สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ท่องเที่ยวทางเลือก อีกหนึ่งทางออกของ SMEs

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ Smart SMEs โดย สุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจ ลูกค้าผู้ประกอบการ ธนาคารกสิกรไทย

ปีนี้สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องธุรกิจเกี่ยวเนื่องไม่ว่าจะเป็นโรงแรมและบริษัทนำเที่ยวต่างได้รับอานิสงส์กันทั่วหน้า จากมาตรการและการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น การต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าและการปรับลดค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรอง การท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัด โดยตลาดนักท่องเที่ยวที่น่าสนใจยังคงเป็นนักท่องเที่ยวจีน อาเซียน และยุโรป โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว

แน่นอนว่าการแข่งขันก็จะรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วยทั้งจากตัวกลางที่ให้บริการทำธุรกรรมด้านการท่องเที่ยวผ่านอินเทอร์เน็ต (Online Travel Agent หรือ OTA) ไม่ว่าจะผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นซึ่งจะมีบทบาทมากกว่าเดิม รวมถึงการแข่งขันจากที่พักประเภทอื่น เช่น คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บ้านพัก ที่จะเข้ามาท้าชิงแย่งส่วนแบ่งตลาดกับโรงแรมระดับสามดาวลงมา

อย่างไรก็ดี ยังมีอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำธุรกิจโรงแรมและบริษัทนำเที่ยว จากความได้เปรียบในด้านความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์และการดำเนินงานที่มีความคล่องตัวกว่าธุรกิจรายใหญ่ โดยอาจปรับเปลี่ยนมาให้บริการตอบโจทย์การท่องเที่ยวทางเลือกยุคใหม่ (Alternative Tourism) ที่กำลังได้รับความสนใจและมาแรง ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคาห้องพัก และราคาแพ็กเกจทัวร์ ให้ผู้ประกอบการยังรักษากำไรเอาไว้ได้ โดยการท่องเที่ยวทางเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่

1.การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Green Tourism)
 เพราะประเทศไทยมีธรรมชาติที่ยังมีความสมบูรณ์ทั้งป่าเขาและชายหาดที่สวยงาม ดังนั้นจึงควรจัดให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงามของธรรมชาติ หรือจัดให้มีกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น ศึกษาระบบนิเวศ ส่องนก ปลูกป่า เป็นต้น สำหรับผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมควรชูจุดเด่นที่ความสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ ออกแบบให้กลมกลืนกับระบบนิเวศ และส่งเสริมด้านการประหยัดพลังงาน เช่น โรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly)

2.การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Cultural Tourism)
 เนื่องจากวิถีชีวิตของชุมชนในแต่ละภูมิภาคของไทยนั้นมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รูปแบบการนำเสนอ จึงควรให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดชุมชน เช่น เดินเล่นชมเมือง ตลาดท้องถิ่น วัดวาอาราม โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ เยี่ยมชมชนเผ่าพื้นเมือง ถนนคนเดิน หรืออาจจัดเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ เช่น มวยไทย การประกอบการอาหารท้องถิ่น ฝึกงานศิลปะและหัตถกรรม ส่วนธุรกิจโรงแรมนั้นก็ควรเติมกลิ่นอายท้องถิ่นผสมผสานวิถีชีวิตของชุมชนเข้าไปให้นักท่องเที่ยวได้รู้สึกมีส่วนร่วมเช่น บูติคโฮเต็ล โฮมสเตย์ และควรมีการสื่อสารบอกเล่าเรื่องราวท้องถิ่นผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแหล่งท่องเที่ยวได้มากขึ้น

3.การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) 
ไทยเราขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ที่ไม่แพ้ใคร และยังมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ดังนั้นหากผู้ประกอบการมีการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามเข้าไป ก็อาจสร้างจุดเด่นและความแตกต่างได้ นอกจากนี้อาจมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ กายและใจ เช่น แพ็กเกจตรวจสุขภาพ นวดแผนไทย ประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ สปา โยคะ นั่งสมาธิ หรือนำเสนอโรงแรมที่มีความสงบ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสุขภาพอย่างครบวงจร เช่น รีสอร์ตเพื่อดูแลสุขภาพแบบองค์รวม นอกจากนี้ควรสร้างความแข็งแกร่งด้วยการหาพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น โรงพยาบาล คลินิก ผู้ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายฐานลูกค้าได้อีกทาง

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรมีการกำหนดรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์ และมีรูปแบบการทำตลาดให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาและการจัดโปรโมชั่นขายห้องพักหรือแพ็กเกจทัวร์ ผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ นอกจากนี้การใช้กลยุทธ์การบอกต่อ (Word-of-Mouth) ก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบของการรีวิวให้นักท่องเที่ยวแนะนำบอกต่อกันเองครับ


eosgear,ไร่รักษ์ไม้,สวนศิริผล,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags : ท่องเที่ยวทางเลือก อีกหนึ่งทางออก ของ SMEs

view