สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อ.เฉลิมชัย เล่าเรื่องในหลวง ทรงขับรถมาพระองค์เดียว และหอบรูปของพวกเรามาด้วยพระองค์เอง

อ.เฉลิมชัย เล่าเรื่องในหลวง "ทรงขับรถมาพระองค์เดียว และหอบรูปของพวกเรามาด้วยพระองค์เอง

จากประชาชาติธุรกิจ

ขอบคุณ ที่มา นิตยสารลิปส์ ฉบับครบรอบ 11 ปี 
ปักษ์แรก กรกฎาคม 2553 
คอลัมน์ ร้อยถ้อยคำ ร้อยดวงใจ ถวายแด่ในหลวง

-------------
เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปิน

คนไทยเราแค่ได้เห็นพระเจ้าอยู่หัวก็ดีใจมากเหลือเกินแล้ว มีความสุขแล้ว แต่ผมโชคดี มีโอกาสได้เข้าเฝ้าแทบเบื้องยุคลบาท จากการที่ผมได้ถวายงานในหลายๆ เรื่อง ซึ่งบางครั้งเป็นเรื่องส่วนพระองค์

สมัยเป็นเด็กๆ ผมมีความปรารถนาแบบตั้งจิตตั้งใจเลยว่า สักวันหนึ่งกูจะเป็นคนเก่งและกูจะได้มีโอกาสถวายการรับใช้และเข้าเฝ้า ผมคิดขนาดนั้นเลย เพราะรู้ว่าพระองค์ท่านทรงชอบวาดรูป การเรียนวาดรูปของผมก็ได้แรงบันดาลใจจากพระองค์ท่าน

ผมเคยวาดภาพที่วัดพุทธปทีปที่ลอนดอน งานนั้นผมตั้งใจทำถวายพระองค์ท่านเพื่อเป็นงานศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 โดยไม่มีใครสั่งให้ทำด้วย ทำด้วยตนเองเลย ซึ่งในขณะนั้นเรายากจนด้วยซ้ำไป ผลจากงานนี้ทำให้ผมมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรก เพราะทรงเลือกเราให้ทำงานถวายท่าน ทรงเห็นว่าการทำหนังสือพระมหาชนก พระองค์ท่านทรงต้องการงานวาดที่ไม่เลียนแบบรัชกาลใด เป็นศิลปะไทยสมัยใหม่ที่ไม่เหมือนกับวัดพุทธปทีปที่พระองค์ท่านได้เคยทอดพระเนตร

ครั้งแรกที่เข้าเฝ้า พระองค์ท่านรับสั่งว่า ใครที่เขียนรูปที่วัดพุทธปทีป ผมหมอบอยู่แทบพระบาทของพระองค์ท่านและยกมือขวาขึ้นบอกว่า ข้าพระพุทธเจ้าพ่ะย่ะค่ะ นี่คือความภูมิใจที่สุดในชีวิต ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่จะภูมิใจเท่านี้ หัวใจเราบอกกับตัวเองว่า "ไอ้เหลิมเอ๋ย เป็นความสำเร็จแล้วในการรอคอย สิ่งนี้มาตั้งแต่เด็ก วันนี้เป็นโอกาสของมึงแล้ว มึงทำได้แล้ว"

จากการที่ได้เข้าเฝ้าและได้ฟังความเป็นครูของพระเจ้าอยู่หัวในการที่พระองค์ทรงวินิจฉัยรูป ได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระเจ้าอยู่หัวในเชิงจิตวิทยาในการมอบหมายงานให้แต่ละคน ทรงให้กำลังใจให้ข้อคิด และมีพระอารมณ์ขัน เมื่อได้ใกล้ชิดยิ่งทำให้เราไม่นึกไม่ฝันว่าพระเจ้าอยู่หัวทำไมทรงมีชีวิตที่ง่ายเหลือเกิน ทรงขับรถมาพระองค์เดียว และหอบรูปของพวกเรามาด้วยพระองค์เอง และทรงบอกว่าเมื่อคืนทรงไม่ได้บรรทมเลย เพราะทรงนั่งตรวจงานของพวกเราอยู่ ซึ่งเป็นปึ๊งใหญ่มากๆ สิ่งนี้ก็สร้างความประทับใจให้มาก ขนาดเป็นพระเจ้าอยู่หัวยังทรงงานหนักขนาดนี้ แล้วเราล่ะ เราก็ต้องทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง นั่นคือสิ่งที่นำไปสู่การสร้างวัดร่องขุ่น ซึ่งงานนี้เป็นสิ่งที่ผมทุ่มเททำเพื่อถวายแด่พระเจ้าอยู่หัวด้วยชีวิตและจิตวิญญาณของผม นี่คือศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 ที่เป็นทั้้งสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และศิลปกรรม ผมเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ไม่ขอและรับเงินใครมาสร้างทั้งสิ้น

ผมขอสร้างวัดร่องขุ่นให้เป็นงานศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ฝากไว้ในแผ่นดินนี้โดยไม่ปรารถนาสิ่งใดตอบแทนจากพระองค์ท่าน หรือจากประเทศชาติแต่อย่างใด


เปิดครั้งแรก! ลายพระหัตถ์ในหลวง มีพระราชวินิจฉัยรูปช้าง "อ.เฉลิมชัย"เผยทรงมีพระอัจฉริยภาพทางศิลปะ

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

วันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนร่วมถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายในศาลาธรรมที่มีการจัดสถานที่เอาไว้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผู้คนได้เข้าไปยังหอศิลป์ของวัด ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ได้จัดแสดงผลงานหลายชิ้นที่เกี่ยวข้องกับพระพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยหนึ่งในผลงานที่ผู้คนนิยมเข้าชมและยังเป็นปริศนา เนื่องจากอาจารย์เฉลิมชัยระบุว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน คือ ภาพร่างด้วยดินสอดำบนกระดาษที่ตั้งอยู่ใกล้กันจำนวน 2 ภาพ คือ ภาพทรงชนะมาร และภาพร่างสมบูรณ์แบบที่แก้ไขตามพระราชกระแสรับสั่ง





โดยอาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า เมื่อปี 2538 ตนได้เข้าถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยการจัดทำภาพร่าง เพื่อนำไปจัดทำเหรียญพระราชทานแก่แพทย์และพยาบาลผู้รักษาพระหทัยเมื่อครั้นประชวรเป็นครั้งแรก โดยตนได้จัดทำภาพร่างเป็นช้างชูรูปหัวใจและอักษร “ภอ” ซึ่งเมื่อตนได้นำภาพร่างทูลเกล้าฯถวายเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ปีเดียวกัน ซึ่งพระองค์มีพระราชวินิจฉัยอย่างละเอียด และทรงให้ตนนำไปแก้ไขหลายจุด โดยมีลายพระหัตถ์เป็นตัวหนังสือด้านบนภาพใบหนึ่งว่า “ช้างหน้าดุเกินไป” และยังมีรับสั่งให้ย้ายอักษร “ภอ” แก้ไขตรงดอกบัว ส่วนงาช้างก็ไม่ให้แหลมเกินไป และตรงงวงช้างชูก็ให้มีความอ่อนช้อยมากขึ้น ซึ่งตนได้จดบันทึกเอาไว้บนภาพร่างดังกล่าวด้วย



อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวอีกว่า ตนได้ใช้ระยะเวลาในการแก้ตามที่ทรงมีรับสั่งเป็นเวลา 1 วัน จึงแล้วเสร็จ และนำกลับไปทูลเกล้าฯถวายอีกครั้ง จึงได้มีการนำไปจัดทำเป็นเหรียญจำนวน 800 กว่าเหรียญ โดยตนได้รับพระราชทานด้วยจำนวน 1 เหรียญ จึงได้เก็บเอาไว้ในตู้เซฟอย่างดี เพราะเป็นสิ่งที่มีสิริมงคลสำหรับตนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ การได้มีโอกาสถวายงานดังกล่าว ทำให้ตนทราบว่าในหลวงของเราทรงมีพระอัจฉริยภาพทางศิลปะเป็นอย่างมาก โดยพระองค์ทรงเป็นครูที่สุดยอดของตน ทรงชำนาญเรื่ององค์ประกอบของภาพ การประสานกลมกลืน รูปลักษณ์ รูปทรง ความสัมพันธ์ ความสมดุล ตนจึงถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับตัวเองและครอบตัวที่ได้มีโอกาสถวายงานเป็นอย่างมากหาที่สุดมิได้










ที่มา ข่าวสดออนไลน์


งดงาม! "อ.เฉลิมชัย"สร้างพระพุทธรูปศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 ไม่เหมือนยุคสมัยใด

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า ภายในวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยนั้น ทางอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดังและเป็นผู้สร้างศิลปะภายในวัดร่องขุ่น ยังคงตั้งใจสร้างพระพุทธรูปที่เป็นต้นแบบสีขาวองค์หนึ่ง ซึ่งมีหน้าตักกว้าง 22 นิ้ว ฐานกว้าง 28 นิ้ว และส่วนสูง 42 นิ้ว อยู่ภายในโรงสร้างของวัดร่องขุ่นอย่างต่อเนื่อง


โดยพระพุทธรูปดังกล่าวมีลักษณะงดงามและมีลวดลายที่อ่อนช้อยตามรูปแบบศิลปะที่สร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัยที่ไม่เหมือนศิลปะใดๆ ซึ่งอาจารย์เฉลิมชัยระบุว่าเป็นพระพุทธรูปศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 ซึ่งเคยตั้งใจว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แต่เมื่อพระองค์ทรงเสด็จสวรรคตก็รู้สึกเสียใจมาก จึงตั้งใจจะนำมาประดิษฐานภายในวัดร่องขุ่นต่อไป



อาจารย์เฉลิมชัย เปิดเผยว่า ในชีวิตของตนนั้นได้พากเพียรสร้างศิลปะที่วัดร่องขุ่นอย่างเต็มที่ และหนึ่งในความมุ่งมั่นในการจัดสร้างขึ้นอย่างมากคือองค์พระพุทธรูป ซึ่งมีเอกลักษณ์ของความเป็นศิลปะในยุคสมัยของรัชกาลที่ 9 อย่างแท้จริง โดยไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจากศิลปะของยุคใดๆ ไม่ว่าจะเป็นยุคสุโขทัย อยุธยา ฯลฯ ทำให้หลังจากตนได้แรงบันดาลใจจากการถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้วยการวาดภาพประกอบพระราชนิพนธ์พระมหาชนกมาสร้างวัดร่องขุ่นแล้ว ก็ได้จัดสร้างพระพุทธรูปไว้แล้วหลายองค์แล้วนำไปประดิษฐานตามจุดต่างๆ ของวัด เช่น พระประธานภายในอุโบสถขาว เป็นต้น กระนั้นทั้งหมดนั้นตนก็ยังคิดว่าทั้งหมดยังไม่ถึงที่สุด


อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนตนจึงตั้งใจจัดสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้น เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามที่สุดและไม่ลอกเลียนแบบศิลปะของยุคสมัยใด แต่เป็นยุครัตนโกสินทร์สมัยรัชกาลที่ 9 อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ใช้ระยะเวลาจัดสร้างนาน เพราะมีการแก้ไขกันแล้วหลายรอบ กระทั่งผ่านพ้นเวลาไป 2 ปีดังกล่าว จึงเห็นว่าใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยคาดว่าน่าจะแก้ไขอีกราว 1-2 ครั้งก็คงจะแล้วเสร็จ จากนั้นตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้เป็นต้นแบบเพื่อส่งให้โรงหล่อทำการหล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ตามขนาดต้นแบบ แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายในหลวงและขอพระราชทานชื่อพระพุทธรูปด้วย แต่เมื่อต้องมีเหตุที่ทำให้คนไทยทั้งหมดเศร้าโศกเสียใจดังกล่าวทำให้ตนไม่มีโอกาสนำถวายอีกต่อไป


ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย กล่าวอีกว่า ตนจะยังคงมุ่งมั่นจัดสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ให้ได้ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และเมื่อแล้วเสร็จแล้วก็จะนำไปประดิษฐานเพื่อความเป็นสิริมงคลภายในวัด โดยปัจจุบันได้มีการจัดทำสถานที่เป็นเนินแห่งหนึ่งภายในวัด ลักษณะเป็นเกาะที่มีน้ำล้อมรอบ บนเกาะมีมหาวิหารที่งดงาม จากนั้นจะได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ไปประดิษฐานไว้บริเวณด้านหน้ามหาวิหารเพื่อให้ผู้คนได้เข้าชมและสักการะบูชาต่อไป





ที่มา ข่าวสดออนไลน์


อี.โอ.เอส เกียร์,ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต,#มีดดามัสกัส,#เหล็กดามัสกัส



Tags : อ.เฉลิมชัย เล่าเรื่องในหลวง ทรงขับรถมาพระองค์เดียว หอบรูป พวกเรา มาด้วยพระองค์เอง

view