสนับสนุนและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ด้วยการแปรรูปลองกองแทนการจำหน่ายผลสดทั้งในและนอกฤดูกาล
ทั้งนี้เนื่องจากลองกองเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งเกษตรกรชาวไทยมุสลิมในหลายจังหวัดทางภาคใต้ของไทยนิยมปลูก แต่มักประสบปัญหาผลผลิตการเกษตรลองกองล้นตลาด รวมทั้งการเสื่อมคุณภาพหลังการเก็บเกี่ยวเร็ว ทำให้ราคาจำหน่ายตกต่ำ ดังนั้นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตลองกองด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาผลผลิตล้นตลาดให้แก่เกษตรกร ในช่วงฤดูกาลแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตนอกฤดูกาลให้มีมูลค่าสูงขึ้น ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย อันจะช่วยให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่มั่นคงและประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากความร่วมมือในครั้งนี้ ธนาคารอิสลามฯ จะมีบทบาทในการคัดสรรผู้ประกอบการเพื่อรับการถ่ายทอดนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ แปรรูปจากลองกองผลงานของ วว. สู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ นอกจากนั้นจะจัดหากลุ่มเกษตรกรใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเข้าร่วมโครงการในฐานะผู้ผลิตวัตถุดิบหลักคือ ลองกอง
ทั้งจะมีการฝึกอบรมอาชีพในการแปรรูปผลผลิตลองกองระดับชุมชนและวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาลองกองล้นตลาดในช่วงฤดูกาล และเพิ่มมูลค่าลองกองในช่วงนอกฤดูกาล
นางเกษมศรี หอมชื่น ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า ”โครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกอง” มีระยะเวลาดำเนินงาน 4 ปี (พ.ศ. 2522-2555) โดย วว. มุ่งวิจัยและพัฒนาผลผลิตลองกองอย่างครบวงจร โดยนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกองเป็นผลสำเร็จหนึ่งของโครงการซึ่ง วว. วิจัยสำเร็จและเปิดตัวเป็นครั้งแรก
ประกอบด้วย เครื่องล้างและปลิดขั้วลองกอง มีประสิทธิภาพแยกก้านและผลลองกองออกจากกันได้อย่างสมบูรณ์ โดยผลลองกองไม่แตกช้ำเสียหาย มีกำลังการผลิต 300 กิโลกรัม/ชั่วโมง เหมาะสำหรับเกษตรกรและกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการแปรรูปลองกอง ซึ่งต้องผ่านกระบวนการปลิดขั้วจากช่อและล้างทำความสะอาดด้วยระบบน้ำหมุนเวียนก่อนปอกเปลือกลองกอง สำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่อไป
เครื่องคั้นน้ำลองกอง มีประสิทธิภาพคั้นน้ำลองกอง โดยสามารถแยกกากและน้ำออกจากกันได้อย่างสมบูรณ์ สะอาด ถูกสุขอนามัย โดยไม่ทำให้เมล็ดแตก มีกำลังการผลิต 300 ลิตร/ ชั่วโมง สามารถประยุกต์ใช้เครื่องกับผลไม้ที่มีลักษณะเนื้อนุ่มอีกหลายชนิด เช่น องุ่น มะม่วง สับปะรด ลำไย ลิ้นจี่ มะเม่า และมะเขือเทศ เป็นต้น เหมาะสำหรับวิสาหกิจชุมชนเพื่อนำไปใช้ในการแปรรูปผลไม้เป็นน้ำผลไม้พร้อม ดื่ม
ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกอง พัฒนาขึ้นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาลองกองให้ สามารถบริโภคนอกฤดูกาล ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการ อุดมด้วยวิตามินบี ซี ฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม และสารแทนนิน มีจำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำลองกอง มี 2 แบบ คือ 1.แบบพลาสเจอร์ไรซ์บรรจุขวด มีอายุการเก็บรักษาไม่น้อยกว่า 1 เดือนที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส
และ 2. แบบสเตอริไรซ์บรรจุกล่อง มีอายุการเก็บรักษาไม่น้อยกว่า 1 ปี ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส แยมและเยลลี่ลองกอง พัฒนาจากเนื้อและน้ำลองกอง จากกระบวนการผลิตเครื่องดื่มน้ำลองกอง เหมาะกับวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ลองกองลอยแก้ว มีอายุเก็บรักษาในอุณหภูมิห้อง 1-2 เดือน รสชาติกลมกล่อม ลองกองแช่อิ่มอบแห้ง เนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์นุ่ม รสชาติหวานน้อยและสะดวกต่อการบริโภค
ผู้ว่าการ วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะประสบผลสำเร็จพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกองแล้ว วว. ยังศึกษาสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชต่อการชะลอการหลุดร่วงผลลองกองหลังการเก็บเกี่ยวพบว่า การฉีดพ่นช่อลองกองด้วยสารควบคุมการเจริญเติบโตชนิด 2,4-D สามารถชะลอการหลุดร่วงได้ โดยไม่มีผลต่อขนาด น้ำหนัก สีผิว และความหวานของผลลองกอง รวมทั้งศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาและพิษวิทยาในส่วนเนื้อ-เปลือก-เมล็ดของลองกองพบว่า สารสกัดจากเปลือกและเมล็ดลองกอง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านแบคทีเรียก่อโรค ไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ และไม่มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ต่อ DNA
“ในปีงบประมาณ 2554 วว. อยู่ในระหว่างดำเนินการวิจัยและพัฒนาแยกสารสำคัญในสารสกัดจากเปลือกลองกองและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น อาหาร เครื่องดื่มและเครื่องสำอางจากสารสกัดและ/หรือสารสกัดที่แยกได้จากผลลองกอง อีกทั้งกำลังวิจัยและพัฒนาเครื่องปอกเปลือกลองกอง ซึ่งจะทำให้กระบวนการแปรรูปลองกองมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ใช้แรงงานคนน้อยลง ผลิตผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานและมีจำนวนมาก จะช่วยลดต้นทุนการผลิตในด้านการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ” นางเกษมศรี หอมชื่น กล่าวสรุป
ผู้สนใจนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลองกอง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Call center วว. โทร. 02 579 3000 หรือที่ ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร วว. โทร. 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 ในวันและเวลาราชการ หรือที่ E- mail : tistr@tistr.or.th